‘แพทองธาร’ ฮึ่ม ตัดสิทธิเยียวยา หากพบ ‘เผา’ ในพื้นที่เกษตร 1มิ.ย.68-31พ.ค.69

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมครม. ถึงมาตรการแก้ปัญหา PM2.5 ว่า ที่ประชุมได้นำเสนอแผนจัดการ PM2.5 แต่ละกระทรวงแยกกันไป โดยกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ รับมือกับภัยพิบัติในครั้งนี้ ออกประกาศห้ามเผา ให้มีการบริหารจัดการซังข้าวโพด ต้นอ้อยแห้ง ให้ฝังกลบแทนการเผา ทำปุ๋ยอินทรีย์ และการใช้เครื่องแพ็กฟาง ตลอดจนร่วมมือกับหน่วยงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมรับมือในการดับไฟป่า 

นายกฯ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มีการดูแลกลุ่มเปราะบาง ให้หน้ากากN95 ห้องคลีนรูม ให้กลุ่มเปราะบาง คนไม่สบาย หรือเด็กเล็ก อยู่ในห้องนี้ได้ ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรฯ มีปฏิบัติการเชิงรุกที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้งบกลางที่ได้รับจัดสรร จ้างบุคลากรเข้ามาดูแลเรื่องไฟป่า 

“กระทรวงเกษตรฯ ไม่ให้มีการเผาในพื้นที่ทำการเกษตร ถ้าพบเจอจะตัดการสนับสนุนเงินเยียวยาจากรัฐบาล ตั้งแต่1มิ.ย.68 ถึง 31พ.ค.69 นอกจากนี้ยังมีปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อช่วยลดฝุ่นละอองในอากาศ” นายกฯ กล่าว  

นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนกระทรวงคมนาคม มีมาตรการให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้าฟรีนั้น มีผู้มาใช้บริการสาธารณะเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และมีการสำรวจแล้วว่าจำนวนรถบนท้องถนนลดลงถึง5แสนคันต่อวัน ช่วงนี้ก็อาจจะรู้สึกได้ว่า กรุงเทพฯ รถติดน้อยลง ก็เป็นเพราะมาตรการนี้ช่วยเหลือได้เยอะ 

นายกฯ กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้ขอความร่วมมือโรงงาน และสมาคมชาวไร่อ้อย ไม่รับอ้อยที่มาจากการเผาเกิน25%ต่อวัน เรื่องนี้ได้มีการเน้นย้ำเป็นอย่างมากและปฏิบัติอย่างจริงจัง ก็ได้ผลเป็นอย่างดี ที่ผ่านมาสถิติก็ลดเหลือต่ำมาก เหลือแค่ 10% ต่อวันเท่านั้น ทุกโรงงานน้ำตาลให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ก็ต้องขอขอบคุณ นอกจากนี้ ยังมีมาตรการทำให้ใบอ้อยมีมูลค่ามากขึ้น สามารถนำไปขายให้กับโรงผลิตพลังงาน จะเป็นการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมมือกับเพื่อนบ้านอาเซียน ในการแก้ปัญหา