'ร่มธรรม' จี้หน่วยงาน ตรวจสอบ-เอาผิด ขบวนการลักลอบขนกากแคดเมียม

'ร่มธรรม' จี้หน่วยงาน ตรวจสอบ-เอาผิด ขบวนการลักลอบขนกากแคดเมียม

"สส.พัทลุง ปชป." เรียกร้อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ - เอาผิด ขบวนการลักลอบขนกากแคดเมียม พร้อมเร่งประเมินผลกระทบสุขภาพปชช.

นายร่มธรรม ขำนุรักษ์  สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการลักลอบขนกากแคดเมียมและครอบครองของโรงงานอุตสาหรรม พร้อมแนะให้ตรวจสอบการรั่วไหลของสารปนเปื้อนอย่างละเอียดเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน 

นายร่มธรรม กล่าวว่า ตามรายงานข่าวการลักลอบขนกากแคดเมียมที่มีมากถึง 15,000 ตัน จากต้นทางจังหวัดตากมาในพื้นที่ภาคกลางนั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องเร่งดำเนินการให้ยุติโดยไว ทั้งการดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกระดับ พร้อมทั้ง เร่งตรวจสอบการปนเปื้อนของแคดเมียมในบริเวณโรงงานที่แอบครอบครอง เนื่องจากสารแคดเมียมเป็นสารเคมีอันตรายที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน

นายร่มธรรม กล่าวต่อว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะ กรมโรงงานอุตสาหกรรม และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) จะต้องบูรณาการการทำงานเชิงรุก ในประเด็นที่สำคัญอย่างน้อย 3 ประการ คือ

1. ปริมาณกากแคดเมียม ที่ลักลอบขนจากต้นทางและที่พบเจอมีปริมาณเท่าไร หลงเหลือที่ยังไม่พบเจอหรือไม่

2. ขบวนการลับลอบมีใครรู้เห็นเป็นใจ มีเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ เพราะการขนส่งสารอันตรายจะต้องมีการขออนุญาตอย่างชัดเจน

3. ต้องเร่งตรวจสอบผลกระทบทางสุขภาพของประชาชนที่ตามมา

นายร่มธรรม กล่าวว่า ตามข้อมูลล่าสุด บก.ปทส. จะดำเนินคดีกับโรงงานที่ครอบครอง กากแคดเมียมจำนวน 5 คดีนั้น ตนเสนอให้ เร่งสืบสวนปมการขนย้ายจากต้นทางว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เนื่องจาก การขนสารเคมีอันตรายจะต้องมีการขออนุญาตอย่างชัดเจน ดังนั้น หากเป็นการขนย้ายในปริมาณที่มาก และข้ามพื้นที่ สันนิษฐานได้ว่าจะต้องมีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นเป็นใจ  ขณะเดียวกัน ในพื้นที่จังหวัดตากที่ประชาชนได้ออกมาคัดค้านเรื่องการนำกากแคดเมียม มาฝั่งกลบไว้ที่เดิมนั้น ทำความเข้าใจกับประชาชนโดยเร็วเพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย 

"เหตุการณ์ลักลอบขนสารเคมีอันตรายในครั้งนี้ เป็นบทเรียนที่สำคัญที่รัฐบาลจะต้องเร่งสืบหาข้อเท็จจริง และขบวนการผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ พร้อมทั้ง เสนอแนะให้ถอดบทเรียนเพื่อหาแนวทางการกำกับและควบคุมการใช้สารเคมีอันตรายต่อไป" นายร่มธรรมกล่าว.