เลขา ป.ป.ช.ลั่นจะปิดจ็อบคดีสำคัญเร็วขึ้น เปิดสถิติร้องเรียนทุจริต 7 จว.ใต้

เลขา ป.ป.ช.ลั่นจะปิดจ็อบคดีสำคัญเร็วขึ้น เปิดสถิติร้องเรียนทุจริต 7 จว.ใต้

เลขา ป.ป.ช. ลั่นจากนี้จะทำคดีสำคัญให้จบเร็วตามกำหนด เปิดสถิติร้องเรียนทุจริต 7 จังหวัดภาคใต้ 'ศธ.' ส่วนราชการถูกร้องเยอะสุด ส่วน 'ตรัง' แชมป์จังหวัดถูกร้อง 61 เรื่อง ส่วนใหญ่ถูกกล่าวหา ม.157 ลุยเกาะติดคืนพื้นเกาะกระดาน 5 แปลง ระบุ มีจนท.ทุกระดับเอี่ยว

เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2568 ที่โรงแรมเรือรัษฎา จ.ตรัง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำโดยนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และคณะ จัดโครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์ โดยมีการเปิดสถิติคดี และเรื่องร้องเรียนของสำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 9  

โดยนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ภารกิจด้านปราบปรามการทุจริต สถิติข้อมูลเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ ของภาค 9 มีอย่างไร มีบุคลากรเท่าไหร่ มีจำนวนเรื่องตรวจสอบไต่สวนเจ้าหน้าที่แต่ละคนมีเท่าไหร่ มีสถิติข้อมูลลักษณะเรื่องร้องเรียนหน่วยงานใดมาก แต่อย่างที่บอกถูกร้องเรียนมาก อาจไม่ได้ทำผิดมาก อาจมีประเด็นเป็นที่สนใจของประชาชน มาแจ้งเบาะแส มีการกระทำที่ถูกกล่าวหาในลักษณะใด เรียงตามลำดับ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นข้อมูลสถิติ แต่ในภาพใหญ่ของ ป.ป.ช. มีทุกภาคครบถ้วน เพราะเป็นตัวเลขสำคัญที่ทำให้เราจัดลำดับความสำคัญในการทำเรื่องตรวจสอบคดีทุจริต 

“ประชาชนตั้งคำถามมาตลอดว่า ทำงานช้า แต่ละเรื่องใช้เวลา 3-5 ปี ตามความยากง่าย นี่เป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่งที่สำนักงาน ป.ป.ช.ต้องรับทุกเรื่อง สะสมมากเข้า ก็ช้าทุกเรื่อง ถ้าเราทำคดีสำคัญ เราจะทำให้เร็ว ปริมาณต้องอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ เพราะฉะนั้นช่วงหลัง จะรับคดีสำคัญ และเร่งให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ส่วนคดีอื่น ๆ ก็ให้หน่วยงานอื่นทำไป นี่เป็นแนวนโยบายหลักของสำนักงาน ป.ป.ช.” นายสาโรจน์ กล่าว

เมื่อถามว่า ระยะเวลาในการทำคดี มีนโยบายอย่างไร และอะไรเป็นอุปสรรคของระยะเวลา นายสาโรจน์ กล่าวว่า กรอบเวลาตามกฎหมายเขียนไว้ชัด ให้ดำเนินการไต่สวนแต่ละเรื่องให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี ถ้ามีเหตุผลความจำเป็นขยายได้อีก 1 ปี เป็น 3 ปี แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกเรื่องเราทำ 3 ปี โดยการไต่สวนหลักการสำคัญคือ การหาพยานหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์ ส่วนจะช้าหรือเร็ว ปัญหาประการแรกคือ ปริมาณงาน เราพยายามแก้ให้ลดลง ส่วนที่มีผลโดยตรงคือ ความยุ่งยากของคดี แต่ละคดีไม่เท่ากัน บางคดีพยานหลักฐานชัดเจน ทำให้เสร็จได้ในเวลาอันรวดเร็ว บางคดีซับซ้อน ไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงาน หรือพยานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ต้องใช้เวลา ในทางกฎหมายเหมือน ป.ป.ช.อำนาจเยอะ จะสั่งให้ใครส่งอะไร ให้ถ้อยคำอย่างไรได้หมด แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะดำเนินการอย่างนั้นได้ทุกกรณี ถ้าเขาไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง เราก็ต้องดำเนินคดีเขาอีกชั้นหนึ่ง ไม่ใช่มาตรการเด็ดขาดที่จะจัดการกับพยานหลักฐานนั้น ๆ ได้ นี่เป็นข้อจำกัดอีกอย่างหนึ่ง

เลขา ป.ป.ช.ลั่นจะปิดจ็อบคดีสำคัญเร็วขึ้น เปิดสถิติร้องเรียนทุจริต 7 จว.ใต้

“ระยะเวลา วิธีการอะไรต่าง ๆ เราสามารถดำเนินการได้อย่างไร ในส่วนของระยะเวลา ขึ้นอยู่กับปริมาณของคดี ขึ้นอยู่กับเนื้อหาของคดีนั้น นี่เป็นตัวแปรสำคัญ กรอบเวลาไม่จำเป็นต้องเต็มตามกรอบ ขึ้นอยู่กับความครบถ้วนสมบูรณ์ของพยานหลักฐาน ถ้าครบถ้วนสมบูรณ์ เสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.วินิจฉัยได้” นายสาโรจน์ กล่าว

ด้านนายทวิชาติ นิลกาญจน์  ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 9 กล่าวว่า พื้นที่ ป.ป.ช.ภาค 9 มี 7 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ตรัง สตูล พัทลุง ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยในพื้นที่ภาคใต้มีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ทั้งหมด 41 คน ในปีงบประมาณ 68 มีเรื่องตรวจสอบเบื้องต้น 388 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 43 เรื่อง คงเหลือ 345 เรื่อง อย่างไรก็ดี จากสถิติเมื่อเข้าชั้นไต่สวนแล้วใน 100 % มีโอกาสถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูล 70% 

นายทวิชาติ กล่าวว่า สำหรับเรื่องที่ถูกร้องเรียนมากที่สุดในภาค 9 คือ เรื่องละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 รองลงมาคือ เรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง ขณะที่หน่วยงานที่ถูกร้องเรียนมากที่สุดในภาค 9 คือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการที่ถูกร้องเรียนมากที่สุด อันดับ 1 คือ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ 64 เรื่อง รองลงมาคือ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย มากที่สุดคือ กรมการปกครอง กรมที่ดิน และสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยมีอดีตผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัด ถูกร้องเรียนมา 10 เรื่อง หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มากที่สุดคือ กรมชลประทาน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 32 เรื่อง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 31 เรื่อง มากที่สุดคือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 20 เรื่อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 27 เรื่อง หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม 23 เรื่อง และหน่วยงานทหาร 10 เรื่อง 

นายทวิชาติ กล่าวว่า จังหวัดที่มีการร้องเรียนมากที่สุดในพื้นที่ภาค 9 ได้แก่ ตรัง 61 เรื่อง สงขลา 45 เรื่อง นราธิวาส 46 เรื่อง ปัตตานี 44 เรื่อง พัทลุง 40 เรื่อง และสตูล 22 เรื่อง สำหรับ จ.ตรังที่มีการร้องเรียนมากที่สุด อาจจะถือได้ว่าประชาชนในจังหวัดมีความตื่นตัว เวลาพบเห็นสิ่งผิดปกติจะร้องเรียน ซึ่งเรารับไว้ตรวจสอบเบื้องอยู่

ขณะที่นายมงคล ศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักไต่สวนคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการบุกรุกที่ดินในอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง ว่า ภารกิจหลักของ ป.ป.ช.คือ การเข้าไปรับฟังปัญหาของเจ้าหน้าที่ที่เจอกลุ่มผู้มีอิทธิพล หรือบางครั้งมีเจ้าหน้าที่เข้าไปรู้เห็น ส่วนใหญ่ในพื้นที่เกาะกระดานจะเป็นเรื่องการบุกรุกพื้นที่ ขณะนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลแล้ว และส่งคืนกลับให้รัฐแล้ว จำนวน 5 แปลง เหลืออีก 1 แปลงที่อยู่ระหว่างการไต่สวน โดยพื้นที่ที่ส่งคืนแล้ว ป.ป.ช.ยังต้องไปติดตาม อย่างไรก็ตาม เรื่องการบุกรุก มีตั้งแต่เจ้าหน้าที่ระดับล่างไปจนถึงระดับสูงมีส่วนเข้าไปสั่งการหรือไปสั่งให้มีนอมินีเข้าไปถือครองที่ดิน รวมไปถึงท้องถิ่นปล่อยปละละเลย รับส่วย ไปจนถึงเข้าไปในกลุ่มของขบวนร่วมออกโฉนดที่ดิน

“หากเจ้าหน้าที่เจอกลุ่มผู้มีอิทธิพลจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติได้ให้แจ้งเข้ามาที่ ป.ป.ช. จะกระซิบหรือตะโกนก็ได้ หาก ป.ป.ช.ได้รับร้องเรียนแล้วยังไม่ดำเนินการก็จะถูกดำเนินคดีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่”

นายมงคล กล่าวว่า ใน จ.ตรังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ส่วนใหญ่แล้วยังมีความอุดมสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ทั่วประเทศมีเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับคดีทรัพยากรธรรมชาติเข้ามาถึง 1,500 กว่าคดี มีมูลแล้ว 400 คดี ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 10 ของคดีทั้งหมด หนึ่งในนั้นมีที่ จ.ตรังด้วย โดยมีคดีที่ ป.ป.ช.กำลังไต่สวนอยู่ 100 เรื่อง