'อนุทิน' ขีดเส้น 7 วันสอบแชทไลน์หลุดเกาะติดพรรคประชาชน เลือกตั้งท้องถิ่น

'อนุทิน' ขีดเส้น 7 วันสอบแชทไลน์หลุดเกาะติดพรรคประชาชน เลือกตั้งท้องถิ่น

“อนุทิน” ขีดเส้น 7 วันสอบปม ไลน์หลุดเกาะติด พรรคประชาชนหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น หลังมีข้อความปลัดอำเภอป่าซาง ลั่น หากกลั่นแกล้งโดนแน่ ด้าน ผู้ว่าฯ แจงเรื่องปกติ ติดตามบุคคล - พรรคการเมืองเข้าออกพื้นที่

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ม.ค. ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาทวงถามว่า นายอนุทินมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ หลังพบไลน์หลุดปลัดอำเภอสั่งการให้ติดตามการหาเสียงของพรรคประชาชนเพียงพรรคเดียวว่า ตนจะไปมีส่วนได้อย่างไร เพราะตนเป็นคนออกหนังสือ และนโยบายว่าในช่วงที่มีการเลือกตั้งท้องถิ่น ให้ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยทุกคน วางตัวเป็นกลาง

เมื่อถามว่า แชทที่หลุดออกมานั้นได้ตรวจสอบหรือไม่ เพราะมีชื่อพรรคประชาชนเพียงพรรคเดียว นายอนุทิน กล่าวว่า  รายงานดังกล่าวเป็นรายงานใครเข้าพื้นที่ ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคงเขามีวิธีการ โดยเฉพาะบุคคลที่มีชื่อเสียง คนที่มีบทบาทในทางการเมือง หรือแม้กระทั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ใครก็ตามที่เข้าไปในพื้นที่ต่างๆ ทางอำเภอแต่ละอำเภอ จะต้องมีการติดตามการข่าว เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าไม่มีอะไร หรือสิ่งที่ไม่พึ่งประสงค์เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการดำเนินการตามปกติ 

นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนที่มีการเขียนชื่อพรรคนั้น นี่คือเหตุผลที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมการปกครอง สั่งให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนออกมา และได้สั่งการให้ปลัดอำเภอคนนั้น เข้ามาประจำที่สำนักงานจังหวัด ในระหว่างที่มีการสอบสวน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน จะได้ดูว่าเป็นอย่างไร แต่ในรายงานเบื้องต้นผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ทำเป็นหนังสือรายงานมา อย่างเป็นทางการแล้วว่า เป็นการปฏิบัติทั่วไป ไม่ว่าใครไป พรรคไหนไป หรือ บุคคลสำคัญคนไหนไป ก็มีวิธีการแบบนี้หมด 

เมื่อถามว่า เหตุใดถึงที่มีชื่อพรรคประชาชนอย่างเดียว นายอนุทิน กล่าวว่า เอาไว้รอการสอบสวน ตนจะไปรู้ได้อย่างไร และเขาอาจจะมีกำหนดการว่า วันนี้พรรคประชาชนมา ถ้าวันไหนที่พรรคเพื่อไทยไป ก็อาจจะระบุพรรคอื่น แต่ในบางทีพอไม่ไปสนใจ ไม่ติดตาม ก็มีการโวยวายว่า ไม่ดูแล ไม่ให้ความสำคัญ จำได้หรือไม่สมัยก่อนที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งพอไม่มีการให้ความสำคัญ ก็มีการโวยวายกันใหญ่ ตนขออย่ากังวลเลย ถ้าหากมั่นใจว่า เรามีความนิยมอยู่แล้ว มีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว มันไม่มีอะไรที่จะทำให้เกิดอุปสรรคอย่างแน่นอน นี่เป็นเรื่องปกติของการทำงานราชการซึ่งตนก็ฟัง เพราะนายชัยธวัชก็เคยเป็น ถึงอดีตผู้นำฝ่ายค้าน และอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล หากทักมาแล้ว เราจะบอกไม่สนใจเลย มันก็ไม่ใช่ ตนก็รู้จักท่านดี ท่านทักมา ผมก็ต้องมาติดตามว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

ส่วนที่นายชัยธวัช ออกมาพูดนั้น มองว่าเป็นการออกอาการว่า เป็นรองทางการเมืองหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า แต่ละคน ก็มีเทคนิคอยู่แล้ว แต่ในเมื่อเรื่องนี้นายชัยธวัช นำออกมาเผยแพร่ตามโซเชียลมีเดีย ตนเป็นผู้ที่ถูกตั้งคำถาม ก็ไม่ได้ใช้เวลาอะไรตนมาก ก็ติดตาม ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรให้เขาได้รายงานมา หากผลการสอบสวนออกมาเป็นการจงใจกลั่นแกล้ง เลือกปฏิบัติอันนี้โดนแน่ เพราะมีการออกคำสั่งไว้แล้วว่าต้องเป็นกลาง ขอให้มีความมั่นใจได้ ไม่มีการช่วยเหลือใคร และปลัดอำเภอคนนั้นก็ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรมากมาย ที่จะทำให้ผลการสอบสวนถูกบิดเบือนได้
  เมื่อถามว่า หลายคนมองว่าค่ายส้ม ดิสเครดิตค่ายน้ำเงินหรือไม่ ถึงหยิบยกประเด็นนี้มา นายอนุทิน ถึงกับร้องโอ๊ย มันไม่มีเรื่องนี้ ก็มีเรื่องนั้น ไม่มีปัญหาหรอก ก็ดีเสียอีกนะ ถ้าเป็นเรื่องของการดิสเครดิต แสดงว่า น้ำเงินมาแรง ก่อนที่จะหัวเราะ แล้วยืนยันว่า ตนไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ตอนนี้ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ทำหน้าที่ในราชการที่ตนต้องทำ ไม่เช่นนั้นตนก็ไม่ฟังเขาแล้วสิ หากตนมองเป็นเรื่องดิสเครดิต หรือเรื่องส่วนตัว ตนก็ต้องออกมาหาวิธีที่จะปกป้อง คนที่ถูกกล่าวหา แต่ตนไม่ได้ปกป้องอะไร แต่ให้ความเป็นธรรมแน่นอนทั้งสองฝ่าย
   นายอนุทิน ยังระบุว่า พื้นที่ที่ปรากฎให้เป็นข่าว คืออำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน ซึ่งมีการชี้แจงมาว่า เป็นเรื่องปกติ ที่ใครเข้าไปเขาก็ต้องสั่งการ ซึ่งในอำเภอก็สั่งได้แค่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จะไปสั่งผู้ว่าฯได้อย่างไร ก็เป็นการสั่งการ ตามลำดับชั้นลงไปไม่มีปัญหา