‘พริษฐ์’ ซัด รัฐบาล ไม่รอบคอบ ลุย เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ แนะ ประชามติ

‘พริษฐ์’ ซัด รัฐบาล ไม่รอบคอบ ลุย เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ แนะ ประชามติ

“พริษฐ์” ย้ำ ไม่เห็นด้วย เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ปชช.ไม่ไว้ใจ ไม่มีในนโยบาย หาเสียง สวน รัฐบาล ประโยชน์เศรษฐกิจ ไม่ชัดเจน ห่วง คนจีนลด เผย ผู้ประกอบการต้องพึ่งนักเล่นคนไทยจำนวนมาก ไร้มาตรการป้องกันรัดกุม เทียบสิงคโปร์ไม่ติด

ที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ร่วมเสวนาโต๊ะกลม Thai Entertainment Complex Roundtable โดยให้ความเห็นต่อนโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ของรัฐบาล ว่า จุดยืนของตนไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว มีข้อสังเกตและเกิดคำถามมากมายถึงรัฐบาลเรื่องความตรงไปตรงมา และการสื่อสาร การที่อ้างว่าเอกชนสนใจลงทุนไม่ได้เป็นหลักประกันว่ารัฐบาลดำเนินการประสบความสำเร็จ หรือมาถูกทางเสมอไป พรรคประชาชนมีความกังวลกับนโยบายนี้ของรัฐบาล 

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ส่วนประโยชน์ทางเศรษฐกิจตามที่รัฐบาลอ้างอิงยังไม่ชัดเจน ไม่มีรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ที่รอบด้านเพียงพอ มีแค่รายงานของกรรมาธิการศึกษาของสภา ที่ยังมีคำถามถึงตัวเลขต่างๆ และความรอบด้าน ขณะที่เหตุผลด้านจำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ระบุจะเพิ่มขึ้นนั้น ทางการจีนมีมาตรการที่เข้มงวดกับคนของตัวเองที่จะเดินทางไปเล่นในประเทศที่มีกาสิโนถูกกฎหมาย จะมีผลกระทบกับประเทศไทย ที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวยังไม่กลับมาเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด ทั้งนี้ กรณีที่ระบุว่าค่าใช้จ่ายต่อหัวจะเพิ่มขึ้นนั้น ผลประโยชน์จะตกกับใคร เรื่องอัตราภาษีของคนที่มาใช้จ่ายในกาสิโน เข้าประเทศไทยหรือไม่ จะเก็บภาษีได้แค่ไหน รัฐบาลไม่เคยรับประกันตัวเลขขั้นต่ำ 

นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้น รัฐบาลไม่มีมาตรการป้องกันที่รัดกุมรองรับผลกระทบทางสังคมในระดับ พ.ร.บ. จึงอยากเห็นหลักประกันในส่วนนี้ รัฐบาลพูดถึงมาตรการที่ดีต่างๆ แต่ไม่มีอยู่ในกฎหมาย มาตรการเหล่านี้จึงอาจไม่อยู่ในพ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้อง และอนาคตอาจเป็นรัฐบาลอีกชุด และทางผู้ประกอบการพึงพอใจต่อมาตรการในร่างพ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ แล้วจริงหรือไม่ เพราะค่อนข้างห่างไกลกับประเทศอื่นโดยเฉพาะสิงคโปร์ 

นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า กระบวนการดำเนินนโยบาย ประชาชนมีความไม่ไว้วางใจ เพราะเป็นนโยบายที่ไม่ได้มีการหาเสียงไว้ก่อนเลือกตั้ง ทั้งที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนกลับไม่สื่อสารกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมา การที่บอกว่าเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ไม่เท่ากับกาสิโน ทั้งที่รู้กันดีว่าหัวใจหลักคือกาสิโน การตัดสินใจเดินหน้าของรัฐบาลจึงสร้างความไม่ไว้วางใจต่อประชาชนและกลุ่มคนที่เห็นต่าง 

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ผลการศึกษาของเอกชนที่ระบุว่าลงทุนในไทยแล้วคุ้มทุนผ่านผู้ที่มาใช้บริการ แต่ฝ่ายการเมืองต้องปกป้องประโยชน์ของรัฐ รัฐจึงต้องมีผลการศึกษาของตัวเองเพื่อบาลานซ์กัน ไม่ใช่ใช้ของเอกชนเท่านั้น ตนตกใจว่าหน่วยงานของรัฐอย่างสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ยังไม่ได้คิดถึงผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยงจีนที่จะลดลง ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญ รัฐบาลไม่รอบคอบเพียงพอกับนโยบายที่ใหญ่ขนาดนี้ 

ทั้งนี้ ถ้าไทยไม่พึ่งพานักท่องเที่ยวจีน แล้วไปพึ่งพานักท่องเที่ยวประเทศอื่นเพื่อให้คุ้มค่าแทนนั้น แต่ราคาที่ประเทศต้องจ่ายมีอะไรบ้างหรือไม่ เพราะนโยบายของทางการจีนก็ทำให้นักท่องเที่ยวที่ไปเล่นตามประเทศต่างๆ ที่มีกาสิโนลดลง เช่น ฟิลิปปินส์ ดังนั้น แนวคิดของไทยกับสิงคโปร์ จึงแตกต่างกัน ของเราออกกฎหมายใหม่ ให้อำนาจซูเปอร์บอร์ดกำหนดมาตรการ โดยไม่แตะพ.ร.บ.การพนัน ที่มีอยู่แล้ว ส่วนสิงคโปร์ มีมาตรการควบคุมกาสิโน และตั้งองค์กรขึ้นมาแก้ปัญหาการติดพนัน นอกจากนั้น ในสภาอยู่ระหว่างแก้ไขกฎหมายฟอกเงิน ก็ไม่มีการดำเนินการรองรับในเรื่องนี้ สะท้อนว่ารัฐบาลไม่ได้คิดเป็นแพ็คเกจ ฝ่ายกำกับดูแลและผู้ประกอบการต้องร่วมกันเหมือนสิงคโปร์ ซึ่งรูปแบบของสิงคโปร์ มีคุณมากกว่าโทษ แต่เมื่อเทียบกับประเทศไทย ดัชนีคอร์รัปชั่นของไทยกับสิงค์โปร์ ก็แตกต่างกันเยอะ 

ทั้งนี้ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ควรทำประชามติว่าจะให้มีเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ในพื้นที่ใด ไม่เช่นนั้น เอกชนก็อยากลงทุนในเมืองใหญ่ เช่น กทม. คนก็จะไปเมืองรองน้อย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของผู้ประกอบการระบุ จะต้องมีผู้เล่นคนไทยจำนวนมาก แต่ร่างพ.ร.บ. กำหนดคนไทยต้องมีเงินในบัญชีขั้นต่ำ50ล้าน เท่ากับปิดประตูสำหรับคนไทย การที่รัฐบาลกำหนดเช่นนี้ เพื่อเอาตัวรอดให้ผ่านแรงต้านเพื่อให้ร่างกฎหมายผ่านสภาวาระ1 แล้วไปโหวตแก้ไขในชั้นกรรมาธิการ ก็จะทำให้ภาพที่สวยหรูไม่เกิด ยิ่งจะเพิ่มแรงเสียดทานและตอกย้ำความไม่ไว้วางใจมากขึ้น ถ้าจะไม่ให้คนไทยเล่น ก็บอกตั้งแต่วันนี้ และการให้เอกชนลงทุนต้องเสรีเป็นธรรม เม็ดเงินตกกับประเทศ ไม่แลกด้วยปัญหาสังคม ไม่เอื้อผู้ประกอบการมาก โดยคำนึงผลประโยชน์ของประชาชนน้อย