‘พ่อ’ฝากดูแลพี่น้อง เปิดตัวองค์กรใหม่ ‘สหายเก่า‘

จาก “ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย” (ผรท.) ชื่อที่เรียกขานอดีตสหายดาวแดงมาตั้งแต่ปี 2525 มาถึง พ.ศ.นี้ มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

“องค์กรเครือข่ายความร่วมมือผู้ร่วมพัฒนาเพื่อชาติไทย” (คผท.) คือขบวนการจัดตั้งใหม่ ภายใต้ร่มธงอนุรักษนิยม

วันอาทิตย์ที่ 25 พ.ค.2568 องค์กร คผท.จะได้จัดประชุมสมาชิก(อดีตสหาย)ในเขตภาคกลาง และภาคตะวันตก ที่วัดยางน้ำกลัดเหนือ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี

อันเนื่องมาจาก พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ได้ปฏิบัติตามคำสั่งเสียของบิดา พ.ท.พโยม จุลานนท์ หรือ “ลุงคำตัน” อดีตเสนาธิการกองทัพปลดแอกประชาชนไทย เป็นที่มาของโครงการ “พ่อสั่งไว้ให้ดูแลพี่น้องด้วย”

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2567 พล.อ.สุรยุทธ์ ได้เข้าร่วมงานรำลึก 20 ปี อนุสรณ์สถานภูพยัคฆ์ ที่บ้านน้ำรีพัฒนา ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน 

วันนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ ได้เขียนความในใจลงในสมุดเยี่ยมของอนุสรณ์สถานภูพยัคฆ์ว่า 

“มีความยินดีที่ได้มาพบปะกับสหายทั้งหลาย ที่ได้เคยทำงานร่วมกับคุณพ่อของผม และได้มีโอกาสช่วยกันดูแลพี่น้องทั้งหลายร่วมกันให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และจะช่วยกันต่อไป” 

ตอนท้ายได้ลงชื่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ บุตรชายสหายคำตัน 

สำหรับ “องค์กรเครือข่ายความร่วมมือผู้ร่วมพัฒนาเพื่อชาติไทย” (คผท.) มี พล.อ.ภุชงค์ รัตนวรรณ เลขานุการประธานองคมนตรี เป็นผู้ประสานงานร่วมกับอดีตสหายภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้  

นอกจากนี้ ยังมี ศักดิ์ณรงค์ ศิริพร ณ ราชสีมา รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย และชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีต สส.นครพนม และรองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เป็นที่ปรึกษา 

ที่ผ่านมา องค์กร คผท.ได้จัดประชุมสมาชิก(อดีตสหาย) มาแล้ว 9 ครั้งในทั่วทุกภาค คาดว่า มีสมาชิกนับหมื่นคน

เฉพาะหน้านี้ องค์กร คผท. กำลังเคลื่อนไหวเรื่องการช่วยเหลือผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย(ผรท.) ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 278/2566 (เศรษฐา ทวีสิน) และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 399/2567 (แพทองธาร ชินวัตร)

ว่ากันตามจริง การเรียกร้องให้รัฐบาล และกองทัพ ทำตามพันธสัญญาที่ให้ไว้ในคำสั่ง 66/2523 ได้มีกลุ่ม ผรท.เคลื่อนไหวมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่รัฐบาลชวน หลีกภัย จนมาถึงรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร

ปี 2543 รัฐบาลชวน หลีกภัย ผรท.ภาคอีสาน ลุกขึ้นมาทวงสัญญาจากกองทัพภาคที่ 2 อ้างว่า กองทัพเคยสัญญาว่า จะให้ที่ดิน 15 ไร่ และวัว 5 ตัว

ปี 2548 รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร มีการรับเรื่องต่อจากรัฐบาลชวน แต่แจ้งให้ ผรท.ทราบว่า จะจ่ายให้เป็น “เงินสด” แทนการแจกที่ดินและวัว แต่ไม่ทันที่จะดำเนินการแจกเงิน ได้เกิดการรัฐประหารเสียก่อน

รัฐบาลทักษิณ ประเมินค่าที่ดิน 5 ไร่ เป็นเงิน 75,000 บาท และเงินลงทุนประกอบอาชีพ (เทียบเท่าวัว 5 ตัว) เป็นเงิน 50,000 บาท รวมเป็นเงิน 125,000 บาท

ปี 2550 รัฐบาลสุรยุทธ์ จุลานนท์ ดำเนินการต่อจากรัฐบาลทักษิณ จึงมีการช่วยเหลือ ผรท.จำนวน 2,609 คน และจ่ายเป็นเงินสด รายละ 125,000 บาท

ปี 2552 รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปรากฏว่า ผรท.4 ภาค ได้เคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลืออีก โดยมีการประเมินราคาที่ดินใหม่ จึงทำให้วงเงินเพิ่มจาก 125,000 บาท เป็น 225,000 บาท

ปี 2554 รัฐบาลอภิสิทธิ์ จึงจ่ายเงินช่วยเหลือ ผรท.ทั้งประเทส รายละ 225,000 บาท จำนวน 9,181 ราย

ปี 2554 รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มี ผรท.เรียกร้องช่วยเหลืออีกครั้ง จึงมีการอนุมัติช่วยเหลือ ผรท. 4,430 ราย และ ผรท.ตกค้างจากรัฐบาลอภิสิทธิ์ 1,175 ราย แต่ยังไม่ทันที่จะจ่ายเงินก็เกิดรัฐประหารปี 2557

ปี 2560 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รับเรื่องต่อมาจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จึงดำเนินการช่วยเหลือ ผรท. 6,183 คน จ่ายเงินให้รายละ 225,000 บาท

จากปี 2543 จนถึงปี 2560 ปรากฏว่า ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.)มีการเรียกร้องพันธสัญญา 66/2523 และรัฐบาลได้จัดสรรงบฯ ช่วยเหลือ ผรท.ทั้งประเทศ ไปแล้วประมาณ 17,000 คน เป็นเงินกว่า 4,000 ล้านบาท

ล่าสุด รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 399/2567 มอบให้ กอ.รมน. ภาค 1-4 เปิดรับการลงทะเบียน ผรท.ทั่วประเทศ เมื่อปลายปี 2567 ซึ่งมีผู้มาลงทะเบียนจำนวนมาก มีทั้งสหายตัวจริง แนวร่วมในหมู่บ้าน และชาวบ้านทั่วไป 

วันที่ 17 มี.ค.2568 กอ.รมน.ได้มีการประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาของ ผรท.ที่สวนรื่นฤดี สรุปผลการลงทะเบียน และวิเคราะห์ข้อมูล ได้ข้อสรุปดังนี้

กอ.รมน.ภาค 1  : มีผู้ลงทะเบียน 750 คน 

กอ.รมน.ภาค 2 : มีผู้ลงทะเบียน 39,927 คน 

กอ.รมน.ภาค 3 : มีผู้ลงทะเบียน 4,214 คน 

กอ.รมน.ภาค 4 : มีผู้ลงทะเบียน 4,842 คน 

สรุปยอดรวมทั้ง 4 ภาค มีผู้ลงทะเบียน 49,733 คน แต่ผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน  23 คน (สหายตัวจริง)

ผู้มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วน  8,543 คน(แนวร่วมในหมู่บ้าน) และผู้ไม่เข้าหลักเกณฑ์  41,167 คน(ชาวบ้านทั่วไป)

ขณะนี้ กอ.รมน.ยังไม่ได้นำเสนอต่อรัฐบาลแพทองธาร เนื่องจากแกนนำ ผรท. ต้องการแก้ไขคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขของ สมาชิก ผรท.

พูดง่ายๆ ผรท.ต้องการให้แก้ไขหลักเกณฑ์ “แนวร่วม” ในหมู่บ้าน และลูกหลาน จะต้องได้รับการช่วยเหลือด้วย 

กลุ่ม ผรท. และชาวบ้านทั่วไปที่ไปลงทะเบียนกับ กอ.รมน.นั้น เป็นคนละส่วนกับ “องค์กรเครือข่ายความร่วมมือผู้ร่วมพัฒนาเพื่อชาติไทย” (คผท.) เพราะแกนนำ คผท.ได้ระดมให้อดีตสหายมาลงทะเบียนที่กลุ่มพวกเขาเป็นหลัก

เหนืออื่นใด ศักดิ์ณรงค์ ศิริพร ณ ราชสีมา ได้พาแกนนำองค์กร คผท. ไปขึ้นเวที คปท. ประกาศจุดยืนหยุดกาสิโน หยุดรัฐบาลสีเทา หยุดระบอบชินวัตร

แสดงว่า แกนนำ คผท. ยึดอุดมการณ์และแนวทางการเมือง “อนุรักษนิยม” คล้ายกับอดีตสหายอีสาน “กลุ่มธรรมาธิปไตย” ปี 2556

กลุ่มธรรมาธิปไตย เดินทัพทางไกลจาก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ มาชุมนุมที่ท้องสนามหลวง เพื่อปกป้องศาลรัฐธรรมนูญ จนถูกเรียกขานว่า “พคท.รอ.” 

นับจากนี้ไป จับตาดูบทบาทของ คผท. องค์กรใหม่ป้ายแดงสายอนุรักษนิยม ว่าจะไปได้ไกลกว่ากลุ่มธรรมาธิปไตยหรือไม่