'เสรี' เผยมี 99 สว.หนุนญัตติซักฟอก 'รบ.' จ่อยื่นต่อ ปธ.วุฒิสภา จันทร์หน้า

'เสรี' เผยมี 99 สว.หนุนญัตติซักฟอก 'รบ.'  จ่อยื่นต่อ ปธ.วุฒิสภา จันทร์หน้า

"เสรี" จ่อยื่นญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาล 22 ม.ค. หลัง สว. ร่วมลงชื่อ 99คนแล้ว ยืนยันไม่มีใครถอนรายชื่อ-ไม่ตัดประเด็น "ทักษิณ" ออกจากสาระ ระบุขอเวลาอภิปราย 2 วัน

ที่วุฒิสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน  วุฒิสภา ฐานะแกนนำยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ให้สัมภาษณ์ว่า จากการเปิดรับ สว.ที่สนับสนุนญัตติดังกล่าว ล่าสุดพบว่ามี สว.ร่วมลงชื่อในญัตติแล้ว 99 คน จากนั้นจะพิจารณายื่นเรื่องให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในช่วงวันที่   22 ม.ค. นี้ เวลา  09.30 น.  เบื้องต้นคาดว่าจะไม่มีผู้ใดถอนรายชื่อ เพราะกว่าที่สว.จะร่วมลงชื่อได้พิจารณาเนื้อหาของญัตติอย่างรอบคอบแล้ว ส่วนกรณีที่นายวันชัย สอนศิริ สว. ระบุว่าอาจมีคนถอนชื่อออกจนยื่นญัตติไม่ได้นั้น เป็นแค่หลักการ แต่เชื่อว่าจะไม่มีใครถอนรายชื่อ

 

นายเสรี กล่าวด้วยว่า สำหรับการเตรียมพิจารณากรอบเวลานั้น กมธ.พัฒนาการเมือง ได้หารือร่วมกันเมื่อ 15 ม.ค. เบื้องต้นอยู่ระหว่างการสอบถาม สว. ที่ร่วมลงชื่อว่าต้องการอภิปรายในประเด็นใดใน 7 หัวข้อตามญัตติ และจะใช้เวลาเท่าใด เพื่อดูรายละเอียดว่าต้องใช้เวลาเท่าใดและใช้เป็นข้อเสนอต่อรัฐบาล ส่วนตัวมองว่าการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติดังกล่าวควรได้เวลา  2 วัน


เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายการเมืองไม่อยากให้อภิปรายพาดพิงถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก่อนยื่นญัตติต้องทบทวนประเด็นดังกล่าวหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ไม่มีการทบทวน เพราะก่อนที่สว.จะลงชื่อสนับสนุนญัตติได้ส่งรายละเอียดให้พิจารณาแล้ว ดังนั้นไม่สามารถทำตามใจตัวเองได้

เมื่อถามว่าการอภิปรายดังกล่าว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง ควรมาตอบด้วยตนเองหรือไม่ นายยเสรี กล่าวว่า  แล้วแต่นายกฯ แต่หากจะให้ดีนายกฯ ควรมาเอง เพื่อเป็นประโยชน์กับรัฐบาลเอง

ทั้งนี้เมื่อเวลา 14.30 น. ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้แจ้งหมายข่าว ระบุว่า  ขอเชิญสื่อมวลชนทำข่าว คณะสมาชิกวุฒิสภาที่เข้าชื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ นำโดยนายเสรี สุวรรณภานนท์ จะยื่นเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ต่อประธานวุฒิสภา  วันจันทร์ที่ 22 มกราคม 2567 เวลา 09.30 นาฬิกา ณ บริเวณหน้าห้องประชุมวุฒิสภา ชั้น 2 อาคารรัฐสภา.