'กัมพูชา' ลั่นไม่ถอนกำลังทหาร ตามคำเรียกร้อง 'ภูมิธรรม'

กัมพูชา ปฏิเสธถอนกำลังทหาร ตามคำเรียกร้องของฝ่ายไทย หลัง "เตีย เซย์ฮา - ภูมิธรรม" พูดคุยกัน 5 มิ.ย.68 ลั่นหากไทยใช้แผนที่ต่างกัน จะไม่พบจุดกลางความมั่นคงชายแดน
วันที่ 6 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กกระทรวงกลาโหมกัมพูชา โพสต์ข้อความว่า บ่ายวันที่ 5 มิถุนายน 2025 พล.ต.เตีย เซย์ฮา รองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าพบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประเทศไทย เกี่ยวกับความตึงเครียดชายแดนที่เกิดขึ้นใน อ.นาประเทศ จ.สระแก้ว อาณาจักรแห่ง ประเทศไทย
ผลจากการประชุม :
- ตกลงที่จะลดความตึงเครียดทั้งสองฝ่าย รักษาการสื่อสารร่วมกัน ทําความเข้าใจ และรักษาการเจรจาอย่างสงบสุขสู่วันข้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะทางทหาร กัมพูชา-ไทย
- ฝั่งไทยขอให้กัมพูชาถอนกําลังทหารออกจากตําแหน่งที่ยืนในเขตมุมไบที่ต่อสู้เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ทางฝั่งกัมพูชาปฏิเสธที่จะรับคําร้อง เนื่องจากตําแหน่งข้างต้นเป็นตําแหน่งภายใต้อํานาจอธิปไตยของกัมพูชาซึ่งยืนถาวรมาตั้งแต่ การเริ่มต้น ฝั่งกัมพูชาถอยไม่ได้จากตําแหน่งที่กองทัพกัมพูชายืนมานาน และอยู่ภายใต้อํานาจอธิปไตยของกัมพูชา
- ตราบใดที่ฝั่งไทยใช้แผนที่ต่างกัน ตาชั่งต่างกัน เราก็จะไม่พบจุดกลางในการรักษาความมั่นคงชายแดน ฝั่งกัมพูชายังคงยึดมั่นในจิตวิญญาณแห่งการเคารพบันทึกความเข้าใจ 2000 (MOU 2000) เหมือนในอดีต พรรคชาวกัมพูชาจึงตัดสินใจเตรียมคดีส่ง 4 ภาค (เขตมุมไบ วัดตะมานท่อม วัดตะมานทอก และวัดตากบรูย) ไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ในประเทศลาว เพื่อยุติข้อพิพาท และกําหนดขอบเขตเฉพาะ กัมพูชาตั้งใจที่จะยอมรับความสงบ ความมั่นคง และผลประโยชน์ของประชาชนของเราทั้งสองฝ่ายเท่านั้น ในการนั้นฝั่งไทยยังแสดงความเคารพต่อสิทธิของกัมพูชาในการส่ง 4 ประเด็นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เรายังได้ตกลงที่จะขยายกลไกการเจรจาต่อรองในการประชุม GBC/JBC/RBC ไปยังจุดอื่นๆ ในวันข้างหน้า
ประเทศไทย ยังยืนยัน และยกเลิกข้อมูลเท็จทั้งหมด และผลักดันสถานการณ์ที่จะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของทั้งทหารของเรา และประชาชนของเรา เช่น การกล่าวถึงการปิดประตูชายแดนระหว่างประเทศ การยกเลิกการประชุม JBC และข่าวอื่นๆ อย่างไม่เป็นทางการ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







