‘บิ๊กป้อม’ ซัด ‘แพทองธาร’ ปล่อยล่าสังหาร ‘ฝ่ายค้านกัมพูชา’ ในไทย

“บิ๊กป้อม” ชี้ “ลิม กิมยา” ฝ่ายค้านกัมพูชา โดนยิงกลางกรุงเทพฯ “นายกฯ” ไม่กล้าเผชิญหน้า ต่างชาติเลยกล้าเหยียบเท้า สะท้อนไทยอ่อนแอ ถูกใช้เป็นสนามไล่ล่าทางการเมือง โว สมัยผมไม่ปล่อย
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤติความสัมพันธ์ ไทย-กัมพูชา จากกรณีคลิปเสียงหลุดที่สำนักข่าว Al Jazeera เผยแพร่ โดยในคลิปมีเสียงคล้ายผู้นำกัมพูชา สั่งตรงถึง “เคลียง ฮวด” ให้ตามล่าคนเห็นต่างทางการเมือง แม้จะอยู่ในประเทศไทย พร้อมระบุว่า จะจับเป็นหรือจับตายก็ได้ และต้อง เอาตัวกลับให้ได้ สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในสังคมไทย โดยเฉพาะเมื่อเนื้อหาในคลิปยังระบุชัดว่า มีเครือข่ายอยู่ในไทย และบางส่วนอ้างว่าทำงานกับเจ้าหน้าที่ไทยด้วยนั้น เหตุการณ์นี้ถูกโยงกับคดีลอบสังหารนายลิม กิมยา อดีต สส.ฝ่ายค้าน กัมพูชา ซึ่งถือสัญชาติฝรั่งเศส–กัมพูชา ที่ถูกยิงกลางกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 โดยคนร้ายหลบหนีไปกัมพูชาได้อย่างไร้ร่องรอย แต่สิ่งที่น่าห่วงกว่าความรุนแรง คือ ท่าทีของรัฐบาลไทยที่ถูกตั้งคำถามอย่างหนักว่าทำไมยังไม่ตอบโต้ใดๆ ชัดเจน
“ผมขอเตือนว่า เมื่อผู้นำไม่กล้าเผชิญหน้า ต่างชาติก็เลยกล้าเหยียบเท้าเรา เหตุการณ์นี้สะท้อนว่า ประเทศไทยกำลังถูกมองว่าอ่อนแอ และถูกใช้เป็นสนามไล่ล่าทางการเมือง สมัยผมไม่เคยปล่อยให้ใครคิดว่าไทยเป็นแค่ทางผ่านหรือพื้นที่ล่าสังหาร ใครข้ามเส้นมา ผมมีวิธีให้เขากลับไปแบบไม่ลืมว่าแผ่นดินนี้มีเจ้าของ การปกป้องแผ่นดินไม่ใช่แค่หน้าที่ของทหาร แต่เป็นหน้าที่ของผู้นำที่ต้องกล้าแสดงจุดยืน และไม่ลังเลต่อการปกป้องอธิปไตยของประเทศ” พล.อ.ประวิตร กล่าว
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใครจะเป็นผู้นำ ไม่สำคัญเท่ากับว่า เขากล้าปกป้องคนทุกคนที่ยืนอยู่บนแผ่นดินนี้หรือไม่ ไม่ว่าคนนั้นจะพูดภาษาอะไร หรือเห็นต่างกับใครก็ตาม ถึงเวลาแล้วที่ไทยต้องมีจุดยืนไม่ใช่ เงียบงัน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







