'ภูมิธรรม' ขอ 'ชัยธวัช' ตั้งสติ สงวนจุดต่าง หนุนแก้รธน. ไม่แตะหมวด1หมวด2

'ภูมิธรรม' ขอ 'ชัยธวัช' ตั้งสติ สงวนจุดต่าง หนุนแก้รธน. ไม่แตะหมวด1หมวด2

"ผู้นำฝ่ายค้าน" ตั้งกระทู้ถามสดรัฐบาล จี้ ทบทวนคำถามประชามติ ไม่แตะหมวด1หมวด2 -ไร้ส.ส.ร.หวั่นเกิดกรณีวางยา แก้รธน.ไม่ได้ ด้าน "ภูมิธรรม" โต้ขอให้ตั้งสติ สงวนจุดต่าง

ในการประชุมสภาฯ วาระกระทู้ถามสด นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ตั้งกระทู้ถามนายกฯ ต่อประเด็นการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่คณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติฯ สรุปว่า จะตั้งคำถามประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญยกเว้นหมวด 1 และหมวด2 โดยมองว่าการล็อกรายละเอียดดังกล่าวนั้นนั้นจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้ในอนาคต เหมือนอย่างกรณีที่เคยมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ในหมวดพระมหากษัตริย์ และไม่ระบุว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ไม่กำหนดให้ดำเนินการผ่านสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)  ทั้งนี้ตนมองว่าการตั้งคำถามดังกล่าวอาจจะเป็นการวางยาตัวเอง และขอถามรัฐบาลว่าจะทบทวนการตั้งคำถามประชามติดังกล่าวหรือไม่

  • จี้ "รบ." ทบทวนประชามติบล็อกหมวด1หมวด2 หวั่นเกิดผลด้านลบ

“การกำหนดดังกล่าวเท่ากับว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เท่ากับว่าผู้ที่มีอำนาจยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ มีเฉพาะคณะรัฐประหารเท่านั้นหรือไม่ ซึ่งการเขียนคำถามดังกล่าวอาจจะวางยาให้กับตัวเอง เช่น ใช้กระบวนการส.ส.ร. เสนอร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดย สว. ไม่เห็นด้วยเพราะคำถามประชามติประชาชนไม่เห็นด้วยจะให้มี ส.ส.ร. รวมถึงการตั้งคำถามประชามติ ที่ล็อกหมวดใดหมวดหนึ่ง ทำให้ประชามติผ่านยาก เพราะแทนที่จะเป็นคำถามแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง แต่กลับทำให้เสียงแตกเพิ่มมากขึ้น การตั้งคำถามด้วยความจงรักภักดีล้นเกิน ทำให้การดีเบต การรณรงค์ แทนคำถามมีรัฐธรรมนูญใหม่แทนที่รัฐธรรมนูญของคสช. แต่จะเป็นการถกเถียงว่าแก้ไขหมวด1 หรือ หมวด 2 หรือไม่ ขอให้รัฐบาลคิดผลด้านกลับด้วย” นายชัยธวัช ตั้งกระทู้ถาม

\'ภูมิธรรม\' ขอ \'ชัยธวัช\' ตั้งสติ สงวนจุดต่าง หนุนแก้รธน. ไม่แตะหมวด1หมวด2

  • ภูมิธรรม ยังไม่เสนอคำถามประชามติ ให้ ครม.

โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ ชี้แจงแทนนายกฯ ว่า  เรื่องประชามติยังไม่ถึงรัฐบาล ยังอยู่ในชั้นกรรมการ และต้องทำตามเสียงส่วนใหญ่ที่รับฟัง คือไม่แตะหมวด 1 หมวด2 แต่บันทึกความเห็นที่แตกต่าง โดยสำนักนายกฯรวบรวมสรุปอยู่ และพยายามทำให้เสร็จภายในเดือนม.ค. นี้

  • ย้ำแก้รธน.ไม่แตะหมวด1 หมวด2 เป็นนโยบายพท.-รบ.

นายภูมิธรรม ชี้แจงด้วยว่า สำหรับความกังวลใจของนายชัยธวัช ไม่แตกต่างกัน  คือ ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นปัญหาความขัดแย้ง แต่มีมุมมองแตกต่างกัน เพราะความจริงมีให้เห็นหลังจากที่ในสมัยที่เป็นฝ่ายค้านร่วมกันพบว่าการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สามารถผ่านไปได้ เพราะมีบางพรรคไม่สนับสนุนการแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2  เหมือนกับการตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล อีกทั้งสิ่งที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงและแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ย้ำเสมอว่าจะไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2

  • ขอ "กก." ตั้งสติ สงวนจุดต่าง ร่วมมือสถานปนารธน.

“ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเด็นนี้หากถามสภา หรือวุฒิสภา เขาติดใจเรื่องนี้ และทำให้เรื่องอื่นๆ เราไม่ได้ สิ่งที่ต้องการคือได้รัฐธรรมนูญประชาธิปไตยมากขึ้น ซึ่งการไม่แตะ2 หมวดจะทำให้ไม่มีความขัดแย้ง ผมขอชวนท่านแสวงจุดร่วมกัน หากท่านละเว้นและทำให้ทุกอย่างเป็นประชาธิปไตย เพราะทุกกลุ่มวิชาชีพที่สอบถาม ทั้งผู้ใช้แรงงาน เกษตรกร มุสลิม คนภาคใต้ คนชนเผ่า สว. ไม่เอาการแก้ไขหมวด1 และหมวด2  คนส่วนใหญ่ของประเทศไม่สบายใจ  ผมว่าท่านอย่าหมกมุ่นแค่ประเด็นนี้ประเด็นเดียว ทำไมท่านถึงกังวลใจแค่ประเด็นนี้ประเด็นเดียว ผมว่าท่านละเว้นได้จะได้รับการแก้ไข สถาปนารัฐธรรมนูญประชาธิปไตยได้ ขอให้ท่านตั้งสติและมาแก้ปัญหาให้ประชาชนร่วมกัน” นายภูมิธรรม ชี้แจง

นายภูมิธรรม ชี้แจงด้วยว่ากรณีที่ไม่มี ส.ส.ร. นั้นเป็นคนละขั้นตอนกับการตั้งคำถามถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า ประชาชนมีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญฉบับใหม่

  • "ชัยธวัช" ซักต่อ ปมนักโทษชั้น14-คุกคามเยาวชน

ทั้งนี้นายชัยธวัช ตั้งถามต่อถึงการดำเนินคดีทางการเมือง ในประเด็นการฟื้นฟูหลักนิติรัฐที่เข้มแข็งของรัฐบาล โดยในปี2566 คดีการเมืองถูกคุมขัง 56 คน ถือว่าสูงที่สุดแม้เป็นก่อนที่รัฐบาลชุดใหม่เข้ามา แต่เมื่อมีนายกฯคนใหม่ ยังพบการดำเนินคดีของผู้ชุมนุมทางการเมือง คดี 112 เพิ่มขึ้น 9 คดี และผู้ต้องหาไม่ได้รับการประกันตัว ซึ่งกระทบต่อสิทธิของประชาชน นอกจากนั้นยังพบการคุกคามทางการเมืองแม้เปลี่ยนรัฐบาลยังพบการกระทำต่อเนื่องรวม 203 กรณี  โดยเกิดในรัฐบาลชุดปัจจุบัน 70 กว่าคดี นอกจากนั้นแล้วกระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐานจากกรณีบุคคลที่ได้รับการรักษาในชั้น 14  ซึ่งเกินระยะเวลา 120 วัน เทียบกับนักโทษรายอื่นที่ไม่ได้รับสิทธิเท่าเทียมกับกรณีดังกล่าว ทำให้กระบวนการยุติธรรม ถูกตั้งคำถามถึงความเท่าเทียม

  • รบ.ขอให้เคารพกฎหมาย ชวนมาร่วมมือหาทางออก

นายภูมิธรรม ชี้แจงว่า รัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการคุกคามเยาวชน  แต่หากมีรูปธรรมชัดเจนกระบวนการกฎหมายดำเนินการอยู่ ส่วนที่รู้สึกว่าเป็นประเด็นเกิดจากประเด็นทางการเมือง ขณะที่มีกฎหมายดำเนินการ ทุกคนต้องเคารพกฎหมายและปฏิบัติ หากไม่ทำเจ้าหน้าที่อาจมองว่าเลือกปฏิบัติ ละเมิดมาตรา 157 ดังนั้นตนขออย่าให้ท้าทายกฎหมาย ส่วนกฎหมายที่เป็นปัญหานั้นขอให้ฝ่ายค้านมาจับมือรัฐบาลในการแก้กกฎหมายและแก้ปัญหา ผ่านกระบวนการเสวนาโดยสันติ หาทางออกร่วมกัน ลดขัดแย้งและปัญหาของสังคม

  • ซัดจงใจใช้ ชั้น14 โยนบาปให้รัฐบาล 

“เรื่องชั้น14 ผมขอให้ทำความเข้าใจในกฎหมายให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางความเข้าใจ ทั้งนี้อย่าโยนเรื่องให้รัฐบาลและให้มองว่าเกิดความสองมาตรฐาน หากมองด้วยเรื่องจุกจิก แก้ปัญหาเพื่อคนๆ เดียวไม่มีใครทำ การออกกฎหมายเป็นไปเพื่อคนส่วนใหญ่ ตามหลักสากล ขณะนี้อยู่ในกระบวนการ ผู้ป่วย ก็ป่วยตามที่หมอบันทึก กระบวนการที่อภิปรายนี้ไม่ถูกเพราะไม่ได้ทำเพื่อคนๆ เดียว ขอให้เปิดให้กว้าง ไปให้ไกล ไปให้ถึงประชาชนเป็นหลัก อย่าวนเฉพาะชั้น14”นายภูมิธรรม ชี้แจง

  • เด็ก พท.-กก. ประท้วงวุ่น ปมชั้น14

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการตั้งกระทู้ถามดังกล่าว นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้ลุกประท้วงนายชัยธวัชเป็นระยะ เพราะมองว่าการตั้งกระทู้ถามสดดังกล่าวมีลักษณะไม่เป็นกระทู้ถามสดและใช้เวลาเกิน ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ฐานะประธานในที่ประชุม ได้วินิจฉัยว่าให้อนุโลมให้ดำเนินการแม้จะเกินเวลา 1 นาที  อีกทั้งการอภิปรายอยู่ในประเด็น และขอให้เกียรติซึ่งกันและกัน

\'ภูมิธรรม\' ขอ \'ชัยธวัช\' ตั้งสติ สงวนจุดต่าง หนุนแก้รธน. ไม่แตะหมวด1หมวด2

อย่างไรก็ดีนายไชยวัฒนา ยังไม่หยุดประท้วงเพราะเวลาหมดแล้ว และการตั้งคำถามดังกล่าวนั้นถือว่าเลอะเทอะเมื่อนายชัยธวัช ยังพูดพาดพิงถึงนักโทษชายชั้น 14 ทำไให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกประท้วงด้วยว่า “ทำไมแตะคนชั้น 14 ไม่ได้ จะเอาโอเลี้ยง และข้าวผัดไปเยี่ยมที่ชั้น14” ทำให้นายไชยวัฒนา ประท้วงตอบโต้ไปมา จนนายวันมูหะมัดนอร์ ต้องเบรกการประท้วงและวินิจฉัยให้ฝ่ายรัฐบาลตอบกระทู้ถามสด ทำให้ถูกสส.ก้าวไกลประท้วงเนื่องจากนายชัยธวัชยังไม่ได้ตั้งคำถามถึงกระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน.