'เศรษฐา' เชื่อหลัง Kick Off แก้หนี้นอกระบบ 8 ธ.ค.นี้ยอดลงทะเบียนพุ่ง!

'เศรษฐา' เชื่อหลัง Kick Off แก้หนี้นอกระบบ 8 ธ.ค.นี้ยอดลงทะเบียนพุ่ง!

"เศรษฐา" ตกใจหลังผลตรวจร่างกายมีความเครียด ชี้เป็นเรื่องปกติหลังนั่งนายกฯ - เชื่อหลัง Kick Off แก้หนี้นอกระบบ 8 ธ.ค.นี้ยอดลงทะเบียนพุ่ง! หวังปัญหาหนี้คนไทยหมด ย้ำไม่สร้างภาพ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์โดยได้กล่าวถึงการทดลองวัดเครื่องคลายเครียด และผลพบมีคลื่นความเครียด โดยยอมรับว่า รู้สึกตกใจ แต่เมื่อได้เล่นฟุตบอล ซึ่งเป็นกีฬาที่ชอบภายหลังตรวจราชการที่จังหวัดหนองบัวลำภูเสร็จ ก็รู้สึกสบายใจขึ้น 

ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรี ยอมรับผลการตรวจความเครียดมีแม่นแสดงว่ามีความเครียดใช่หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนเองดำรงตำแหน่งนี้ และแบกความหวังประชาชน 68 ล้านคนไว้ และมีปัญหาเต็มไปหมด จึงเป็นเรื่องธรรมดา เพราะหากไม่เครียด ก็คงไม่ใช่คนที่ไม่ใส่ใจใด ๆ

แต่ยืนยันว่า ไม่เป็นไร และตนเองสามารถแบกรับได้ พร้อมเปิดเผยว่า ที่ตนเองสุขภาพยังแข็งแรง เพราะออกกำลังกายอยู่เสมอ หากมีโอกาส ก็จะวิ่งเล่น หรือออกกำลังกายบ้าง แต่ก็น้อยลงหลังจากรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำถึงการลงพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู ในวันนี้ (3 ธ.ค.) ว่า รู้สึกดีใจถึง แม้จะเป็นวันอาทิตย์ ก็ต้องมา เพราะได้สัญญากับนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไว้แล้วว่า หนองบัวลำภู จะเป็นจังหวัดแรกที่จะจัดประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร เพราะจังหวัดที่มีรายได้ต่ำ ดังนั้น จึงอยากมาเห็นปัญหาด้วยตัวเอง ทั้งปัญหาเศราษฐกิจ สุขภาพ และยาเสพติด รวมถึงยังย้ำว่า การประชุม ครม.สัญจรครั้ง ต้องการกระตุ้นรายได้ เพราะเป็นเรื่องสิทธิ์ขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรจะได้รับ และการลงพื้นที่ครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการสร้างภาพ แต่อยากจะมาเห็นปัญหาในพื้นที่จริง ๆ เพื่อให้เป็นแรงบันดาลใจตนเอง ให้ทำงานหนักขึ้น พร้อมขอบคุณ สส.ในพื้นที่ทั้ง 3 คน ที่ดูแลประชาชนอย่างดี

ส่วนปัญหาที่หนักที่สุดของนายกรัฐมนตรีในขณะนี้ คือปัญหาอะไร หลังยอมรับกำลังแบกภาระหนักอยู่นั้น นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ไม่ได้มีปัญหาหนักที่สุด แต่ปัญหามีทุกเรื่อง ทั้งยาเสพติด รายได้ต่อหัวประชาชน หนี้ ฝุ่น PM 2.5 รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาพืชผลทางการเกษตร คนในพื้นที่เอง ยังมีปัญหาเรื่องพยาธิในถุงน้ำดี เนื่องจากการรับประทานอาหารสุกดิบซึ่งกระทรวงสาธารณสุข จะต้องติดตามดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด พร้อมยืนยันว่า นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคพลัส จะต้องทำให้ดีขึ้น

นายกรัฐมนตรี ยังยอมรับว่า บางเรื่องของปัญหา เป็นไปในทิศทางที่ทำให้ตนเองแปลกใจ และเศร้าใจ เช่น ปัญหายาเสพติด ที่ทราบดีอยู่แล้วว่า เป็นปัญหาหลัก รวมถึงหนี้นอกระบบ ที่มีมากเกินกว่าที่คาดไว้ และมั่นใจว่า หลังการ Kick off วันที่ 8 ธันวาคมนี้ จะมีประชาชนมาลงทะเบียนอีกมาก เพราะปัจจุบัน เชื่อว่า ประชาชนอีกมาก ไม่ทราบการลงทะเบียน

ส่วนกรณีที่เจ้าหนี้เรียกร้องให้รัฐบาล ช่วยเหลือไกล่เกลี่ย เพราะถูกลูกหนี้หนีหนี้ด้วยนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก็ต้องนำตัวเลขมาดูพิจารณา เพราะมีหลักฐานอยู่แล้ว และสิ่งสำคัญที่สุด คือ การคิดอัตราดอกเบี้ย ที่จะต้องอยู่ในอัตราที่กฎหมายกำหนด พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลต้องการให้ปัญหาดังกล่าว หมดไปจริง ๆ ไม่ใช่ดำเนินการเพื่อสร้างภาพ