ผ่าโรดแมป ‘ก้าวไกล’ ปักธงรบยาว เปิดเกมโต้กลับ ‘อนุรักษนิยม’

ผ่าโรดแมป ‘ก้าวไกล’ ปักธงรบยาว เปิดเกมโต้กลับ ‘อนุรักษนิยม’

ปัญหาและอุปสรรคสำคัญสำหรับ “พิธา-ก้าวไกล” คือ ชนักปักในศาลรัฐธรรมนูญอีก 1 คดี กรณีนโยบายหาเสียงก่อนการเลือกตั้ง ในการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ศาลนัดวินิจฉัยชี้ขาด 31 ม.ค.นี้

KeyPoints

  • 'พิธา' รอดพ้นบ่วงคดีหุ้นไอทีวี กลับมาเป็น สส.อีกครั้งในรอบ 6 เดือน เดินหน้าแถลงโรดแมป 'ก้าวไกล' ในปี 67 ทันที
  • ภารกิจแรกร่วมอภิปรายญัตติ 'ธุรกิจกองทัพ' ร่วมชงชื่อ 'ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ' ศาสดาสีส้ม นั่งเป็น กมธ. ได้กลับเข้าสภาฯอีกครั้ง
  • เปิด 6 โรดแมป 'ก้าวไกล' เน้นหลักใหญ่ใจความ "ปฏิรูปกองทัพ-แก้ไขรัฐธรรมนูญ-ปฏิรูประบบราชการ" ส่งร่างกฎหมายเข้าสภาฯ 47 ฉบับ
  • ตั้งเป้า เม.ย.67 ปรับโครงสร้างพรรค ยื่นซักฟอกรัฐบาล แบไต๋เก็บข้อมูลมาโดยตลอด มีไม้เด็ดรออยู่ เผยปลายปี 67 เตรียมส่งคนชิงเก้าอี้ อบจ.ด้วย
  • รอลุ้น 31 ม.ค.คดีล้มล้างการปกครองปมแก้ ม.112 ในศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชะตาสามารถทำตามที่หาเสียงไว้ได้หรือไม่

 

กำลังอยู่ในช่วงใจฟู สำหรับพลพรรค “ด้อมส้ม” พลันที่ศาลรัฐธรรมนูญ โดยมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 เสียง วินิจฉัยให้คืนเก้าอี้ สส.แก่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล

โดยในคำวินิจฉัย มีสาระสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1.พิธา ถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) (หุ้นไอทีวี) จริง โดยถือทั้งในนามส่วนตัว และในนามผู้จัดการมรดก 2.ศาลพบข้อพิรุธที่พิธา อ้างว่า เตรียมการโอนหุ้นให้ “น้องชาย” ภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ ด้วยปากเปล่าตั้งแต่ปี 2561 ก่อนทำสัญญาโอนปี 2562 และมีการโอนทางทะเบียนปี 2566 และข้อสุดท้ายที่ทำให้ “พิธา” รอดพ้นบ่วงคือ 3.ไอทีวี มิได้ประกอบกิจการสื่อ ในวันที่เขาสมัครรับเลือกตั้ง สส.บัญชีรายชื่อ

ภารกิจแรกของ “พิธา” คือการกลับเข้าสภาฯ นำทัพพลพรรคสีส้มเตรียมความพร้อมในอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ และศึกใหญ่ซักฟอกรัฐบาล

เช่นเดียวกับ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ศาสดาสีส้ม อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ปัจจุบันเป็นประธานคณะก้าวหน้า ก็ได้คัมแบ็กกลับเข้าสภาฯ ในฐานะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจกองทัพไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่นหรือย้ายไปอยู่หน่วยงานอื่น ด้วยเช่นกัน

เรียกได้ว่า การกลับมาครั้งนี้ของพลพรรคสีส้มค่อนข้าง "ฟูลทีม" เพื่อเป้าหมายหลักเปลี่ยนแปลงประเทศไทยตามเจตนารมณ์ที่เคยบอกไว้

สำหรับโรดแมปสำคัญ ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า การซักฟอก รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน” จะเกิดขึ้นในช่วงเดือน เม.ย. 2567 หลังจาก “พิธา” แถลงโรดแมปของ “ก้าวไกล” ประจำปี 2567 ด้วยตัวเองเมื่อ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา

สาระสำคัญของ โรดแมปก้าวไกล ดังกล่าวแบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ คือ

หนึ่ง เป้าหมายสำคัญ 6 ประการหรือ ‘Big Bangs’ ได้แก่ 

1.การทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ ผ่านการปฏิรูปทหาร การแก้รัฐธรรมนูญ

2.การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ผ่านการยกระดับสวัสดิการ และขนส่งสาธารณะ

3.การหยุดแช่แข็งชนบทไทย ผ่านการสนับสนุนทางการเกษตร

4.การปฏิรูปรัฐครั้งใหญ่ ผ่านการกระจายอำนาจ ปฏิรูประบบราชการ

5.การเรียนรู้ทันโลก ผ่านการตัดอำนาจนิยมในสถานศึกษา เสริมสร้างทักษะผู้เรียน 

6.การเติบโตแบบมีคุณภาพ ผ่านการสร้างงาน และสนับสนุน SMEs 

สอง วิธีดำเนินการให้ไปถึง 6 เป้าหมายข้างต้น คือ จะดำเนินการผ่านการเสนอแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรค และเสนอร่างกฎหมายเพิ่มเติม รวม 47 ฉบับ สนับสนุนงบประมาณให้เพียงพอกับการดำเนินงาน และกำหนดแผนปฏิบัติการ รวมถึงพิจารณาความพร้อมของบุคลากร เพื่อให้เป้าหมายสัมฤทธิผล  

สำหรับร่างกฎหมายที่ “ก้าวไกล” ที่เป็น “เรือธง” ของพรรคก้าวไกล โดยจะทำให้สำเร็จให้ได้ คือ นโยบายการสมรสเท่าเทียม สุราก้าวหน้า การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร การเปลี่ยน ส.ป.ก.เป็นโฉนด และการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ

ปัจจุบัน “ก้าวไกล” ดำเนินการแก้ไขกฎหมายที่กำลังเป็นอุปสรรคในสภาฯ ตอนนี้ เช่น ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม การแก้ปัญหาฝุ่นพิษ และกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่คณะรัฐมนตรีขอนำไปพิจารณา 60 วัน 

ร่างกฎหมายที่บรรจุเข้าสู่วาระการประชุมแล้ว และรอการพิจารณาจำนวน 17 ฉบับ เช่น ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญกฎหมายโคนม และผลิตภัณฑ์นม กฎหมายรับรองเพศ และคำนำหน้านามบุคคล และร่างกฎหมายการแข่งขันทางการค้า เป็นต้น 

ร่างข้อบังคับ 1 ฉบับที่ถูกสภาปัดตกไปแล้ว ได้แก่ ร่างข้อบังคับการประชุมสภาก้าวหน้า 

นอกจากนั้น ยังมีร่างกฎหมายที่รอนายกรัฐมนตรีรับรอง ร่างกฎหมายที่กำหลังรับฟังความเห็นอยู่อีกจำนวนหนึ่ง

สำหรับการทำงานของ “ก้าวไกล” ในช่วงปี 2567 แบ่งเป็น 2 ช่วงด้วยกัน คือการทำงานนอกพรรค เน้นเรื่องในสภา และเรื่องภายในพรรค โดยทั้งหมดจะมีการวัดผลทุกระยะ ได้แก่ 

เริ่มจากเดือน ก.พ.เป็นเรื่องภายในพรรค เราจะพิจารณาทบทวนตัวชี้วัดของประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) และ สส. คือทุกคนที่ทำงานจะมี KPI ควรจะวัดอะไรบ้างให้มีประสิทธิภาพ
    
เม.ย.หลังสงกรานต์ เป็นไปได้มีโอกาสว่า เราจะเริ่มคิด หรือมีโอกาสอภิปรายทั่วไป หรือ อภิปรายไม่ไว้วางใจช่วงนั้นหรือไม่ แต่เป็นช่วงที่เราคิดว่าเวลาน่าจะเหมาะสมกับการทำงานของรัฐบาล โอกาสในการอภิปรายปีละ 1 ครั้ง คงเริ่มคิดกันว่าผ่านมาครึ่งปีน่าจะเป็นเรื่องเหมาะสมที่คิดเรื่องนี้ ถัดจากนั้นในช่วงเดือนเดียวกัน 

เดือนเดียวกัน คือ เม.ย.จะมีการประชุมใหญ่สามัญพรรคก้าวไกล ที่กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ทำงานมาครบ 4 ปี คงทบทวนการปรับโครงสร้างองค์กร และการทบทวนรูปแบบการทำงาน

พ.ค.จะทำให้การเมืองเป็นเรื่องสนุก ทำเรื่องนโยบายให้มัน ๆ ย่อยให้คนเข้าใจง่าย คือ Move Forward Party’s Policy Festival 

มิ.ย.-ส.ค.จะเป็นช่วงอภิปรายวาระ 2-3 ของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 

ปลายปีประมาณไตรมาส 4/2567 เราคงเตรียมตัวเรื่องลงแข่งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ

อย่างไรก็ดี ปัญหาและอุปสรรคสำคัญสำหรับ “พิธา-ก้าวไกล” คือ ชนักปักในศาลรัฐธรรมนูญอีก 1 คดี กรณีนโยบายหาเสียงก่อนการเลือกตั้ง ในการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ศาลนัดวินิจฉัยชี้ขาด 31 ม.ค.นี้

เบื้องต้น “พิธา” ยืนยันว่า มีการคิดเป็นฉากทัศน์อยู่ รวมถึงฉากทัศน์ที่แย่ที่สุด แต่พรรคก้าวไกลยังบริหารจัดการได้ แต่ไม่ทำให้ภาพรวมใหญ่ทั้งปีต้องสะดุดลง คิดว่าบริหารจัดการได้ แต่รายละเอียดคงลงไม่ได้ อย่างที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกล่าวไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งหมดคือสาระสำคัญใน “โรดแมป” ของ “ก้าวไกล” ในปี 2567 ที่ทำเอาฝ่าย “อนุรักษนิยม” อาจร้อน ๆ หนาว ๆ กันบ้าง ต้องรอดูว่าจะสำเร็จเห็นผลเป็นรูปธรรม อย่างที่แถลงเอาไว้หรือไม่