พท.รับเดินเกม 'ล้มถก' ร่าง รธน. อ้าง สกัดเส้นทางลงเหว - สมาชิกกังวลปมเสี่ยง

ที่รัฐสภานายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี และสส.พรรคเพื่อไทย แถลงหลังที่ประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาวาระการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เกิดปัญหาองค์ประชุมล่ม โดยยืนยันถึงความตั้งใจจริงของพรรคเพื่อไทย มีเจตนารมณ์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และแก้ให้ได้ โดยมุ่งต่อความสำเร็จตามนโยบายรัฐบาล 

เมื่อร่างเข้าสู่สภาเราพยายามที่จะประสานงานทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดความเป็นไปได้คือเสียงพรรคร่วม และ สว.จากการประเมินเมื่อวันที่12 ก.พ.68 ที่ผ่านมา ยอมรับว่า โอกาสที่รัฐธรรมนูญจะผ่านวาระสามโอกาสตกสูง ฉะนั้นเราจะปล่อยให้พิจารณาไปตามวาระแล้วปล่อยให้ตกเช่นนั้นหรือไม่ ซึ่งจะถือเป็นความล้มเหลว

ซึ่งเราทราบดีว่าความล้มเหลวรออยู่แล้วเราจึงแสวงหาทางออกโดยขอให้ร่างนี้อยู่ในสภาคือ เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย หากศาลวินิจฉัยเป็นคุณโอกาสสำเร็จก็จะเกิดขึ้นทันที กระบวนการเดินหน้า 

 นายสุทิน ยังกล่าวว่า หากยังไม่มีคำวินิจฉัยศาลยอมรับว่าสมาชิกยังมีความกังวลว่า หากพิจารณาไปแล้วจะมีปัญหาถูกตัดสิทธิหรือถูกดำเนินคดีหรือไม่ ทำให้สมาชิกไม่น้อยไม่มั่นใจในสถานะจึงไม่อยู่ในที่ประชุม หากยื่นศาลตีความเชื่อว่าใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือนเมื่อศาลวินิจฉัยมาแล้วความหวังยังมี

วันนี้จึงสนับสนุนญัตติของนพ.เปรมศักดิ์ เพียรยุระ สว. ในการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความแต่เมื่อญัตติแพ้หมายความว่าต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในสภาเราจึงมองเห็นคำตอบอยู่ข้างหน้าเร็วๆ นี้ว่าเมื่อไปข้างหน้าก็ตก จึงเป็นวิธีการต่อสู้เพื่อให้บรรลุผลของเราวันนี้จึงคิดว่าทำอย่างไรจะให้ร่างนี้ยังไม่ตก
 

"องค์ประชุมถ้าแม้มันไม่ครบวันนี้ก็ประชุมต่อไม่ได้ก็จะมีเวลาในการตั้งหลักเพื่อที่จะกลับมาสู้เพื่อเป้าหมายของเราอีกที ดีกว่าดันทุรังไปว่าพิจารณาไปวันนี้แล้วไปตายข้างหน้าแบบนั้นเราไม่ทำจึงเกิดการลงมติแสดงตน ไม่แสดงตนซึ่งสถานการณ์มันเร็วมาก คิดได้เพียงว่าทำอย่างไรจะรักษาร่างให้อยู่แล้วยืดชีวิตต่อไปได้ เพื่อที่จะสู้ชีวิตกันต่อไป

เพราะฉะนั้นเพื่อนสมาชิกบางคนบางพรรคอาจจะมองเข้าใจผิดว่าเรามีเจตนาอะไรแน่ บอกเสียตั้งแต่วันนี้ว่าเจตนาเพื่อที่จะทำให้สำเร็จ เดินทางตรงไม่ได้ก็ขอเดินทางโค้ง เมื่อทางโค้งไม่สำเร็จขอหยุดการเดินทางไว้ก่อนดีกว่าจะเดินไปตกเหว"
 

 

ด้าน นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เท่าที่วิเคราะห์คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญมีแนวโน้มไม่ผ่านมติของรัฐสภา พูดง่ายๆคือ สว.ที่จะได้ไม่ถึง 67 เสียง หรือ 1 ใน 3 ทั้งนี้จากการวิเคราะห์พบว่าสาเหตุสำคัญที่เขาอ้างคือ การที่ประธานรัฐสภาสั่งบรรจุระเบียบวาระ เป็นการดำเนินการที่มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญอ้างถึงคำวินิจฉัยปี 2564 ที่จะต้องมีการประชามติเสียก่อน

จึงเป็นที่มาของข้อเสนอที่ว่าให้มีการสอบถามกันให้ชัดเจนว่า การพิจารณาในชั้นนี้ที่จะมีการลดประชามติ 3 ครั้งเหลือ 2 ครั้งชอบด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่จึงนำไปสู่การสนับสนุนญัตติของนพ.เปรมศักดิ์ ด้วยหวังว่าถ้าศาลตอบกลับมาที่เป็นคุณก็จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้   

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์