‘บิ๊กป้อม’ ค้าน ‘เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ คอมเพล็กซ์’ พปชร. ชี้ อย่าหลอก ตั้ง กาสิโน

“ประวิตร” เผย ค้านนโยบาย “เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ คอมเพล็กซ์” ด้าน “ชัยวุฒิ” ลั่น ไม่เห็นด้วย พนันถูกกม. ปัญหาสังคมตามมาแน่ ชี้ ดึงดูดท่องเที่ยว ทำให้ดีได้โดยไม่ต้องมี ‘กาสิโน’ อย่าหลอกชาวบ้าน
ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของพรรคพลังประชารัฐ ต่อนโยบายเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ คอมเพล็กซ์ ว่า ไม่เห็นด้วย เดี๋ยวก็มีแถลงข่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในหลักการคิดว่าจะเป็นการมอมเมาประชาชนหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เดี๋ยวให้ผู้สื่อข่าวไปถามโฆษก จากนั้นได้เดินขึ้นรถออกจากพรรคพลังประชารัฐไปทันที
ขณะที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึง นโยบายเอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ ของรัฐบาล ว่า เราไม่เห็นด้วยกับบ่อนการพนันถูกกฎหมาย เพราะจะมีปัญหาด้านสังคมตามมาแน่นอน ซึ่งตั้งแต่อดีตจะเห็นได้ว่าการพนันเป็นสิ่งไม่ดี และมีคนติดการพนันจำนวนมาก ดังนั้น เราต้องยกเลิกไม่ให้มีบ่อนการพนันในประเทศ แต่หลังจากที่กลับมาใหม่ก็กลัวว่าจะมีปัญหาสังคม คนเป็นหนี้เป็นสิน ไปไม่ไหวหรอก
เมื่อถามว่า ตรงนี้ถือเป็นจุดยืนของพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ใช่ ปัญหาเรื่องสังคมเป็นหลัก ส่วนปัญหาทางเศรษฐกิจ อาจจะทำให้คนเสียรายได้ เป็นหนี้ครัวเรือนมากขึ้น ปัญหาอาชญากรรมจะตามมาอีก แต่ไม่อยากให้คนไทยมอมเมากับการพนัน
เมื่อถามว่า รัฐบาลบอกว่าโครงการนี้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจมีหลายวิธี โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยว ส่งเสริมความปลอดภัย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากกว่าเดิม เราสามารถทำให้ดีได้ โดยไม่ต้องมีกาสิโน
เมื่อถามว่า รัฐบาลบอกว่ากาสิโนเป็นส่วนหนึ่ง แค่10% เหมือนกับประเทศสิงคโปร์ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า อย่าไปหลอกชาวบ้านเลย กฎหมายทั้งฉบับ พูดถึงเรื่องการตั้งกาสิโน เพราะกาสิโนคือหัวใจของเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ รายได้กว่า 90% มาจากกาสิโน และบ่อนการพนัน พูดแล้วเหมือนหลอกตัวเอง หลอกจนชาวบ้านงงไปด้วย เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ เป็นเพียงชื่อที่เอามาแอบอ้างเท่านั้น
เมื่อถามว่า ควรจะมีการทำประชามติก่อนหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า อย่าไปทำเลยเพราะทำไปก็ไม่ผ่าน เสียเวลา เปล่าๆ
เมื่อถามว่า คิดว่าโครงการนี้จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า รัฐบาลเขาอยากให้เกิดอยู่แล้ว เพราะเขามองว่าเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจของเขา ไม่ใช่ของประเทศ และตนเชื่อว่ามีคนได้ประโยชน์จากเรื่องเหล่านี้ แต่โดยภาพรวมตนมองว่ากาสิโนถูกกฎหมาย มีโทษมากกว่าประโยชน์
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการอะไรในที่ประชุมหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า กรรมการบริหารพรรคมีมติว่าไม่เห็นชอบ กับ พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
ส่วนจะมีการเสนอญัตติในสภาหรือไม่นั้น อยู่ที่ตอนร่างกฎหมายเข้าสภา ส่วนการเคลื่อนไหวนอกสภา คงเป็นเรื่องของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ไม่เห็นด้วย และออกมาคัดค้าน หนึ่งในนั้นคือพรรคพลังประชารัฐ
เมื่อถามว่า จะมีการเปิดเวที สัมมนาเพื่อรณรงค์เรื่องนี้หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่ายังไม่ทราบ ขอดูก่อน
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพปชร.และนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการพรรค พปชร.ร่วมแถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และคณะทำงานนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการคัดค้านการให้ใบอนุญาตการมีบ่อนกาสิโนในประเทศไทย ตามร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ..... โดยในที่ประชุมได้มีการนำเสนอข้อมูลต่างๆ จำนวนมาก โดยที่ประชุมพิจารณาแล้วมีเหตุผลจำเป็นที่จะต้องคัดค้านโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ใน 3 ด้านหลัก สังคม เศรษฐกิจ และธรรมาภิบาล ในด้านสังคม เห็นว่า จะนำไปสู่ปัญหาการติดการพนันอย่างกว้างขวาง นำไปสู่ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่รุนแรงหนักหน่วงขึ้น โดยพิจารณาเหตุการณ์ในอดีตและในประวัติศาสตร์ สมัยรัชกาลที่ 5 ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นปัญหาใหญ่ เซาะกร่อนบ่อนทำลายวัฒนธรรมครัวเรือนของไทย ที่สุดทรงให้ยกเลิกบ่อนเบี้ย ส่วนเรื่องพนันออนไลน์ รัฐบาลควรจะเน้นการปราบปรามให้คืบหน้ามากกว่า มีตัวอย่างรัฐบาลสิงคโปร์ที่สั่งปิดเว็บไซต์พนันได้กว่า 3,800 เว็บไซต์
นายธีระชัย กล่าวต่อว่า ในด้านเศรษฐกิจ ผลประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวมีน้อย เพราะจุดขายการท่องเที่ยวของไทยอยู่ที่วัฒนธรรม อาหาร สถานที่ท่องเที่ยวเป็นหลัก ส่วนการจ้างงานจะไม่มา และจะนำไปสู่จุดอ่อนในแง่ธรรมาภิบาลที่สังคมไทยมีอยู่ จุดอ่อนเหล่านี้จะนำไปสู่ปัญหาการฟอกเงิน การกำหนดจำนวนใบอนุญาตที่เหมาะสม รวมถึงการกำกับควบคุม อีกทั้งร่างกฎหมายดังกล่าวไม่ได้มีมาตรการสำหรับผลกระทบต่อสังคมเท่าที่ควร ซึ่งพรรคพปชร.ตัดสินแล้วเห็นว่าสมควรคัดค้านกฎหมายฉบับนี้
ด้าน พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ในวันที่ 5 ก.พ. คณะกรรมการบริหารพรรค คณะทำงานนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค และ สส.จะแถลงข่าวคัดค้านการเปิดกาสิโนเสรีตามนโยบายของรัฐบาลอย่างจริงจังอีกครั้งที่รัฐสภา เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นในวันนี้เราเห็นกันทุกวันจากข่าว เมายา ทำร้ายพ่อแม่ เผาบ้าน ทำร้ายลูกเมียถึงแก่ชีวิต ขับรถชนคนตาย ซึ่งเกิดขึ้นจากยาเสพติด ประเทศบอบช้ำมามากพอแล้ว และต่อไปจะมี ปัญหาหนี้สินและหนี้จากการพนัน ซึ่งจะนำมาซึ่งการประทุษร้ายต่อทรัพย์ วิ่งราว ลักทรัพย์ จะเกิดขึ้นตามมา ปัญหานี้จะเป็นผลเสียและมะเร็งร้ายทำลายสังคมไปชั่วลูกชั่วหลาน โดยกรรมการบริหารพรรคทุกคนมีมติในที่ประชุม ให้ สส.และสมาชิกพรรค คัดค้านการเปิดการพนันเสรี หรือกาสิโนเสรี หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในทุกมิติ
“ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ยังมีการหมกเม็ด โดยเฉพาะมีการซ่อนเงื่อนเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการให้อำนาจเลขาธิการคณะกรรมการตาม พ.ร.บ. มีอำนาจมากมาย ทั้งที่เรามี พ.ร.บ.การพนัน มีหน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่แล้วคือ กระทรวงมหาดไทย ซึ่งคณะกรรมการที่ตั้งมาตาม พ.ร.บ.นี้จะมีอำนาจเหนือหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายเป็นหนึ่งในข้อที่หมกเม็ด นอกจากนี้ ในมาตรา 11 ของ พ.ร.บ. มีการให้อำนาจคณะกรรมการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ตลอดอัตราค่าธรรมเนียม ทั้งใบอนุญาตครั้งแรกและรายปี เป็นต้น ซึ่งกรณีดังกล่าวรัฐบาล พยายามโฆษณาประชาสัมพันธ์ว่าจะมีรายได้ เข้าประเทศเป็นจำนวนมาก แต่ปรากฏว่าในเงื่อนไขตามท้าย พ.ร.บ.นั้น กำหนดใบอนุญาตครั้งแรก ไม่เกินห้าพันล้านบาท และค่าธรรมเนียมรายปีอีกไม่เกินหนึ่งพันล้านบาท (ซึ่งคณะกรรมการสามารถกำหนดต่ำกว่านั้นได้) รวมแล้วรายได้อยู่ที่ 3.4 หมื่นล้านบาท หาร 30 ปี แล้วเหลือปีละพันกว่าล้านบาท เป็นเงินรายได้ที่น้อยมากเมื่อเทียบกับผลกระทบกับประชาชน และสังคมไทยต้องรับปัญหา”พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว







