ทลายอาณาจักร ‘หมูเถื่อน’ สะเทือนบ้านใหญ่ ภาคกลาง

ปฏิบัติการเด็ดปีกหัวหน้าแก็งค้าหมูเถื่อน ที่ลักลอบนำเข้าซากสุกรแช่แข็งโดยผิดกฎหมาย ตามบัญชาเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ที่ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับตัวการใหญ่ให้ได้  

สำนวนการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน 161 ตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักว่า 4 พันตัน ส่งถึงมือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรียบร้อยแล้ว 

ตัวละครที่อยู่ในข่ายถูกตรวจสอบว่าอาจมีส่วนกระทำผิด ประกอบด้วยบุคคลหลายระดับ ทั้งนายทุน ข้าราชการเมือง อดีตข้าราชการ เรียกว่าครบองค์ประกอบของการสมรู้ร่วมคิดในการหาประโยชน์จากธุรกิจหมูเถื่อน

คนในแวดวงการเมืองและแวดวงที่เกี่ยวข้องต่างรู้ดีว่า ตัวการใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญในขบวนการค้าหมูเถื่อน เป็นนักการเมืองตัวย่อ ป. บ้านใหญ่จังหวัดหนึ่งในภาคกลาง เพิ่งผ่านเก้าอี้รัฐมนตรีมาไม่ช้าไม่นาน ในกระทรวงเกรดเอ ถือเป็นผู้มากอาวุโสในทางการเมือง คอนเน็กชั่นกว้างขวาง ต่อถึงผู้มีอำนาจทุกขั้ว ก็มีชื่ออยู่ในสำนวนด้วยเช่นเดียวกัน 

ว่ากันว่าเส้นทางการเงินที่ผ่านมาทางคนใกล้ชิดค่อนข้างชัดเจน ถือเป็นหลักฐานสำคัญในทางคดี และอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้าโคมีชีวิตอีกด้วย จริงเท็จอย่างไรก็ต้องพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรมต่อไป 

งานนี้ดูจะสมความตั้งใจของเศรษฐา ที่ก่อนหน้านี้จัดการแยกเขี้ยวใส่ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ ต่อหน้าสื่อมวลชนและผู้เกี่ยวข้องที่ร่วมสังเกตการที่สนามบินสุวรรณภูมิ ถึงมาตรการปราบหมูเถื่อน ก่อนนายกฯ จะบินไปร่วมประชุมเอเปค เมื่อช่วงกลางเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา 

ในวันนั้น เศรษฐาใส่อารมณ์ แสดงออกด้วยน้ำเสียงและสีหน้าไม่พอใจการทำงานของดีเอสไอที่ล่าช้า สั่งการแล้วไม่ทำตาม สาวไม่ถึงตัวการใหญ่เสียที แอ็คชั่นนั้นเหมือนต้องการส่งสารไปถึงกลุ่มทุนใหญ่ที่กดดันให้จัดการเรื่องนี้ให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดหรือไม่ ว่าตัวเองไม่ได้เกียร์ว่าง 

มาวันนี้ เศรษฐา ดูจะพอใจการทำงานของดีเอสไอมากขึ้น เพราะรายชื่อของตัวการใหญ่ที่ว่ากันว่าเป็นนักการเมือง ป. อยู่ในสำนวนการตรวจสอบแล้ว และจากการที่นายกฯ ไล่เช็กรายชื่อก็ไม่ปรากฎว่ามีรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้เกี่ยวข้อง

โดยแหล่งข่าวระดับสูงเปิดเผยว่า นักการเมือง ป. คนดังกล่าว มีเครือข่ายกว้างขวาง มีเส้นสายในหลายกระทรวง คอยจัดการดีลมือทำงานในแต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้องมาช่วยในเรื่องที่กำลังเป็นปัญหา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนของนักการเมืองบ้านใหญ่ อย่างน้อย 2 คน จากต่างพรรค ที่เคยเป็นรัฐมนตรีด้วยกันคู่ บิ๊กคนแรกมีฐานที่มั่นในพื้นที่ทะเลสวย ไม่ใกล้ไม่ไกลกรุงเทพฯ อีกคนมีฐานที่มั่นในภาคเหนือจังหวัดหนึ่ง 

ข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูง ระบุว่า นักการเมืองใหญ่ 2 รายหลัง อาจซวยติดร่างแหไปด้วยหรือไม่ก็ไม่แน่ แม้ตัวเองจะไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรโดยตรงกับหมูเถื่อน แต่ลูกน้องที่เป็นมือทำงานถูกตัวการใหญ่ต้อนไปช่วยงานนั่นเอง จึงต้องลุ้นต่อว่ามีความเชื่อมโยงมากน้อยแค่ไหนอย่างไร

หลังจากนี้ สำนวนการตรวจสอบที่เหลือ อาจเริ่มทยอยส่งให้ป.ป.ช. เช็กบิลผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม จะมีนักการเมืองคนอื่นพัวพันเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ไม่นานคงได้คำตอบ 

น่าจนใจว่าปฏิบัติการจับปลาใหญ่ครั้งนี้ จะสะเทือนถึงเศรษฐา และรัฐบาลเพียงใด เพราะคนชื่อ ป. ที่ถูกโฟกัสว่าเป็นตัวการใหญ่ เส้นสายก็ไม่ธรรมดา