'พิธา' ถกเวทีผู้นำเอเชีย ยัน'ก้าวไกล' สะพานเชื่อมช่องว่าง ลดขัดแย้งสังคม

'พิธา' ถกเวทีผู้นำเอเชีย ยัน'ก้าวไกล' สะพานเชื่อมช่องว่าง ลดขัดแย้งสังคม

'พิธา' ร่วมเวทีความเป็นผู้นำแห่งเอเชียที่เกาหลีใต้ ย้ำ 'ก้าวไกล' คือสะพานเชื่อมช่องว่างสังคม หาฉันทามติใหม่ จำเป็นต้องปฏิรูปสถาบันต่าง ๆ ของการเมืองไทย ฝันวันหนึ่งคนไทยจะมี 'การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต'

เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2567 พรรคก้าวไกล แจ้งความเคลื่อนไหวของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ขึ้นเวทีเสวนาในงานประชุม Asian Leadership Conference (งานประชุมความเป็นผู้นำแห่งเอเชีย) ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา

โดยระหว่างเสวนา นายพิธาตอบคำถามจากพิธีกรหลายคำถาม เริ่มด้วยการอธิบายแนวคิดและยุทธศาสตร์ของพรรคก้าวไกลที่ทำให้ชนะการเลือกตั้ง และเหตุการณ์ทางการเมืองต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงผลกระทบต่อการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทย เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และบทเรียนต่อนักการเมืองและผู้นำรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมฟังการเสวนาในวันนี้ และยังได้อธิบายถึงการต่อสู้ของประชาชนต่อระบอบอำนาจของชนชั้นนำและผลพวงของระบอบรัฐประหาร พร้อมย้ำถึงความพยายามและความจริงใจของพรรคก้าวไกลในการหาฉันทามติใหม่ของสังคมไทย

นายพิธากล่าวถึง ช่องว่างความขัดแย้งต่างๆ ในสังคมไทย ย้ำว่าพรรคก้าวไกลได้เสนอตัวและมองตัวเองเป็น “สะพาน” ที่เชื่อมระหว่างความขัดแย้งเหล่านี้ โดยหวังให้ผู้มีอำนาจมองถึงความจริงใจ นอกจากนี้ พิธาได้กล่าวถึงความจำเป็นในการปฏิรูปสถาบันทางการเมืองต่างๆ ของการเมืองไทย ด้วยความหวังที่จะลดโอกาสของความรุนแรงและการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น

เมื่อพิธีกรถามว่าเขามองความเปลี่ยนแปลงอย่างไรในเมื่อกลุ่มหนึ่งอยากให้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อีกกลุ่มหนึ่งอาจไม่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลง นายพิธา กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงต้องมีจังหวะทั้งช้าทั้งเร็วเหมือนทำนองดนตรี บางอย่างที่สำคัญก็อาจต้องเปลี่ยนแปลงก่อน บางอย่างที่ต้องใช้ความรอบคอบและใช้เวลาก็อาจจะต้องใช้เวลานานกว่า และดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป ให้ทุกคนรู้สึกมีส่วนร่วมต่ออนาคตของประเทศไทยอย่างแท้จริง

\'พิธา\' ถกเวทีผู้นำเอเชีย ยัน\'ก้าวไกล\' สะพานเชื่อมช่องว่าง ลดขัดแย้งสังคม

จากนั้นนายพิธาได้เน้นย้ำถึงความฝันของคนไทย เมื่อพิธีกรถามว่าเขามองอนาคตประเทศไทยอย่างไร นายพิธา กล่าวว่าความฝันของคนไทยนั้นเรียบง่าย คืออยากเห็นครอบครัวคนไทยที่สามารถมีชีวิตที่ดี มีปากท้องที่ดี สามารถทำงานและเลี้ยงครอบครัวได้ และคนรุ่นใหม่ก็ต้องมองเห็นอนาคตของตัวเองด้วย แต่ความฝันเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากการเมืองไทยยังไม่ดี