'เสรีพิศุทธ์' ให้ข้อมูล ป.ป.ช.รอบ 2 คดีชั้น 14 ชงเชิญ 'นายกฯอิ๊งค์' ให้ปากคำ

'พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์' ให้ข้อมูล ป.ป.ช.รอบ 2 คดี 'ทักษิณ' ชั้น 14 ยันคำให้การเดิม พร้อมเสมอลงพื้นที่ร่วมกัน เชื่อเวลาผ่านไปนานไม่มีอะไรเปลี่ยน แนะเจ้าหน้าที่เชิญ 'นายกฯอิ๊งค์' พร้อมครอบครัว เข้าให้ข้อมูล
เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เดินทางเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จนต้องถูกส่งไปพักรักษาตัวที่ ชั้น 14 รพ.ตำรวจ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าให้ข้อมูลว่า วันนี้มาให้การเพิ่มเติม จากที่เคยมาให้แล้วก่อนหน้านี้ 1 ครั้ง หนังสือเชิญบอกไว้ชัดแจ้งว่า ขอให้มาให้การเพิ่มเติมจากที่เคยให้ไว้ครั้งที่แล้ว ซึ่งครั้งที่แล้วให้การเป็นข้อเท็จจริงไปหมดแล้ว แต่ว่าเวลาผ่านไปมันอาจจะมีข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากความเห็นของแพทยสภา ข้อมูลเวชระเบียน และมีข้อเท็จจริงอื่น ๆ ที่ปรากฏออกมา วันนี้รวบรวมมามอบให้นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป.ป.ช. ที่จะเป็นคนมาสอบปากคำด้วยตัวเอง แต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องที่จะพูดคุยในสำนวนการสอบ
"แต่สิ่งที่ผมจะย้ำคือ เรื่องของระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกี่ยวกับเวชระเบียนของผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก ซึ่งเป็นหลักการทั่วไปที่สามารถตรวจสอบได้ และขอยืนบันว่า ผู้ป่วยในต้องทำบันทึกข้อมูลเวชระเบียนทุกคน ดังนั้นเป็นเรื่องที่ ป.ป.ช. ต้องตรวจสอบว่ามีการส่งข้อมูลเวชระเบียนมาครบหรือไม่ ป.ป.ช. ก็มีกฎหมายว่า หากไม่ส่งเวชระเบียนมาถือว่ามีความผิด แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการอะไร" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
สำหรับกรณีที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ระบุว่า การที่นายทักษิณจ่ายค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลมีใบเสร็จถือเป็นหลักฐานการรักษาพยาบาลอยู่แล้ว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ใบเสร็จที่ไหนก็มี แต่ประเด็นอยู่ที่ป่วยวิกฤตหรือไม่ ถ้าไม่ป่วยวิกฤตจะส่งไปโรงพยาบาลตำรวจได้อย่างไร และประเด็นกำลังรอที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาแผนกคดีนักการเมืองว่าจะมีคำสั่งออกมาอย่างไร ให้ไต่สวนหรือไม่ เกี่ยวกับเรื่องที่กรมราชทัณฑ์ส่งผู้ป่วยไป โดยไม่ได้ขออนุญาตศาล ผิดกฎหมายให้หรือไม่ หากวินิจฉัยว่าให้ไต่สวน ก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ใครที่ส่งผู้ป่วยไปโดยไม่ขอศาล คนเหล่านั้นก็ต้องรับผิดชอบ มีโทษจำคุก 6 เดือน
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า ผู้ป่วยวิกฤติจริงจะต้องมีการตรวจสมอง หัวใจ และปอด แต่กรณีนายทักษิณ ไม่มีหลักฐานการตรวจใด ๆ แม้กระทั่งจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และหากป่วยวิกฤตจริง ก็จะไม่มีการส่งไปชั้น 14 ทันที จะต้องมีการตรวจซ้ำ เข้าห้องฉุกเฉินก่อน แต่กรณีนี้ไม่มีข้อมูลใด ๆ
เมื่อถามว่าตอนไปเยี่ยมนายทักษิณมีอาการอย่างไร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวพร้อมหัวเราะ ว่า ฟิตกว่าตนตอนนี้อีก
ชง ป.ป.ช.เชิญ 'นายกฯอิ๊งค์' พร้อมครอบครัว เข้าให้ข้อมูลด้วย
หลังจากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช. ว่า มีการยืนยันคำให้การเดิม และเพิ่มเติมกรณีที่ขึ้นไปชั้น 14 รวมถึงเวชระเบียน เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีอยู่แล้ว อย่างตนป่วยก็อธิบายการป่วยของตนว่า การป่วยวิกฤตมีหมอสมอง หมอหัวใจ หมอปอดจะเข้ามาตรวจหมด เพราะไม่รู้ว่า ที่อาการวิกฤตนั้นมาจากอะไร ทำให้หมดด้านต่างๆ ต้องเข้ามาตรวจเพิ่มเติมอย่างละเอียดจนกว่าจะรู้สาเหตุของอาการวิกฤติ และจะบันทึกไว้ในเวชระเบียนทั้งหมด สมมติหากสาเหตุมาจากปอด หมอด้านอื่นๆ ก็ถือว่าพ้นหน้าที่ตรงนั้น แต่การเข้ามาตรวจสอบแล้วย่อมมีบันทึกไว้ในเวชระเบียน ส่วนการรักษาต่อจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของหมอปอด และจะเข้ามารักษา พร้อมบันทึกอาการและการการรักษาต่อไป จนกระทั่งหายป่วยออกจากโรงพยาบาลได้
“อาการของคนป่วยวิกฤต ผมยกตัวอย่างผมป่วย ไปนอนโรงพยาบาลอยู่ 20 กว่าวัน มวลกล้ามเนื้อก็หมด คนเราถ้าไม่ได้เดินเหินไปนู่นมานี่สัก 7 วัน 10 วันกล้ามเนื้อก็แย่แล้ว หมอต้องพาผมเดิน เพื่อให้มวลกล้ามเนื้อกลับมา กลับบ้านแล้วก็ต้องออกกำลังกาย ส่วนการไปชั้น 14 ของคุณทักษิณ ที่อ้างว่าวิกฤต พอไปถึงโรงพยาบาลแล้วจะส่งขึ้นไปที่ชั้น 14 เลยไม่ได้หรอก ชั้น 14 นั่นคือผู้ป่วยที่ ออกจากไอซียูแล้ว หายป่วยวิกฤติแล้ว ถึงจะไปพักชั้น 14 แต่ของคุณทักษิณบอกว่าป่วยวิกฤติ แต่พอไปถึงโรงพยาบาลตำรวจแล้ว หมอสมอง หมอหัวใจ หมอปอดต้องมาตรวจใหม่หมดให้รู้ว่าวิกฤติจากอะไร ต้องใช้เวลาพอสมควร และต้องอยู่ที่ห้องไอซียู ไม่ใช่ส่งไปชั้น 14 แต่นี่มาถึงปุ๊บส่งขึ้นไปเลย ก็แสดงว่ามันไม่วิกฤติ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้คณะกรรมการฯ ยังได้ชนตนให้ร่วมลงพื้นที่ไปดูชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจด้วย ซึ่งตนก็ตอบตกลง เพราะต้องการให้ความถูกต้องเกิดขึ้น อยู่ระหว่างรอนัดหมายว่าเป็นวัน เวลา ใด ตนยินดีที่พาไป จะไปชี้ห้องให้ ทั้งนี้ แม้เวลาผ่านไปนานแล้วยืนยันว่าอะไรๆ ไม่เปลี่ยน ห้องไหนๆ ก็เหมือนกัน
เมื่อถามว่า คิดว่าจะเอาใครติดคุกได้บ้าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า หมดเลย คือ 12 คนที่ถูกกล่าวหา รวมไปถึงรัฐมนตรี และนายทักษิณด้วย อีกทั้งตนยังแนะนำว่า ในช่วงที่นายทักษิณเข้าโรงพยาบาลใหม่ ๆ ทางกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ครอบครัว 10 คนเข้าเยี่ยมได้ จึงขอให้ ป.ป.ช. เชิญบุคคลในครอบครัวทั้ง 10 คน ตั้งแต่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พี่ น้อง ใครมีชื่อเยี่ยมให้เชิญมาสอบปากคำทั้งหมด ระหว่างที่นายทักษิณอยู่โรงพยาบาลนั้น มีการไปเยี่ยมอย่างไร อาการเป็นอย่างไร ดูว่าจะมีการโกหกหรือไม่ ทั้งนี้เพราะการรวบรวมพยายานหลักฐานก็เอาให้ได้ทุกทาง แต่ไม่ทราบว่าจะมีการเชิญคนเหล่านี้มาให้ข้อมูลหรือไม่







