เปิดหนังสือยื่น กกต.ชงยุบ 'พท. - พรรคร่วมฯ' ยกเข่ง เซ่นปมคลิปเสียง

เปิดหนังสือยื่น กกต.ชงยุบ 'พท. - พรรคร่วมฯ' ยกเข่ง เซ่นปมคลิปเสียง

เปิดหนังสือยื่น กกต.ชง 'ยุบพรรคเพื่อไทย - พรรคร่วมรัฐบาล' ยกกระบิ เซ่นปมคลิปเสียงฉาว 'นายกฯ แพทองธาร - ฮุน เซน'

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายทิวา การกระสัง ทนายความ ยื่นหนังสือร้องเรียนถึง กกต.ขอให้พิจารณาส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยุบพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล โดยอ้างว่า การกระทำของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ฝ่าฝืนต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง พร้อมหลักฐานสำคัญเป็นคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ยอมรับว่าเป็นของจริง และการประชุมสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่จังหวัด สุรินทร์ให้ประเทศไทยเปิดด่านพร้อมกัมพูชา

หนังสือดังกล่าว ระบุว่า เมื่อเหตุการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้เริ่มจากการยั่วยุของฝ่ายกัมพูชา และมีการปะทะกันระหว่างทหารของทั้งสองประเทศ โดยฝ่ายกัมพูชาอ้างสิทธิเหนือดินแดนช่องบก ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย ที่เป็นข้อพิพาท และมีการเพิ่มกำลังทหารบริเวณชายแดนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลไทยโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กลับไม่ได้ดำเนินมาตรการที่เหมาะสมในการตอบโต้ทางการทูต เนื่องจากความสนิทสนมเป็นการส่วนตัวกับตระกูลฮุน ผู้นำประเทศกัมพูชา

เปิดหนังสือยื่น กกต.ชงยุบ 'พท. - พรรคร่วมฯ' ยกเข่ง เซ่นปมคลิปเสียง

ประเด็นข้อกล่าวหาตามร้องเรียน คลิปเสียงการสนทนา ระหว่าง นายกฯ และสมเด็จ ฮุน เซน แสดงให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีมีเจตนาเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายกัมพูชาเกี่ยวกับการเปิด-ปิดด่านชายแดน /วิจารณ์เชิงลบต่อฝ่ายกองทัพไทยว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม /นำความลับ มาตรการของประเทศเผยแพร่ให้ผู้นำรัฐต่างชาติทราบ / ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเจรจาต่อรองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ถือว่า ฝ่าฝืนต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

นอกจากนี้ยังมีคลิปภาพ และเสียงยืนยันการยอมรับของนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรียอมรับต่อสาธารณะว่าคลิปเสียงเป็นของจริง ขณะที่การดำเนินการที่สวนทางกับผลประโยชน์ชาติ รัฐบาลปล่อยให้กองทัพดำเนินการฝ่ายเดียวโดยไม่ดำเนินมาตรการทางการทูตที่เหมาะสม ไม่รักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้เปิดด่านตามข้อเรียกร้องของของฮุน เซน ทำให้ไทยเสียข้อต่อรองกับประเทศกัมพูชา เนื่องจาก ความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างตระกูลชินวัตร และสมเด็จฮุน เซน ความสัมพันธ์ส่วนตัวส่งผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน และผลประโยชน์ของชาติ

เปิดหนังสือยื่น กกต.ชงยุบ 'พท. - พรรคร่วมฯ' ยกเข่ง เซ่นปมคลิปเสียง

ส่วนสาเหตุที่ต้องร้องเรียนให้ยุบพรรคเพื่อไทย เนื่องจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถูกกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ปกป้องอธิปไตย และผลประโยชน์ชาติ ขัดรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอื่นๆ อย่างร้ายแรง ซึ่งถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ และเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

เมื่อปรากฏข่าวดังกล่าว คณะกรรมการบริหารพรรคต่างนิ่งเฉย ยังคงสนับสนุนให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป ถือว่า เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ส่วนสาเหตุที่ต้องให้ยุบพรรคร่วมรัฐบาล เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาล (ได้แก่ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคกล้าธรรม พรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคอื่นๆ) มีมติสนับสนุนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป แม้ทราบถึงการกระทำที่เป็นภัยต่อความมั่นคง เพื่อประโยชน์ในการเข้าร่วมรัฐบาล และการจัดสรรโควตารัฐมนตรี จึงเป็นการกระทำที่อาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

ทั้งนี้ ขอให้ กกต. ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลที่สนับสนุนการกระทำดังกล่าว ขอให้มีการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล

โดยการร้องเรียนดังกล่าว เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราขอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 52, 161, 164 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 20, 21, 22, 45, 92 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119, 120, 157

ท้ายที่สุด นายทิวา การกระสัง ขอให้ กกต. เร่งดำเนินการในเรื่องดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อปกป้องความมั่นคงของประเทศ และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายร้ายแรงถึงขั้นต้องสูญเสียดินแดน เหมือนในกรณีเขาพระวิหารในอนาคต

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์