ครม.อุ้มข้าวเปลือกหอมมะลิ เคาะมาตรการระยะสั้น รับซื้อ 12,200 บาทต่อตัน

ครม.อุ้มข้าวเปลือกหอมมะลิ เคาะมาตรการระยะสั้น รับซื้อ 12,200 บาทต่อตัน

ครม.เคาะแล้วมาตรการระยะสั้น 5 เดือน ช่วยชาวนานำร่องรับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิ ที่จะออกในเดือนพ.ย. 12,200 บาทต่อตัน

7 ต.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ แถลงมติคณะรัฐมนตรี มีการผลิต ปี66/67 มีมติเห็นชอบ ตามที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หารือกับนายภูมิธรรม เวชยชัยรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้ง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าช่วยว่าการคลัง ถึง มาตรการช่วยเหลือชาวนา เพราะช่วงนี้ราคาข้าวเปลือกยังดีอยู่ ยกเว้นข้าวเปลือกหอมมะลิ ช่วงนี้ที่มีปัญหา ที่จะออกจากภาคอีสานและภาคเหนือในเดือนพฤศจิกายน ในเขตและนอกเขต 95,000 ไร่ เวลานี้ราคาตลาด 14,800 บาทถึง 15,000 บาทซึ่งเป็นข้าวเปลือกแห้ง แต่ตามความเป็นจริง เก็บเกี่ยวมาขายความชื้น 25% ราคาซื้อต่ำกว่าราคาที่ควรจะขายได้ในราคา 11,000 บาท ต่อตัน

โดยจะแทรกแซง คือ โดยชะลอไว้ก่อนโดยให้เกษตรกรที่มียุ้งฉางให้เก็บข้าวเปลือกไว้ก่อน หากราคายังถูก ซึ่งเป็นข้าวเปลือกหอมมะลิ ความชื้น 25% โดยรัฐบาลจะให้สินเชื่อ คือราคาขายตันละ 12,000 บาท รวมทั้งให้ค่าเก็บรักษา คุณภาพในช่วง 5 เดือนให้ตันละ 1,500 บาท แต่หากเกษตรกรเก็บเองก็จะให้เป็น 13,500 บาท แต่หากต้องไปฝากให้กับสถาบันเกษตรต่างๆ รัฐบาลจะให้ชาวนา 500 บาทและให้สถานที่เก็บ 1,000 บาท ดังนั้นหากชาวนาที่มียุ้งฉางเก็บเองจะได้ราคาข้าวเปลือก 12,000 บาทต่อตันและค่าเก็บ1,500บาท มีเป้าหมาย 3 ล้านตัน

นอกจากนี้โครงการที่ 2 จะให้สินเชื่อโดยให้สถาบันทางการเกษตร ซื้อราคานำร่องข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 12,200 บาทโดยเวลาขายได้แล้ว หากได้กำไรจะแบ่งกำไรให้ชาวนาอีกตันละ 300 บาทจำนวน 1 ล้านตัน ทำให้ชาวนาได้ 12,000บาท และได้อีก 300 บาท รวมแล้วประมาณ 10,600 ล้านบาท โดยเป็นสินเชื่อ 44,437 ล้านบาท โดย กระจายอยู่ 2 โครงการ ส่วนมีอีกหนึ่งโครงการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้ง กระทรวงพาณิชย์ หารือกันแล้วแต่ติดขัดเรื่องเงิน เนื่องจากชาวนาที่ได้รับค่าชดเชยจากน้ำท่วมไปแล้ว โดย
จะมีการสนับสนุนจัดการพัฒนาคุณภาพข้าวไร่ละ 1,000 บาทไม่เกิน 20 ไร่ /รายละไม่เกิน 20,000 บาท โดยให้กับชาวนาทุกประเภท แต่เรื่องดังกล่าวยังไม่มีการเคาะจาก คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ นบข.