ครบถ้วน! โชว์ TOR สปส.ทำ ‘เว็บแอป’ 850 ล้าน ส่องสเปก - งวดงาน - ค่าปรับ

เงื่อนปมสำนักงานประกันสังคม (สปส.) จัดทำโครงการประกวดราคาจ้างโครงการปรับเปลี่ยนระบบงานประกันสังคมบนเครื่องคอมพิวเตอร์เมนเฟรมเป็นระบบ Web Application หรือ "เว็บแอป" ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) วงเงินงบประมาณ 850 ล้านบาท กำหนดราคากลาง 848,925,000 บาท พบว่ามีผู้ชนะการประมูลคือ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “IRCP” ด้วยวงเงิน 848 ล้านบาท แต่กลับไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดในโครงการดังกล่าวแก่สาธารณะ เนื่องจาก กมธ.ติดตามงบฯ สภาผู้แทนราษฎร กังขาว่า โครงการนี้ดำเนินการอย่างล่าช้า และส่อพบข้อพิรุธในสัญญาจำนวนมาก

ข้อเท็จจริงประเด็นข้างต้นคือ หนึ่งในสารพัดข้อสังเกตจาก 2 สส.พรรคประชาชน (ปชน.) คือ “ไอซ์” รักชนก ศรีนอก สส.กทม. และสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี ที่ล่าสุดไปสำนักงาน สปส. เพื่อหารือแนวทางการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการบริหารจัดการกองทุนประกันสังคม โดยความคืบหน้าขณะนี้ ได้รับการยืนยันจากเลขาธิการ สปส.ว่า จะทยอยเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดใน 7 วัน

เบื้องต้น กรุงเทพธุรกิจ นำเสนอขั้นตอนการประกวดราคาไปครบถ้วนหมดแล้ว โดยพบว่าโครงการดังกล่าว สปส.มีการประกวดราคาครั้งแรกปลายปี 2563 ใช้งบประมาณจากปี 2561 กำหนดราคากลาง 850 ล้านบาท ต่อมาต้นปี 2564 มีเอกชนเข้ามายื่นซอง และประกาศรายชื่อผู้ชนะคือ IRCP ด้วยวงเงิน 837,888,888 บาท (ต่ำกว่าราคากลาง 12,111,112 บาท)

อย่างไรก็ดีต่อมา นายประพนธ์ ศิลปรัศมี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการ สปส. ลงนามเอกสาร สปส. ยกเลิกการประกาศผู้ชนะการเสนอราคาโครงการดังกล่าว โดยระบุเหตุผลว่า เนื่องจากคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ และข้อร้องเรียน มีคำวินิจฉัยให้ยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างในครั้งนี้ และดำเนินการใหม่ให้ถูกต้องต่อไปตามนัยมาตรา 43 ประกอบมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560

ต่อมา สปส.ดำเนินโครงการดังกล่าวอีกครั้งช่วงเดือนก.ย.2564 มีเอกชนเข้ายื่นเสนอราคา (ยื่นซอง) 2 ราย ได้แก่ IRCP เสนอราคา 848,500,000 บาท (ต่ำกว่าราคากลาง 425,000 บาท) และบริษัท ยิบอินซอย จำกัด เสนอราคา 848,888,000 บาท (ต่ำกว่าราคากลาง 37,000 บาท) และ IRCP เป็นผู้ชนะการประกวดราคาครั้งนี้ ด้วยวงเงิน 848 ล้านบาท (ต่ำกว่าราคาที่เสนอ 500,000 บาท ต่ำกว่าราคากลาง 925,000 บาท) และทำสัญญาดำเนินการเมื่อ 20 ธ.ค.2564

ล่าสุด กรุงเทพธุรกิจ ตรวจสอบในเอกสารขอบเขตของงาน (TOR) โครงการดังกล่าว พบว่า

โครงการนี้ ระบุหลักการ และเหตุผลว่า เนื่องจากภาระงานที่มีปริมาณมากขึ้นเมื่อเทียบกับสัดส่วนของบุคลากรเจ้าหน้าที่ ผู้ให้บริการ ณ สำนักงานที่เป็นหน่วยปฏิบัติทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ด้วยบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์สูง และระบบสารสนเทศที่ใช้เป็นเครื่องมือหลักที่ช่วยสนับสนุนการให้บริการได้เป็นอย่างดีจึงสามารถให้บริการแก่นายจ้างสถานประกอบการ และผู้ประกันตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ด้วยอายุการใช้งานของระบบสารสนเทศ และความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ทำให้เกิดช่องทาง และรูปแบบในการทำธุรกรรมใหม่ๆ มากมาย จำเป็นต้องมีการดำเนินการเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์เครือข่ายสื่อสารข้อมูล การบำรุงรักษาระบบงานสารสนเทศเดิม พร้อมทั้งปรับปรุง และพัฒนาระบบสารสนเทศในรูปแบบใหม่ๆ ที่จะนำมาให้บริการเพื่อตอบสนอง การเปลี่ยนแปลง และรองรับปริมาณงานที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น 

ดังนั้น ในปี 2554 สำนักงานประกันสังคมจึงได้พัฒนาระบบสารสนเทศงานประกันสังคมในรูปแบบ Web Application เพื่อทดแทนระบบงานประกันสังคมบนเครื่องคอมพิวเตอร์เมนเฟรม แต่เนื่องจากปัญหาความล่าช้าของผู้รับจ้างพัฒนาระบบ และด้วยข้อจำกัดของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และชุดซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ในขณะนั้นไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานจริงประกอบกับสำนักงานประกันสังคมได้มีการปรับปรุงกฎหมาย และระเบียบต่างๆ ทำให้สำนักงานประกันสังคมไม่สามารถนำระบบดังกล่าวมาใช้ในการให้บริการได้

ดังนั้นเพื่อให้เกิดการปฏิรูปประกันสังคมอย่างมีประสิทธิผล และตอบสนองนโยบายรัฐบาลดิจิทัลสำนักงานประกันสังคมจึงจำเป็นต้องดำเนินโครงการปรับเปลี่ยนระบบงานประกันสังคมบนเครื่องคอมพิวเตอร์ Mainframe เป็นระบบ Web Application อย่างเร่งด่วน โดยพัฒนา และปรับปรุงระบบสารสนเทศงานประกันสังคมในรูปแบบ Web Application และทำการโอนย้ายข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์เมนเฟรมสู่ฐานข้อมูลใหม่ ตรวจสอบคุณภาพข้อมูล และทดสอบการใช้งานปริมาณมากด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพตามระยะเวลาที่กำหนดซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “ร่วมสร้างสรรค์สังคมแรงงานที่มีหลักประกันถ้วนหน้าอย่างยั่งยืน” เพื่อรองรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) กำหนดวิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” 
    
โดยกำหนดเป้าหมายประชาชนมีความมั่นคงในชีวิต มีงานทำ และมีรายได้ที่มั่นคง โดยมุ่งลดความเหลื่อมล้ำระหว่างประชาชน สร้างโอกาสเข้าถึงบริการของรัฐอย่างทัดเทียม ยกระดับคุณภาพบริการสาธารณสุข ปรับปรุงกฎหมายให้มีความเป็นธรรมเอื้อประโยชน์ต่อประชาชน รวมทั้งการแก้ปัญหาการทุจริตในภาคราชการ และการปรับเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยงานภาครัฐ ภายใต้กรอบแนวคิดในการพัฒนายุทธศาสตร์ ได้นำมากำหนดเป็นแผนปฏิบัติราชการสำนักงานประกันสังคมระยะ 3 ปี (พ.ศ.2563-2565) ยุทธศาสตร์ที่ 4 เชื่อมโยงสังคมแรงงานด้วยเครือข่ายดิจิทัล และเครือข่ายการสื่อสาร เพื่อสร้างการเข้าถึงและให้บริการเชิงรุกแก่ทุกคน

ระบุวัตถุประสงค์ 4 ข้อ ได้แก่

1. เพื่อพัฒนาระบบ Web Application สำหรับรองรับการทำงานของงานประกันสังคมเพื่อทดแทนระบบ Sapiens Application เดิมของสำนักงานประกันสังคม

2. เพื่อถ่ายโอนข้อมูล (Migration) และประสานข้อมูล (Synchronization) จากเครื่องคอมพิวเตอร์ Mainframe ตั้งแต่ปี 2534 ถึงปัจจุบัน เข้าสู่ฐานข้อมูลระบบงานประกันสังคมแบบ Web Application ให้มีความครบถ้วน ถูกต้อง และน่าเชื่อถือ

3. เพื่อการวางระบบ และพัฒนาการบูรณาการข้อมูลสารสนเทศภายใน และรองรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับภายนอกองค์กร

4. พัฒนาระบบ Infrastructure ขององค์กรให้ทันสมัยสอดคล้องกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี และคำนึงถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการให้บริการที่สะดวก รวดเร็ว และมีคุณภาพเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ในคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอราคาข้อ 13 ระบุว่า ผู้ยื่นข้อเสนอราคาจะต้องมีประสบการณ์ และมีผลงานในการดำเนินงานด้านพัฒนาระบบสารสนเทศหรือ ผลงานเกี่ยวกับจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ หรือระบบเครือข่ายสารสนเทศ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 170,000,000 บาท (หนึ่งร้อยเจ็ดสิบล้านบาทถ้วน) ในสัญญาเดียว ในระยะเวลา ไม่เกิน 10 ปี นับตั้งแต่วันรับมอบโครงการ ถึงวันยื่นเอกสารประกวดราคา ซึ่งเป็นคู่สัญญาตรงกับส่วนราชการ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานอื่นๆ ซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานเอกชนที่สำนักงานประกันสังคมเชื่อถือ ทั้งนี้ผู้เสนอราคาจะต้องแนบสำเนาหนังสือรับรองผลงาน มาในวันยื่นเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ซึ่งสำนักงานประกันสังคมขอสงวนสิทธิ์ที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่เสนอ

ประเด็นการส่งมอบงาน แบ่งออกเป็น 6 งวด ดังนี้

งวดที่ 1 เมื่อผู้รับจ้างได้ดำเนินการภายใน 180 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา ดังนี้

1.1 ส่งมอบแผนการดำเนินงาน ภายใน 60 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา ประกอบด้วย
- รายละเอียดกิจกรรมดำเนินงานของโครงการ (Work Breakdown Structure)
- แผนการดำเนินงานในแต่ละกิจกรรมหลัก เช่น แผนการสำรวจความต้องการใช้งานระบบ แผนการเชื่อมต่อระบบ แผนการฝึกอบรม แผนการทดสอบระบบในสภาพแวดล้อมการทำงานจริงเพื่อนำไปสู่การใช้งานจริง (Deployment Plan)
- โครงสร้างทีมงานพัฒนาระบบ (Project Development Team) และผู้เกี่ยวข้องในโครงการ (Stakeholders)
- กรรมวิธีการบริหารโครงการ (Project Management Methodology)

1.2 เอกสารวิเคราะห์ความต้องการใช้ระบบงาน (Requirement Analysis) 6 ระบบ 1.ระบบทะเบียนนายจ้างและผู้ประกันตน 2. ระบบเงินสมทบ 3. ระบบประโยชน์ทดแทน 4. ระบบบัญชีกองทุนประกันสังคม 5. ระบบการเงินกองทุนประกันสังคม 6. ระบบบริการทางการแพทย์) ภายใน 180 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา ประกอบด้วย

1.2.1 เอกสารวิเคราะห์ความต้องการใช้ระบบงาน (Requirement Analysis) 6 ระบบ
- System Requirement Specification (SRS) ตามมาตรฐาน UML แสดง User Case Design & Description
- สถาปัตยกรรมระบบงานประกันสังคม แบบ Web Application
- การออกแบบกระบวนการ และแผน Migration ข้อมูลจากระบบเดิมไประบบ Web Application 

1.2.2.ส่งมอบฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ และซอฟต์แวร์สำเร็จรูปของ Data Centerตามรายการข้อ
- ระบบเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายสำหรับจัดการฐานข้อมูล
- ระบบเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายสำหรับระบบงาน
-อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก (External Storage) สำหรับจัดเก็บระบบงานพร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วง
- ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ พร้อมอุปกรณ์
- ระบบเครื่องแม่ข่ายสำหรับใช้เป็น Monitoring Server
- ระบบเครื่องแม่ข่ายสำหรับใช้ในการสำรองข้อมูลที่ศูนย์คอมพิวเตอร์หลัก
- ซอฟต์แวร์ระบบจัดการฐานข้อมูล DBMS
-ซอฟต์แวร์ระบบจัดการโปรแกรมประยุกต์ (Application Server Software)
- ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการพัฒนาระบบงาน (Development Tool)
- ซอฟต์แวร์สำหรับการ Monitoring ระบบ Application Server และระบบฐานข้อมูล
- ซอฟต์แวร์สำหรับใช้งานเป็นระบบรายงานอัจฉริยะ (BusinessIntelligence)
- ชุดซอฟต์แวร์สำหรับแลกเปลี่ยน และถ่ายโอนข้อมูล
- ซอฟต์แวร์สำหรับการสำรองข้อมูล

งวดที่ 2 : เมื่อผู้รับจ้างได้ดำเนินการภายใน 420 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา ดังนี้

การพัฒนาระบบงานประกันสังคม จำนวน 6 ระบบ 1. ระบบทะเบียนนายจ้าง และผู้ประกันตน 2. ระบบเงินสมทบ 3. ระบบประโยชน์ทดแทน 4. ระบบบัญชีกองทุนประกันสังคม 5. ระบบการเงินกองทุนประกันสังคม 6. ระบบบริการทางการแพทย์) ประกอบด้วย

2.1 เอกสารวิเคราะห์ และออกแบบระบบ ประกอบด้วย หัวข้อดังต่อไปนี้
2.1.1 Use Case Diagram และ Use Case Description
2.1.2 Context Diagram
2.1.3 ER-Diagram
2.1.4 Data Dictionary

2.2 รายงานผลการทดสอบระบบ ประกอบด้วย
2.2.1 รายงานผลการทดสอบการทำงานของระบบก่อนการฝึกอบรม (Unit Test& Integration Test Report)
2.2.2 รายงานผลการทดสอบการทำงานของระบบ (System Test Report)
2.2.3 รายงานผลการทดสอบระบบโดยผู้ใช้งาน (User Acceptance TestReport)

2.3 รายงานผลการนำเข้าข้อมูล (Data Migration) และรายงานผลการจัดการและแก้ไขข้อมูล (Data Cleansing)

2.4 ส่งมอบ Source Code (ก่อน compile ก่อนแปลงภาษาที่ถูกแปลงเป็นภาษาเครื่อง)และไฟล์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้เป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานประกันสังคม

2.5 เอกสารวิเคราะห์ความต้องการใช้ระบบงาน (Requirement Analysis) 4 ระบบ 1. ระบบปฏิบัติการมาตรา 40 2. ระบบตรวจสอบ 3. ระบบเร่งรัดหนี้ชำระเงินสมทบ 4. ระบบติดตามสิทธิประโยชน์ชราภาพ) ประกอบด้วย

2.5.1 System Requirement Specification (SRS) ตามมาตรฐาน UML แสดง User Case Design & Description

2.5.2 สถาปัตยกรรมระบบงานประกันสังคม แบบ Web Application

2.5.3 การออกแบบกระบวนการและแผน Migration ข้อมูลจากระบบเดิมไประบบ Web Application

งวดที่ 3 : เมื่อผู้รับจ้างได้ดำเนินการภายใน 480 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา ดังนี้

ส่งมอบฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์ และซอฟต์แวร์สำเร็จรูป ของ Data Recovery ประกอบด้วยตามรายการ

3.1 ระบบเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายสำหรับจัดการฐานข้อมูล
3.2 ระบบเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายสำหรับระบบงาน
3.3 อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก (External Storage) สำหรับจัดเก็บระบบงาน พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วง
3.4 ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ พร้อมอุปกรณ์
3.5 ระบบเครื่องแม่ข่ายสำหรับใช้เป็น Monitoring Server
3.6 ระบบเครื่องแม่ข่ายสำหรับใช้ในการสำรองข้อมูลที่ศูนย์คอมพิวเตอร์สำรอง
3.7 ซอฟต์แวร์ระบบจัดการฐานข้อมูล DBMS
3.8 ซอฟต์แวร์ระบบจัดการโปรแกรมประยุกต์ (Application Server Software)
3.9 ซอฟต์แวร์สำหรับการ Monitoring ระบบ Application Server และระบบฐานข้อมูล
3.10 ชุดซอฟต์แวร์สำหรับแลกเปลี่ยนและถ่ายโอนข้อมูล
3.11 ซอฟต์แวร์สำหรับการสำรองข้อมูล

3.12 คู่มือการฝึกอบรมสำหรับผู้ใช้งานระบบ ที่สามารถเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม (Online) เฉพาะระบบงานในงวดที่ 2 จำนวน 6 ระบบ 1. ระบบทะเบียนนายจ้าง และผู้ประกันตน 2. ระบบเงินสมทบ 3. ระบบประโยชน์ทดแทน 4. ระบบบัญชีกองทุนประกันสังคม 5. ระบบการเงินกองทุนประกันสังคม 6. ระบบบริการทางการแพทย์

3.13 คู่มือการติดตั้งระบบ (Admin Manual) เฉพาะระบบงานในงวดที่ 2 จำนวน 6 ระบบ 1. ระบบทะเบียนนายจ้างและผู้ประกันตน 2. ระบบเงินสมทบ 3. ระบบประโยชน์ทดแทน 4. ระบบบัญชีกองทุนประกันสังคม 5. ระบบการเงินกองทุนประกันสังคม 6. ระบบบริการทางการแพทย์

3.14 คู่มือการใช้งานทุกระบบสำหรับเจ้าหน้าที่ และผู้ใช้บริการ พร้อมคลิปวิดีโอแนะนำการใช้งานจำแนกตามกลุ่มผู้ใช้งาน เฉพาะระบบงานในงวดที่ 2 จำนวน 6 ระบบ 1. ระบบทะเบียนนายจ้าง และผู้ประกันตน 2. ระบบเงินสมทบ 3. ระบบประโยชน์ทดแทน 4. ระบบบัญชีกองทุนประกันสังคม 5. ระบบการเงินกองทุนประกันสังคม 6. ระบบบริการทางการแพทย์

3.15 รายงานผลการถ่ายโอนข้อมูลจากระบบงานเดิม เฉพาะระบบงานในงวดที่ 2 จำนวน 6 ระบบ 1. ระบบทะเบียนนายจ้างและผู้ประกันตน 2. ระบบเงินสมทบ 3. ระบบประโยชน์ทดแทน 4. ระบบบัญชีกองทุนประกันสังคม 5. ระบบการเงินกองทุนประกันสังคม 6. ระบบบริการทางการแพทย์

3.16 รายงานผลการฝึกอบรม (Training Evaluate Report) เฉพาะระบบงานในงวดที่ 2 จำนวน 6 ระบบ (1. ระบบทะเบียนนายจ้าง และผู้ประกันตน 2. ระบบเงินสมทบ 3. ระบบประโยชน์ทดแทน 4. ระบบบัญชีกองทุนประกันสังคม 5. ระบบการเงินกองทุนประกันสังคม 6. ระบบบริการทางการแพทย์

งวดที่ 4 : เมื่อผู้รับจ้างได้ดำเนินการภายใน 570 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา ดังนี้

การพัฒนาระบบงานประกันสังคม 4 ระบบ 1. ระบบปฏิบัติการมาตรา 40 2. ระบบตรวจสอบ 3. ระบบเร่งรัดหนี้ชำระเงินสมทบ 4. ระบบติดตามสิทธิประโยชน์ชราภาพ ประกอบด้วย

4.1 เอกสารวิเคราะห์ และออกแบบระบบ ประกอบด้วย หัวข้อดังต่อไปนี้

4.1.1 Use Case Diagram และ Use Case Description
4.1.2 Context Diagram
4.1.3 ER-Diagram
4.1.4 Data Dictionary

4.2 รายงานผลการทดสอบระบบ ประกอบด้วย

4.2.1 รายงานผลการทดสอบการทำงานของระบบก่อนการฝึกอบรม (Unit Test & Integration Test Report)
4.2.2 รายงานผลการทดสอบการทำงานของระบบ (System Test Report)
4.2.3 รายงานผลการทดสอบระบบโดยผู้ใช้งาน (User Acceptance Test Report)

4.3 รายงานผลการนำเข้าข้อมูล (Data Migration) และรายงานผลการจัดการ และแก้ไขข้อมูล (Data Cleansing)

4.4 ส่งมอบ Source Code (ก่อน compile ก่อนแปลงภาษาที่ถูกแปลงเป็นภาษาเครื่อง)และไฟล์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้เป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานประกันสังคม

4.5 เอกสารวิเคราะห์ความต้องการใช้ระบบงาน (Requirement Analysis) 4 ระบบ 1. ระบบนิติการ 2. ระบบสนับสนุนการทำแผนที่ข้อมูล 3. ระบบเชื่อมโยงบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสำนักงานประกันสังคมกับหน่วยงานภายนอก 4. ระบบเชื่อมโยงสนับสนุนโครงการ E-Self Service โครงการ Big Data และโครงการพัฒนาระบบ ERP ประกอบด้วย

4.5.1 System Requirement Specification (SRS) ต า ม ม า ต ร ฐ า น UMLแสดง User Case Design & Description
4.5.2 สถาปัตยกรรมระบบงานประกันสังคม แบบ Web Application
4.5.3 การออกแบบกระบวนการ และแผน Migration ข้อมูลจากระบบเดิมไประบบ Web Application

4.6 คู่มือการฝึกอบรมสำหรับผู้ใช้งานระบบ ที่สามารถเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม (Online) เฉพาะระบบงานในงวดที่ 4 จำนวน 4 ระบบ 1. ระบบปฏิบัติการมาตรา 40 2. ระบบตรวจสอบ 3. ระบบเร่งรัดหนี้ชำระเงินสมทบ
4. ระบบติดตามสิทธิประโยชน์ชราภาพ

4.7 คู่มือการติดตั้งระบบ (Admin Manual) เฉพาะระบบงานในงวดที่ 4 จำนวน 4 ระบบ 1. ระบบปฏิบัติการมาตรา 40 2. ระบบตรวจสอบ 3. ระบบเร่งรัดหนี้ชำระเงินสมทบ 4. ระบบติดตามสิทธิประโยชน์ชราภาพ

4.8 คู่มือการใช้งานทุกระบบสำหรับเจ้าหน้าที่ และผู้ใช้บริการ พร้อมคลิปวิดีโอแนะนำการใช้งานจำแนกตามกลุ่มผู้ใช้งาน เฉพาะระบบงานในงวดที่ 4 จำนวน 4 ระบบ 1. ระบบปฏิบัติการมาตรา 40 2. ระบบตรวจสอบ 3. ระบบเร่งรัดหนี้ชำระเงินสมทบ 4. ระบบติดตามสิทธิประโยชน์ชราภาพ

4.9 รายงานผลการถ่ายโอนข้อมูลจากระบบงานเดิม เฉพาะระบบงานในงวดที่ 4 จำนวน 4 ระบบ 1. ระบบปฏิบัติการมาตรา 40 2. ระบบตรวจสอบ 3. ระบบเร่งรัดหนี้ชำระเงิน สมทบ 4. ระบบติดตามสิทธิประโยชน์ชราภาพ

4.10 รายงานผลการฝึกอบรม (Training Evaluate Report) เฉพาะระบบงานในงวดที่ 4 จำนวน 4 ระบบ 1. ระบบปฏิบัติการมาตรา 40 2. ระบบตรวจสอบ 3. ระบบเร่งรัดหนี้ชำระเงินสมทบ 4. ระบบติดตามสิทธิประโยชน์ชราภาพ

งวดที่ 5 : เมื่อผู้รับจ้างได้ดำเนินการภายใน 630 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา ดังนี้

การพัฒนาระบบงานประกันสังคม 4 ระบบ 1. ระบบนิติการ 2. ระบบสนับสนุนการทำแผนที่ ข้อมูล 3. ระบบเชื่อมโยงบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสำนักงานประกันสังคมกับหน่วยงานภายนอก 4. ระบบเชื่อมโยงสนับสนุนโครงการ E-Self Service โครงการ Big Data และโครงการพัฒนาระบบ ERP ประกอบด้วย

5.1 เอกสารวิเคราะห์ และออกแบบระบบ ประกอบด้วยหัวข้อดังต่อไปนี้

5.1.1 Use Case Diagram และ Use Case Description
5.1.2 Context Diagram
5.1.3 ER-Diagram
5.1.4 Data Dictionary
5.2 รายงานผลการทดสอบระบบ ประกอบด้วย
5.2.1 รายงานผลการทดสอบการทำงานของระบบก่อนการฝึกอบรม Unit Test & Integration Test Report)
5.2.2 รายงานผลการทดสอบการทำงานของระบบ (System Test Report)
5.2.3 รายงานผลการทดสอบระบบโดยผู้ใช้งาน (User Acceptance Test Report)

5.3 รายงานผลการนำเข้าข้อมูล (Data Migration) และรายงานผลการจัดการ และแก้ไขข้อมูล (Data Cleansing)

5.4 ส่งมอบ Source Code (ก่อน compile ก่อนแปลงภาษาที่ถูกแปลงเป็นภาษาเครื่อง)และไฟล์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้เป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานประกันสังคม

งวดที่ 6 : เมื่อผู้รับจ้างได้ดำเนินการภายใน 730 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา ดังนี้การฝึกอบรม ประกอบด้วย

6.1 คู่มือการฝึกอบรมสำหรับผู้ใช้งานระบบ ที่สามารถเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม (Online) เฉพาะระบบงานในงวดที่ 5 จำนวน 4 ระบบ 1. ระบบนิติการ 2. ระบบสนับสนุนการทำแผนที่ข้อมูล 3. ระบบเชื่อมโยงบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสำนักงานประกันสังคมกับหน่วยงานภายนอก 4. ระบบเชื่อมโยงสนับสนุนโครงการ E-Self Service โครงการ Big Data และโครงการพัฒนาระบบ ERP

6.2 คู่มือการติดตั้งระบบ (Admin Manual) เฉพาะระบบงานในงวดที่ 5 จำนวน 4 ระบบ 1. ระบบนิติการ 2. ระบบสนับสนุนการทำแผนที่ข้อมูล 3. ระบบเชื่อมโยงบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสำนักงานประกันสังคมกับหน่วยงานภายนอก 4. ระบบเชื่อมโยงสนับสนุนโครงการ E-Self Service โครงการ Big Data และโครงการพัฒนาระบบ ERP

6.3 คู่มือการใช้งานทุกระบบสำหรับเจ้าหน้าที่ และผู้ใช้บริการ พร้อมคลิปวิดีโอแนะนำการใช้งานจำแนกตามกลุ่มผู้ใช้งาน เฉพาะระบบงานในงวดที่ 5 จำนวน 4 ระบบ 1. ระบบนิติการ 2. ระบบสนับสนุนการทำแผนที่ข้อมูล 3. ระบบเชื่อมโยงบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสำนักงานประกันสังคมกับหน่วยงานภายนอก 4. ระบบเชื่อมโยงสนับสนุนโครงการ E-Self Service โครงการ Big Data และโครงการพัฒนาระบบ ERP

6.4 รายงานผลการถ่ายโอนข้อมูลจากระบบงานเดิม เฉพาะระบบงานในงวดที่ 5 จำนวน 4 ระบบ 1. ระบบนิติการ 2. ระบบสนับสนุนการทำแผนที่ข้อมูล 3. ระบบเชื่อมโยงบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสำนักงานประกันสังคมกับหน่วยงานภายนอก 4. ระบบเชื่อมโยงสนับสนุนโครงการ E-Self Service โครงการ Big Data และโครงการพัฒนาระบบ ERP)

6.5 รายงานผลการฝึกอบรม (Training Evaluate Report) เฉพาะระบบงานในงวดที่ 5 จำนวน 4 ระบบ 1. ระบบนิติการ 2. ระบบสนับสนุนการทำแผนที่ข้อมูล 3. ระบบเชื่อมโยงบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสำนักงานประกันสังคมกับหน่วยงานภายนอก 4. ระบบเชื่อมโยงสนับสนุนโครงการ E-Self Service โครงการ Big Data และโครงการพัฒนาระบบ ERP

6.6 แผนการบำรุงรักษาระบบ (System Maintenance Plan) ของระบบงานทั้ง 14 ระบบ

6.7 เอกสารรายละเอียดโปรแกรม ฉบับสมบูรณ์ โดยต้องปรับปรุงเอกสารให้เป็นปัจจุบัน ณ วันที่ส่งมอบงานงวดสุดท้าย ของระบบงานทั้ง 14 ระบบ ได้แก่

6.7.1 เอกสารการออกแบบระบบ Logical Design
6.7.2 เอกสารการออกแบบระบบ Physical Architecture Design
6.7.3 เอกสารการเชื่อมต่อข้อมูล และระบบที่เกี่ยวข้อง (Application ProtocolInterface Document)
6.7.4 เอกสารการส่งมอบสิทธิในการบริหารจัดการระบบ
6.7.5 Source Code (ก่อน compile ก่อนแปลงภาษาที่ถูกแปลงเป็นภาษาเครื่อง)และไฟล์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานประกันสังคม

6.8 นำเสนอและรายงานผลการสร้างสื่อ และเนื้อหา (Content) เพื่อการประชาสัมพันธ์

อัตราค่าปรับ ในกรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอราคาส่งมอบงานจ้างล่าช้ากว่ากำหนดแล้วเสร็จตามสัญญา แต่ผู้ว่าจ้างยังมิได้บอกเลิกสัญญาผู้ยื่นข้อเสนอราคาจะต้องชำระค่าปรับ และค่าเสียหายดังต่อไปนี้

1.ค่าปรับรายวัน ในอัตราร้อยละ 0.1 (ศูนย์จุดหนึ่ง) ของค่าจ้างตามสัญญานับถัดจากวันที่ครบกำหนดเวลาแล้วเสร็จของงานตามสัญญาหรือวันที่ผู้ว่าจ้างได้ขยายเวลาทำงานให้จนถึงวันที่ทำงานแล้วเสร็จจริง และส่งผลงานที่แล้วเสร็จตามขอบเขตที่ระบุไว้ได้ครบถ้วน และถูกต้องแล้วถ้าไม่ถึงวันหรือเศษของวันให้คิดเป็นหนึ่งวัน

2.ผู้ว่าจ้างมีสิทธิในการจ้างผู้ยื่นข้อเสนอราคารายอื่นมาดำเนินการแทน ทั้งนี้ผู้ยื่นข้อเสนอราคาต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด

3.นอกจากชำระค่าปรับดังกล่าวแล้ว ผู้ยื่นข้อเสนอราคายอมให้ผู้ว่าจ้างสามารถเรียกค่าเสียหายอันเกิดขึ้นจากการที่ผู้ยื่นข้อเสนอราคาทำงานล่าช้าเฉพาะส่วนที่เกิดกว่าจำนวนค่าปรับ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้อีกด้วย

4.ในระหว่างที่ผู้ว่าจ้างยังมิได้บอกเลิกสัญญานั้น หากผู้ว่าจ้างเห็นว่าผู้ยื่นข้อเสนอราคาจะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ ผู้ว่าจ้างจะใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาก็ได้ และถ้าผู้ว่าจ้างได้แจ้งข้อเรียกร้องไปยังผู้ยื่นข้อเสนอราคาเมื่อครบกำหนดแล้วเสร็จของงานที่ชำระค่าปรับแล้วผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะปรับผู้ยื่นข้อเสนอราคาจนถึงวันที่บอกเลิกสัญญาได้อีกด้วย

5.ในกรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอราคาไม่สามารถทำงานให้แล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนดในแต่ละงวดตามสัญญา หากผู้ว่าจ้างเห็นว่างานที่ผู้ยื่นข้อเสนอราคาได้จัดทำไปแล้วบางส่วนมีประโยชน์แก่ผู้ว่าจ้าง ผู้ว่าจ้างจะเรียกให้ผู้ยื่นข้อเสนอราคาส่งมอบงานที่จัดทำไปแล้วบางส่วนให้แก่ผู้ว่าจ้างได้ โดยผู้ว่าจ้างอาจพิจารณาหักเงินค่าจ้างในงวดนั้นๆ และจ่ายเงินค่าจ้างในงวดงานนั้นให้ผู้ยื่นข้อเสนอราคาเพียงบางส่วนได้ ทั้งนี้ เป็นดุลยพินิจของผู้ว่าจ้างที่พิจารณาตามส่วนที่เป็นธรรม และเหมาะสม ในการนี้ไม่ตัดสิทธิผู้ว่าจ้างที่จะบอกเลิกสัญญา

ส่วนเงื่อนไขการชำระเงิน ระบุว่า ผู้ว่าจ้างจะทำการชำระค่าจ้างตามระเบียบพัสดุ ระเบียบการจ่ายเงินของผู้ว่าจ้าง และผ่านการตรวจรับ และเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจรับพัสดุเรียบร้อยแล้ว โดยจะทำการจ่ายค่าจ้างเป็นจำนวน 6 งวด ดังนี้
- งวดที่ 1 จ่ายเงินร้อยละ 35 ของค่าจ้างตามสัญญา
- งวดที่ 2 จ่ายเงินร้อยละ 10 ของค่าจ้างตามสัญญา
- งวดที่ 3 จ่ายเงินร้อยละ 30 ของค่าจ้างตามสัญญา
- งวดที่ 4 จ่ายเงินร้อยละ 10 ของค่าจ้างตามสัญญา
- งวดที่ 5 จ่ายเงินร้อยละ 5 ของค่าจ้างตามสัญญา
- งวดที่ 6 จ่ายเงินร้อยละ 10 ของค่าจ้างตามสัญญา    

ทั้งหมดคือ ข้อมูลสาระสำคัญใน TOR ของโครงการดังกล่าว ส่วนข้อเท็จจริง และรายละเอียดข้อมูลหลังจากนี้ คงต้องรอ สปส.ชี้แจง และเปิดเผยต่อสาธารณะอีกครั้ง

อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ เมื่อ 20 ก.พ.2568 นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการใช้งบประมาณของ สปส. หลายประเด็น หนึ่งในนั้นชี้แจงเรื่องการทำเว็บแอป(Web App) ว่า ดำเนินการเพื่อบริหารจัดการหลังบ้านของ สปส. อยู่ภายใต้ระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐที่กำหนดไว้ แต่ไม่สามารถทราบได้ว่ามีการฮั้วหรือไม่ ซึ่งขณะนี้การทำ Wep App กำลังให้ทาง สปส. ดำเนินการ และจะแจ้งออกมาให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง ส่วนการส่งงานล่าช้านั้น โดยข้อระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างฯ กรณีที่ส่งงานช้าต้องมีค่าปรับอยู่แล้วในสัดส่วนเงินที่ต่างกัน

สปส. ก็ได้ดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด หากกระทำโดยมิชอบ ตนและเจ้าหน้าที่จะต้องถูกตรวจสอบโดยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ จึงยืนยันได้ว่าดำเนินการตามระเบียบแน่นอน แต่ทั้งนี้อาจจะมีเงื่อนไขในช่วงโควิด-19

“ในการจัดซื้อจัดจ้าง หรืองบประมาณรายจ่ายของสำนักงานฯ ทุกกระบวนการดำเนินตามระเบียบกฎหมายที่กำหนดงบประมาณที่จ่ายออกไปได้ผ่านการอนุมัติจากคณะทำงานฯ คณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ รวมถึงบอร์ดประกันสังคม ในการพิจารณาอนุมัติ และยืนยันพร้อมที่จะให้ตรวจสอบได้ ที่สำคัญทุกอย่าง ทุกเม็ดเงิน ทุกงบประมาณ ทุกบาท ทุกสตางค์ใช้จ่ายตามระเบียบ” นายบุญสงค์ กล่าว

นายบุญสงค์ กล่าวด้วยว่า งบประมาณที่เพิ่มขึ้น 66% ในช่วงเวลา 4 ปี อาจเพิ่มในช่วงเปลี่ยนผ่านเว็บแอป 850 ล้านบาท จากเดิมที่เราใช้ระบบทำด้วยมือ (Manual system) ต้องใช้การวอล์กอินเข้ามา ก็ต้องเปลี่ยนให้ผู้ประกันตนสะดวกขึ้น จ่าย/โอนเงินผ่านธนาคารได้เลย และเปลี่ยนจากระบบ Sapiens เป็นระบบคอมพิวเตอร์ ที่ใช้มานาน และต้องเช่าทุกปี  มาเป็นระบบที่ สปส. จัดทำเอง รวมถึงส่วนหนึ่งที่มียอดผู้ป่วยโรค ICD เพิ่มขึ้น และอีกส่วนช่วงโควิด-19 ทำให้ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์