อาวุธลับ 'ฮุนเซน' กองพล BHQ ประชิด 'ช่องบก'

จากกองพลน้อยที่ 70 สู่หน่วยองครักษ์ BHQ กองกำลังส่วนตัวของตระกูล “ฮุน” ภายใต้การบัญชาการของมือพิฆาต “ฮิง บุนเฮียง” 

หลังการประชุมร่วมไทย-กัมพูชา JBC ที่กรุงพนมเปญ สิ้นสุดลง เพจเฟซบุ๊คสถานีโทรทัศน์แห่งชาติกัมพูชา(TVK) ได้โพสต์ภาพคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และทหารกัมพูชา จากชายแดน จ.พระวิหาร พร้อมข้อความดังนี้

“เราพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งจากหัวหน้ารัฐบาลตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อปกป้องประเทศจากผู้รุกราน....หนึ่งชีวิตเพื่อชาติ ไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาดของพวกเราทุกคน กองกำลังที่ปกป้องประเทศ โปรดไว้วางใจประชาชนและอย่ากังวล”

มีข้อน่าสังเกต ทหารกัมพูชาทุกคน แต่งกายแตกต่างจากทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่แนวหน้าด้านช่องบก และบนเสื้อเกราะทางยุทธวิธีมีชื่ออักษรย่อ “BHQ” พวกเขาคือทหารหน่วยใด

นับแต่สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียด สื่อฝั่งเขมรได้ให้ความสำคัญของ หน่วยทหาร BHQ ที่เคลื่อนกำลังมาประชิดชายแดนไทยด้าน จ.พระวิหาร 

เนื่องจากทหารหน่วยนี้คือ หน่วยองครักษ์ กองบัญชาการทหารสูงสุด กองทัพแห่งชาติกัมพูชา (Bodyguard Headquarters: BHQ) ซึ่งมีสถานะเทียบเท่ากองพลน้อย 

เหนืออื่นใด พล.อ.ฮิง บุนเฮียง ผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์ (BHQ) และรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด คือ นายทหารคนสนิทของ สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา

หน่วยองครักษ์ กองบัญชาการทหารสูงสุด (BHQ) แปลงร่างมาจาก “กองพลน้อยที่ 70” ได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธ และฝึกการรบสมัยใหม่จากกองทัพประชาชนจีน 

หน่วยทหารองครักษ์ BHQ จึงเป็น “อาวุธลับ” ของสมเด็จฮุน เซน ในสมรภูมิช่องบกหรือสามเหลี่ยมมรกตครั้งใหม่ 

เปิดโฉมกองพลน้อยที่ 70

เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว สมเด็จฮุน เซน ได้จัดตั้ง “กองพลน้อยที่ 70” เป็นเหมือนหน่วยรบเฉพาะกิจที่ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี จึงมีนักฝ่ายค้านโจมตีว่าเป็น “กองกำลังส่วนตัว” ของตระกูลฮุน

ปี 2540 กองพลน้อยที่ 70 เป็นหน่วยทหารหลักในการทำรัฐประหาร ขจัดฐานอำนาจการเมือง-การทหาร ฝ่ายเจ้านโรดม รณฤทธิ์ และทำให้ฮุน เซน ยึดกุมอำนาจเบ็ดเสร็จในกัมพูชา 

นับจากนั้นเป็นต้นมา กองพลน้อยที่ 70 กลายเป็นศูนย์อำนาจที่แท้จริงนี่คือหน่วยรบที่ได้ชื่อว่าทันสมัยที่สุด ได้รับการฝึกฝนดีที่สุด มีอาวุธยุทโธปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือทางการทหารทันสมัยที่สุด

หลังเหตุการณ์วินาศกรรมช็อกโลก 11 ก.ย. 2544 ฮุน มาเนต ในฐานะ ผบ.กองพลน้อยที่ 70 ได้เจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ ขอความช่วยเหลือด้านการทหาร เพื่อป้องกันการก่อการร้าย

สหรัฐฯ จึงทุ่มงบประมาณให้รัฐบาลกัมพูชา พัฒนาและยกระดับกองพลน้อยที่ 70 เป็นหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายสากล 

ภารกิจกองพลน้อยที่ 70 คือ ดูแลความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรีและครอบครัว รวมถึงแขกผู้มีเกียรติระดับสูงจากต่างประเทศ

ต่อต้านการก่อการร้าย มีการฝึกฝนเทคนิคปฏิบัติการพิเศษแบบหน่วยรบพิเศษ(Special Forces) พร้อมสอดแทรกในสถานการณ์วิกฤต

สู่หน่วยองครักษ์ BHQ

ช่วงก่อนการเปลี่ยนถ่ายอำนาจจาก สมเด็จฮุน เซน เป็นฮุน มาเนต ได้มีการยกระดับ “กองพลน้อยที่ 70” สังกัดกองทัพบก เป็น “หน่วยทหารองครักษ์ BHQ” สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด

กลางปี 2560 พล.อ.ฮิง บุนเฮียง ผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์(BHQ) ได้เปิดภาพกำลังทหารหน่วยองครักษ์ พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ เป็นครั้งแรก

ในวันนั้น พล.อ.ฮิง บุนเฮียง เรียกประชุมให้โอวาทแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา และได้ย้ำคำขวัญ 3 ประการของกำลังพลหน่วยนี้ ซื่อสัตย์ คุ้มกันและบริการ รวมถึงภารกิจหลัก ที่จะต้องปกป้องคุ้มครองนายกรัฐมนตรี กับสมาชิกครอบครัวผู้นำทุกคน

ดังนั้น ที่ตั้งของกองพลน้อยที่ 70 หรือหน่วยทหารองครักษ์ BHQ จึงอยู่ อ.ตาขะเมา จ.กันดาล ที่มีคฤหาสน์ของสมเด็จฮุน เซน อยู่ในเมืองนี้

สื่อกัมพูชาทราบดีว่า ค่ายตาขะเมา เป็นที่ตั้งของกองบัญชาการกองทัพโซนพิเศษ ที่มีอำนาจครอบคลุม 3 อาณาบริเวณเป็นการเฉพาะ ได้แก่ กรุงพนมเปญ จ.กันดาล และ จ.กัมปงชะนัง โดยมีกำลังพลในสังกัดจำนวนหลายพันนายรายล้อมเมืองหลวง

คฤหาสน์หลังใหม่ของครอบครัวสมเด็จฮุน เซน ก็อยู่ที่ อ.ตาขะเมา จ.กันดาล ซึ่งเมื่อกลางปี 2566 ทักษิณ ชินวัตร และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เข้าไปอวยพรวันเกิดสมเด็จฮุน เซน ที่บ้านพักหลังนี้มาแล้ว

เนื่องในพิธีรำลึกการก่อตั้งหน่วยองครักษ์ BHQ เมื่อเดือน ก.ย. 2560 พล.อ.ฮิง บุนเฮียง กล่าวว่า

“บางคนเอาไปเล่าลือ เรามีรถถังอยู่ 50 คัน แต่เรามี 100 คัน ไม่ใช่ 50 คัน...อาวุธทันสมัยพวกนี้่เก็บไว้เพื่อรับประกันความปลอดภัยของสาธารณชน กับความมั่้นคงของสังคม ไม่ได้เตรียมเอาไว้เพื่อทำสงครามกับใคร”

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเปิดเผยว่า ระยะหลัง หน่วยองครักษ์ BHQ ได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ และการฝึกกำลังพลจากกองทัพประชาชนจีน 

2 ปีที่แล้ว มีการซ้อมรบร่วมกองทัพจีน-กัมพูชา Golden Dragon ก็แฝงไว้ด้วยฝึกหน่วยองครักษ์ (กองพลน้อยที่ 70) ที่เสริมอำนาจตระกูลฮุนให้น่าเกรงขาม ไร้คู่ต่อกรทางการเมืองภายในประเทศ 

พลันที่สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียด ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จึงสั่งการให้ พล.อ.ฮิง บุนเฮียง นำทหารหน่วยองครักษ์ BHQ พร้อมอาวุธหนัก มาประจำการ จ.พระวิหาร 

มือพิฆาตคู่บารมี

พล.อ.ฮิง บุนเฮียง คือใคร? จึงได้รับมอบหมายให้คุมกองกำลังส่วนตัวของตระกูล “ฮุน”

“ฮิง บุนเฮียง” นายทหารผู้นี้ได้รับความไว้วางจากสมเด็จฮุน เซน มากที่สุดอีกคนหนึ่ง เพราะได้ร่วมต่อสู้ร่วมเคียงไหล่กันมากตั้งแต่ยุคหนีเขมรแดงเข้าเวียดนาม ซึ่งเวลานั้น บุนเฮียงยังเป็นทหารเด็กๆ

นับแต่ปี 2544 พล.อ.ฮิง บุนเฮียง ได้ชื่อว่าเป็น “มือพิฆาต” ที่ดำเนินการปราบปรามฝ่ายต่อต้าน จึงกล่าวขานกันว่า นายพลผู้นี้เป็น “อาวุธลับ” ของสมเด็จฮุน เซน

5 ปีที่แล้ว กระทรวงการคลังสหรัฐ ได้ประกาศอายัดทรัพย์สินของ พล.อ.อิง บุนเฮียง ในสหรัฐอเมริกา ทั้งห้ามเดินทางเข้าสหรัฐฯ โดยอ้างเหตุผลการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างสูง

รวมทั้ง สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา ที่ลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเศส ได้ยื่นฟ้องนายพลบุนเฮียง ในคดีว่าจ้างอันธพาลโจมตีเวทีปราศรัยของสมรังสี ด้วยระเบิดมือ เมื่อปี 2540 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 16 คน

ไม่ว่า ฝ่ายค้านนอกสภาจะเคลื่อนไหวในต่างประเทศอย่างไร ก็ไม่กระทบสถานะขุนศึกคู่บารมี พล.อ.ฮิง บุนเฮียง ผู้นำกองกำลังส่วนตัวของสมเด็จฮุน เซน