วัดใจ‘พรรคร่วมรัฐบาล’ ‘เดอะแบก’แจก‘ดิจิทัลวอลเล็ต’

วัดใจ‘พรรคร่วมรัฐบาล’  ‘เดอะแบก’แจก‘ดิจิทัลวอลเล็ต’

จับสัญญาณรัฐบาล ดัน "ดิจิทัลวอลเล็ต" ท่าทีพรรคร่วมรัฐบาล ท่ามกลางสัญญาณ “ปรับครม.”  ที่เริ่มดังถี่ขึ้นเรื่อยๆจะมีผลไปถึงอำนาจต่อรองในขั้วรัฐบาลหรือไม่ 

KEY

POINTS

  • สัญญาณถอย ไม่ออกพ.ร.บ.กู้เงิน5แสนล้าน ทำ'ดิจิทัลวอลเล็ต' ทั้งที่แต่เดิมมั่นอกมั่นใจว่า เสียงที่รัฐบาลมีอยู่ในมือ315เสียงเพียงพอ แน่นอนว่า รัฐบาลย่อมรู้ดีถึงอุปสรรคขวากหนามที่จะเกิดขึ้นในเบื้องหน้า
  • บรรดา 'คีย์แมน' พรรคร่วมรัฐบาลประสานเป็นนโยบายที่รับผิดชอบร่วมกันของรัฐบาล โอกาสที่ 'พรรคร่วมรัฐบาล' จะหักพรรคเพื่อไทยยังไม่น่าจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ 
  • น่าสนใจว่า ในยามที่มีสัญญาณ “ปรับครม.”  เริ่มดังถี่ขึ้นเรื่อยๆจะมีผลไปถึงอำนาจต่อรองในขั้วรัฐบาลหรือไม่ 

จับสัญญาณรัฐบาล ดัน "ดิจิทัลวอลเล็ต" ท่าทีพรรคร่วมรัฐบาล ท่ามกลางสัญญาณ “ปรับครม.”  ที่เริ่มดังถี่ขึ้นเรื่อยๆจะมีผลไปถึงอำนาจต่อรองในขั้วรัฐบาลหรือไม่ 

“ดิจิทัลวอลเล็ต”  จากเดิมที่ “วน-เลท” และ “วนลูป” อยู่พักใหญ่ ล่าสุดมีสัญญาณมาจากทางรัฐบาล กางแผนแจกหมื่นตั้งเป้าที่ไตรมาส4 ปีนี้หวังเป็นของขวัญปีใหม่2568

ถอดรหัส “3แหล่งที่มา” ไม่ว่าจะเป็น 1.งบประมาณปี 68 จำนวน 152,700 ล้านบาท โดยมีการขยายกรอบวงเงินในปี 68

2.จะมาจากการดำเนินการผ่านหน่วยงานของรัฐ จำนวน 172,300 ล้านบาท  โดยใช้มาตรา 28 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดูแลกลุ่มประชาชนที่เป็นเกษตรกรจำนวน 17 ล้านคน ผ่านกลไกมาตรา 28 ของปีงบประมาณ 68

และ 3. มาจากการบริหารจัดการเงินงบประมาณของปี 67 ของรัฐบาลเอง จำนวน 175,000 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณปี 67 เพิ่งใช้ ยังมีเวลาที่รัฐบาลจะต้องพิจารณาว่ารายการไหนสามารถปรับเปลี่ยนได้ รวมถึงงบกลาง อาจจะมีการนำมาใช้เพิ่มเติมในส่วนนี้ถ้าวงเงินไม่เพียงพอ

ชัดเจนว่า ต่างจากที่เคยแถลงในช่วงปลายปี2566 ตรงที่จะไม่มีการออก “พ.ร.บ.กู้เงิน5แสนล้าน” เพื่อมาใช้ในการดำเนินโครงการดังกล่าว แต่ใช้วิธีดึงงบปี67 และ68 บวกยืมเงินธกส. หรือเรียกว่า เป็นการ “กู้ทางอ้อม” เพื่อมาใช้ดำเนินโครงการดังกล่าวแทน

การส่งสัญญาณถอย ไม่ออกพ.ร.บ.กู้เงิน5แสนล้าน ทั้งที่แต่เดิมมั่นอกมั่นใจว่า เสียงที่รัฐบาลมีอยู่ในมือ315เสียงเพียงพอต่อการเข็นพ.ร.บ.กู้เงินผ่านสภาได้โดยไม่ยากเย็นนัก

 แน่นอนว่า รัฐบาลย่อมรู้ดีถึงอุปสรรคขวากหนามที่จะเกิดขึ้นในเบื้องหน้า ไม่ว่าจะขั้นตอนการออกพ.ร.บ.กู้เงินที่มีความยุ่งยากซับซ้อนแม้จะผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ยังต้องไปลุ้นที่สภาสูงที่จะประทับตราในด่านสุดท้าย 

ยังไม่นับปมสุ่มเสี่ยงทั้งการขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 140 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง มาตรา 53 ที่ระบุว่า ต้องมีความจำเป็นเร่งด่วนเท่านั้น เพื่อแก้วิกฤตของประเทศ ที่อาจนำไปสู่การยื่นตีความในภายหลัง 

วัดใจ‘พรรคร่วมรัฐบาล’  ‘เดอะแบก’แจก‘ดิจิทัลวอลเล็ต’

ในมิติการเมือง ในยามที่ “เรือธงแดง” แจกเงินหมื่น ของพรรคเพื่อไทยกำลังโลดแล่นในเส้นทางใหม่ ไม่เพียงแต่แรงเขย่าจาก “นอกขั้ว”  

โดยเฉพาะฝ่านค้านอาทิ  “ศิริกัญญา ตันสกุล” รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล  ที่ชิงชำแหละตั้งข้อสงสัย ทั้งการดึงงบจากปี2567 จำนวน 1.75แสนล้านบาท มาใช้ที่จนถึงวันนี้ยังไม่มีการใส่รายละเอียดว่าจะนำงบมาจากส่วนไหน

วัดใจ‘พรรคร่วมรัฐบาล’  ‘เดอะแบก’แจก‘ดิจิทัลวอลเล็ต’

ยิ่งไปกว่านั้นการใช้งบจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธกส.)  โดยมีการอ้างถึงช่องทางตาม มาตรา28 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ที่อาจผิดวัตถุประสงค์ของธกส. และอาจยืดเยื้อที่ขั้นตอนตีความโดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ไม่ต่างไปจากตัวเลขเกษตรกร7.5-8ล้านคน ที่ต้องไต่เส้นให้ได้17ล้านคน 

รวมไปถึงการออกพ.ร.บ.2ฉบับ คือ พ.ร.บ.งบ68และ อีกส่วนคือการออกงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมของปี2567 ซึ่งเป็นการโอนเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มงบประมาณที่เป็น “คอขวด” ในห้วงนับถอยหลังเหลือเวลาไม่ถึง6เดือน ซึ่งต้องลุ้นว่า กฎหมายทั้ง2ฉบับจะผ่านสภาทันไตรมาส4 ตามที่รัฐบาลประกาศไว้หรือไม่ 

ยังไม่นับรวม “อำนาจต่อรอง” ภายในขั้วรัฐบาล แม้ที่ผ่านมาบรรดา “คีย์แมน” พรรคร่วมรัฐบาลจะพยายามประสานในทิศทางเดียวกันว่าดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนโยบายที่รับผิดชอบร่วมกันของรัฐบาล หรือโอกาสที่พรรคร่วมรัฐบาลจะหักพรรคเพื่อไทยยังไม่น่าจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ 

แต่น่าสนใจว่า ในยามที่มีสัญญาณ “ปรับครม.”  เริ่มดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดมีการคาดการณ์ว่าจะเป็นช่วงเม.ย.หน้าร้อน 

แน่นอนว่า แรงต่อรองในขั้วรัฐบาลก็อาจมีสูงขึ้นตามไปด้วย เช่นนี้ต้องจับตาถึงที่สุดพรรคร่วมรัฐบาลจะสวมบท “เดอะแบก” แจกดิจิทัลวอลเล็ตซึ่งเป็นนโยบายเรือธงพรรคเพื่อไทยอย่างเต็มกำลังหรือไม่อย่างไร!