พิษดีลข้ามขั้ว ‘แดงทักษิณ’ปะทะ'แดงกินส้ม'

เฟซบุ๊คทางการของพรรคเพื่อไทย ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช.ในวาระรำลึกเหตุการณ์ 15 ปี 10 เมษา

พร้อมกันนั้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ยังได้นัดหมาย “คนเสื้อแดง” มาร่วมรำลึกเหตุการณ์ 10 เมษา ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เพื่อนผู้จากไป ให้กำลังใจญาติผู้เสียชีวิต ที่ถนนดินสอ (ฝั่งโรงเรียนสตรีวิทยา) ตอนเย็นวันที่ 10 เม.ย.2568

ขณะที่ เหวง โตจิราการ และธิดา ถาวรเศรษฐ ในนามคณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 (คปช.53) จัดงานรำลึกวีรชนทวงความยุติธรรม 15 ปี เมษา-พฤษภา 53 ที่บริเวณด้านหน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา (แยกคอกวัว)

ปรากฏการณ์ “คนเสื้อแดง” จัดงานรำลึกเหตุการณ์ปี 2553 คนละมุมคนละเวทีนั้น มิได้เกิดขึ้นแค่ปีนี้เท่านั้น นับแต่ จตุพร พรหมพันธุ์ แยกทางกับณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็มีการแยกเวทีแยกงานรำลึกมาหลายปีแล้ว

เพียงแต่ปีนี้ เป็นการแยกเวทีของคนกันเองหรือ “แดงสองเฉด” ระหว่าง “ณัฐวุฒิ” กับ “เหวง-ธิดา”

เวลานี้ ไม่ต้องนับรวม “จตุพร” ว่าเป็นคนเสื้อแดงอีกต่อไป เพราะเขาหันไปใส่เสื้อสีขาว ประกาศอุดมการณ์อนุรักษนิยมชัดเจน

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้อธิบายคำว่า “แดงสองเฉด” ไว้ในบทสัมภาษณ์ขนาดยาวในเพจพรรคเพื่อไทย

“ถ้าใครหันมองมาที่คนเสื้อแดงที่ยังยืนอยู่กับพรรคเพื่อไทย แล้วก็ชี้หน้าว่าไอ้พวกนี้ ไอ้พวกรับจ้าง ไอ้พวกสมุนทักษิณ ไอ้พวกไร้การศึกษา ไอ้พวกถูกหลอกต้มมา ไม่นึกเหรอครับว่าวันหนึ่งพวกเราก็เคยเจ็บปวดกับการถูกชี้หน้าแบบนี้ พวกเราก็เคยบอบช้ำจากการถูกตราหน้าด้วยคำพูด ด้วยกริยา ด้วยวิธีคิดแบบนี้”

คนเพื่อไทยก็รู้อยู่แก่ใจว่า นับแต่ ทักษิณ ชินวัตร กลับไทย และมีการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ได้ทำให้คนเสื้อแดงจำนวนไม่น้อย ได้หันไปสนับสนุนพรรคสีส้ม ไม่ว่าจะอยู่ในชื่อพรรคก้าวไกล หรือพรรคประชาชน

ณัฐวุฒิเองก็รู้ว่า ด้อมแดงหรือเอฟซีเพื่อไทย เปิดศึกวิวาทะกับคนเสื้อแดงที่หันไปเชียร์พรรคประชาชน โดยเรียกคนพวกนั้นว่า “แดงกินส้ม” ซึ่งพักหลังๆ “แดงสองเฉด” โต้เถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

“ผมว่าคนที่มันเป็นเพื่อนคนที่มันร่วมเป็นร่วมตายกันมา รอดตายจากคมกระสุนของศัตรูแล้วก็อย่าหยิบดาบของศัตรูที่เคยใช้ประหัตประหารพวกเรากันเอง มากระทำต่อกันเลย ผมว่า ถ้าไม่มีอะไรเตือนใจกันได้ ก็ให้คำว่าเพื่อนมันเตือนใจกัน”

ด้วยเหตุนี้ เต้น ณัฐวุฒิ จึงลงทุนจัดงานรำลึก 10 เมษา ในปีนี้ที่ถนนดินสอ เพื่อใช้เวทีนี้อธิบายความเรื่อง “แดงสองเฉด” คือ แดงเพื่อไทย กับแดงสายส้ม(แดงกินส้ม)

ณัฐวุฒิไม่อยากให้เกิดความบาดหมางในหมู่คนเสื้อแดงมากไปกว่านี้ และการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ก็เป็นเรื่องที่กลืนเข้าคายไม่ออกของอดีตแกนนำ นปช.บางส่วน

คำว่า “แดงสองเฉด”นั้น เริ่มจากเพื่อไทยหักก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว และแตกแยกกันหนักขึ้น เมื่อนายกฯแพทองธาร เซ็นแต่งตั้ง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เมื่อปีที่แล้ว

เหวง โตจิราการ และธิดา ถาวรเศรษฐ ได้ลุกขึ้นมาวิพากษ์เสี่ยเต้น ราวกับเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

7 ปีที่แล้ว ณัฐวุฒิ หอบหิ้ว วีระกานต์ มุสิกพงศ์ ธิดา ถาวรเศรษฐ เหวง โตจิราการ และก่อแก้ว พิกุลทอง ออกจากอิมพีเรียล ลาดพร้าว ไปเปิดสำนักข่าวยูดีดีนิวส์ ที่อาคารเอเวอรี่ มอลล์ ถ.รัตนาธิเบศร์ ใกล้แยกแคราย อ.เมือง จ.นนทบุรี

ช่วงหาเสียงเลือกตั้งปี 2566 ณัฐวุฒิยังทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย

จบภารกิจเลือกตั้ง เต้นก็ไปเปิดร้านอาหาร “เยี่ยมใต้” ที่ย่านปากเกร็ด ขอทำหน้าที่พนักงานเสิร์ฟร้านอาหาร ระหว่างนั้น เหวง โตจิราการ และธิดา ถาวรเศรษฐ์ ยังไปมาหาสู่กับเสี่ยเต้น

กระทั่ง เต้น ณัฐวุฒิ หวนคืนเพื่อไทยเต็มตัว ความสัมพันธ์กับเหวง-ธิดา ก็เมินหมางห่างเหิน ถึงขั้นทำบุญคนละวัด จัดงานรำลึกคนละสถานที่

ช่วงการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.ที่ผ่านมา เต้น ณัฐวุฒิ รับหน้าที่ผู้ช่วยหาเสียง เคียงข้างทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ล่าสุด เมื่อ 17 มี.ค.2568 เต้น ณัฐวุฒิ ไปขึ้นเวทีคนเสื้อแดงภาคเหนือตอนล่างที่มหาวิทยาลัยพิษณุโลก ซึ่งในวันนั้น ทักษิณ ชินวัตร ได้ร่วมบรรยายเรื่อง “ประสบการณ์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของมวลชน” นัยว่า งานนี้เป็นการนำร่องรวมพลคนเสื้อแดงในภูมิภาคอื่น

ณัฐวุฒิ พร้อมกับอดีตแกนนำ นปช.อย่าง ก่อแก้ว พิกุลทอง วรชัย เหมะ เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อรรถชัย อนันตเมฆ และสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ คงต้องทำงานหนักขึ้นในภารกิจดึงคนเสื้อแดงกลับมาเลือกเพื่อไทย

การเลือกตั้งใหญ่จะมีขึ้นในปีหน้าหรือปี 2570 เพื่อไทย จะไม่ใช่ “พรรคกระแส” เหมือนสมัยไทยรักไทยยุคทักษิณ หรือเพื่อไทยยุคยิ่งลักษณ์

ดังนั้น การรักษาฐานเสียงเดิมหรือ “แดงทักษิณ” มิให้ลดน้อยถอยลงมากไปกว่านี้ จึงเป็นยุทธศาสตร์เฉพาะหน้าของณัฐวุฒิ และมิตรสหาย