'พิมพ์ภัทรา' ชง ครม.สัญจร เคาะงบตัดอ้อยสด 8,000 ล้าน

'พิมพ์ภัทรา' ชง ครม.สัญจร เคาะงบตัดอ้อยสด 8,000 ล้าน

รมว.อุตสาหกรรมชงครม.สัญจร หนองบัวลำภู อนุมัติเงินสนับสนุนตัดอ้อยสด ลดฝุ่น PM 2.5 วงเงิน 8,000 ล้านบาท ช่วยชาวไร่อ้อยพยุงต้นทุนผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น ดันราคาอ้อยขั้นต้น ฤดูการผลิต 66/67 ที่ 1,400 บาทต่อตัน

นางสาวพิมพ์ภัทรา วิขัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยระหว่างการลงพื้นที่พบปะเกษตรกรชาวไร่อ้อย ณ สมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี วันนี้ (3 ธ.ค.) ในการลงพื้นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ราคาอ้อยและน้ำตาลทราย ล่าสุดราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานกิโลกรัมละ 21-22 บาท จากเดิมที่กิโลกรัมละ 19-20 บาท โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ จะใช้เป็นองค์ประกอบในการคำนวณราคาอ้อยขั้นต้น จะทำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยและโรงงานมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น 

โดยในการประชุมครม. วันพรุ่งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้นำเสนอโครงการสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อย ตัดอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 งบประมาณ 8,000 ล้านบาท เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อย ในขณะที่ต้นทุนการผลิตอ้อยปรับตัวสูงขึ้น 

ทั้งนี้ หาก ครม.พิจารณาอนุมัติโครงการดังกล่าว ชาวไร่อ้อยจะได้รับเงินสนับสนุนตัดอ้อยสดตันละ 120 บาท โดยที่คาดว่าจะมีชาวไร่อ้อยเข้าร่วมโครงการประมาณ 140,000 ราย

นอกจากนี้ ยังได้มีการผลักดันให้มีการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2566/67 ที่ 1,400 บาท/ตันอ้อย เพิ่มขึ้นจากฤดูการผลิตปี 2565/66 ซึ่งอยู่ที่ 1,080 บาท/ตันอ้อย เนื่องจากต้นทุนการผลิตอ้อยของชาวไร่สูงขึ้นและความต้องการน้ำตาลทรายในตลาดโลกเพิ่มขึ้น 

ทั้งนี้ การขึ้นราคาน้ำตาลทรายในครั้งนี้ ส่งผลดีต่อชาวไร่อ้อย โดยช่วยให้ชาวไร่อ้อยมีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันอาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคบ้าง แต่จะทำให้น้ำตาลในประเทศมีปริมาณที่เพียงพอ และมีเสถียรภาพมากขึ้นตามไปด้วย 

อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลก ว่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมน้ำตาลในประเทศอย่างไร พร้อมหาแนวทางช่วยเหลือดูแลปัญหาอย่างใกล้ชิด

“โดยกระทรวงฯ จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนแนวโน้มราคาน้ำตาลทรายในอนาคตที่คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการน้ำตาลทรายในตลาดโลกยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้น รวมทั้งปัจจัยอื่นๆ เช่น สภาพอากาศและภาวะเศรษฐกิจโลก ก็อาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำตาลทรายได้ เรื่องนี้เราก็จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเช่นกัน” นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าว