ครม.สัญจรนัดแรก จ่อไฟเขียวงบฯตัดอ้อยสด 8,000 ล้าน เคาะแผนพัฒนาอีสานตอนบน1
![ครม.สัญจรนัดแรก จ่อไฟเขียวงบฯตัดอ้อยสด 8,000 ล้าน เคาะแผนพัฒนาอีสานตอนบน1](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2023/12/ZkhZIruWufLvlmAJ1ZK8.webp?x-image-process=style/LG)
"เศรษฐา" นั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.สัญจรครั้งแรกในจ.หนองบัวลำภู จ่อเคาะงบฯ8พันล้าน หนุนตัดอ้อยสดต้นละ 120 บาท เตรียมรับฟังโครงการพ้ฒนาจังหวัดภาคเหนือตอนบน1 หนองบัวลำภู อุดรธานี เลย หนองคาย และบึงกาฬ เชื่อมโยงคมนาคมเพื่อนบ้าน พม.ชงเว้นค่าดอกเบี้ยโรงรับจำนำ 5,000 บาทแรก
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่าวันนี้ (4 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี่ และรมว.คลัง เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) จังหวัดหนองบัวลำภู ณ ห้องประชุมโรงแรมณัฐพงษ์ แกรนด์ หนองบัวลำภู ซึ่งถือว่าเป็นการประชุม ครม.สัญจรครั้งแรกของรัฐบาลชุดปัจจุบัน
โดยก่อนการประชุมนายกรัฐมนตรีจะได้เยี่ยมชมนิทรรศการของพื้นที่จ.หนองบัวลำภู ในหัวข้อต่างๆได้แก่ ภาพรวมการดำเนินงานของจังหวัดหนองบัวลำภู เกษตรเพิ่มมูลค่า จังหวัดสีขาว เมืองผ้า น่าอยู่ น่าเที่ยว เทคโนโลยีระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการความร่วมมือพัฒนาระบบการให้ความรู้ทางการเงินและมาตรการแก้ปัญหาหนี้รายย่อย
ทั้งนี้ช่วงหนึ่งของการลงพื้นที่ตรวจราชการของนายกรัฐมนตรีวานนี้ (3ธ.ค.) นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ได้นำคณะรัฐมนตรีมาประชุม ครม.สัญจรซึ่งเป็นครั้งแรกตั้งแต่เป็นรัฐบาล และเป็นความตั้งใจของตนเอง ว่าจะต้องมาจังหวัดหนองบัวลำภูเป็นจังหวัดแรก เพราะเป็นจังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวต่ำที่สุด
“ยืนยันไม่ได้มาเพื่อเป็นการสร้างภาพ แต่ต้องการมาดูชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่มีความลำบาก ซึ่งมีสาเหตุมาจากปัญหาเศรษฐกิจ และยาเสพติด จากที่ได้ไปดูมาหลาย ๆ ที่ เข้าใจและชื่นชมการทำงานอย่างเข้มแข็งของชุมชนบำบัด และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ได้ทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี สามารถใช้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมดูแลผู้ป่วยที่ติดยาเสพติดให้หายกลับเข้าสู่สังคม ใช้ชีวิตอย่างปกติได้มีชีวิตอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เป็นบุคคลที่มีคุณค่าต่อสังคมต่อไป” นายกรัฐมนตรีย้ำ
สำหรับวาระการประชุม ครม.ที่สำคัญ ต้องจับตา ได้แก่
- กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอโครงการสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ที่อัตรา 120 บาทต่อตัน วงเงิน 8,000 ล้านบาท โดยจะเสนอของบกลางฯรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ.2566 พลางไปก่อนมาใช้จ่ายในส่วนนี้ให้กับเกษตรกร
- สำนักงบประมาณเสนอ ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 เพื่อเป็นกรอบการจัดทำงบประมาณปี 2568 ให้กับหน่วยงานราชการที่จะเสนอของบประมาณ
- กระทรวงพลังงานเสนอร่างกฎกระทรวงสถานที่เก็บรักษาน้ำมัน พ.ศ. ..
- กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ร่างคำมั่นของประเทศไทยเนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปี ของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
- กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอมาตรการงดดอกเบี้ยโรงรับจำนำในส่วน 5,000 บาทแรก รวมทั้งเสนอสนับสนุนสวัสดิการศูนย์บริบาลผู้สูงอายุ ใน 20 จังหวัดภาคอีสาน และนโยบายของขวัญปีใหม่จากกระทรวง ทั้งหมด 8 ด้าน
กลุ่มจังหวัดอีสานตอนบน1ขนโครงการขอครม.
นอกจากนั้นยังมีเรื่องที่จะเสนอโดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) จังหวัดที่จะเสนอแผนการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1(บึงกาฬ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี ) และข้อเสนอการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นภูกระดึง จ.เลย
ซึ่งก่อนหน้านี้ซึ่งเมื่อวานนี้ได้มีการเสนอให้กับรัฐบาลโดยต้องการผลักดันเป็น “ศูนย์การท่องเที่ยวของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ศูนย์กลางการค้าและโลจิสติกส์ เกษตรอุตสาหกรรมมูลค่าสูง เมืองน่าอยู่” เพราะในกลุ่มจังหวัดนี้ มีศักยภาพแหล่งท่องเที่ยงจำนวนมาก รวมถึงมีเขตจังหวัดติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งยังสามารถพัฒนาได้อีกจำนวนมาก
สำหรับข้อเสนอจากภาคเอกชน กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ที่จะนำเสนอต่อครม.ในครั้งนี้คือ
- ยกระดับการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ให้ไปสู่การท่องเที่ยวระดับนานาชาติ โดยใช้ Soft Power อัตลักษณ์ท้องถิ่น อาทิ ประเพณี วัฒนธรรม ภาษา อาหาร เส้นทางโรแมนติกรูท นาดีรูท และสี่เหลี่ยมวัฒนธรรมล้านช้าง
- เร่งรัดการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบของลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อรองรับภาคการเกษตร การบริโภค และการลงทุน
- ยกระดับโรงพยาบาลภาครัฐของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 เพื่อเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน
- ศึกษาและวางแผนโลจิสติกส์กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 สู่ NeEC และเชื่อมโยงภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
- จัดทำระบบขนส่งมวลชน เพื่อเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 เพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดอุดรธานี ปี 2569
- ส่งเสริมการจัดงานมหกรรมผ้าทอมือภูมิภาคลุ่มน้ำโขง GMS Fabric Expo
- ยกระดับรายได้เกษตรกรภายใต้การจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น
- เร่งรัดปรับปรุงผังเมืองรวมและผังเมืองรวมจังหวัด เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและการลงทุน ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
- แก้ไขปัญหาและยกระดับมูลค่าเพิ่มเกษตรอุตสาหกรรมพืชเศรษฐกิจ เช่น มันสำปะหลัง ไผ่ ยางพารา
- 10.เร่งรัดและผลักดันการจัดประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-ลาว ตามแม่น้ำโขงและแม่น้ำเหือง (JTMH)
โดยเมื่อแยกเป็นรายจังหวัด มีข้อเสนอของแต่ละจังหวัดดังนี้
จังหวัดบึงกาฬ เสนอ
- โครงการพัฒนาการค้าชายแดน และการท่องเที่ยว เพื่อรองรับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ)
- เร่งรัดโครงการบริหารจัดการแม่น้ำโขง-แม่น้ำสงคราม เพื่อการเกษตร ส่วนจังหวัดเลย ขอเร่งรัดการก่อสร้างรันเวย์ท่าอากาศยานเลย เพื่อรองรับการลงทุนในอนาคต
จังหวัดหนองคาย เสนอ
- เร่งรัดลงทุนการสร้าง Container Yard ให้แล้วเสร็จ เพื่อการรองรับการขยายตัวการขนส่งสินค้าทางรางของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 และ EEC
- ขอจัดตั้งเขตเพื่อคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ จุดขาย (Tax Refund) ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน1(นำร่องในเขตท้องที่เทศบาลเมืองหนองคาย)
- ยกระดับมหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย เป็นมหาวิทยาลัยหนองคาย หรือพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดให้มีความก้าวหน้าในระดับนานาชาติให้การยอมรับ
- จัดสร้างและพัฒนาศูนย์ Business Center เพื่อรองรับการเข้ามาลงทุน
- โครงการพัฒนายกระดับระบบการนำเข้า-ส่งออก ไทย-ลาว-จีน ในรูปแบบ Single Windows
จังหวัดหนองบัวลำภู
- ขอรับการสนับสนุนขนส่งระบบราง เชื่อมโยงอุดรธานี-หนองบัวลำภู-เลย และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
- ผลักดันสะพานเฉลิมพระเกียรติ ระหว่างอำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู กับอำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น
- ยกระดับวิทยาลัยชุมชน เพื่อเป็นสถาบันพัฒนาวิชาชีพเฉพาะทางในระดับปริญญาตรี
- พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวน้ำตกเฒ่าโต้ จังหวัดหนองบัวลำภู
- พัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผ้าทอธรรมชาติ จังหวัดหนองบัวลำภู
- โครงการหนองบัวลำภูเจ้าบ้านที่ดี เพื่อยกระดับการพัฒนาบุคลากรและแหล่งท่องเที่ยว
- โครงการศึกษาออกแบบทางเลี่ยงเมือง อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู
และ จังหวัดอุดรธานี เสนอ
- เร่งรัดการจัดตั้งศูนย์ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service : OSS) ให้แล้วเสร็จ ภายในปี 2567 เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าชายแดน/ผ่านแดน แบบครบวงจร ณ จังหวัดอุดรธานี
- ยกระดับการให้บริการด้านสุขภาพในจังหวัดอุดรธานี ให้เป็นศูนย์กลางการแพทย์ระดับนานาชาติ