ทบ.แถลงการณ์ ร้องประชาคมโลก กัมพูชา ละเมิดกฎกติการ้ายแรง 5 ประการ

ทบ.แถลงการณ์ ร้องประชาคมโลก กัมพูชา ละเมิดกติการ้ายแรง 5 ประการ ใช้โบราณสถานเป็นฐานทหาร ใช้พื้นที่ชุมชนยิงสนับสนุน ลอบวางทุ่นระเบิด โจมตีพลเรือนไทย ปล่อยเฟกนิวส์
วันที่ 12 ธ.ค.68 จากสถานการณ์การปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย อันเนื่องมาจากการโจมตี และการกระทำที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติจากฝ่ายกัมพูชาในปัจจุบัน
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้กล่าวถ้อยแถลงว่า กองทัพบก ขอแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อพฤติกรรมของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งปรากฏชัดว่ามีการกระทำอันเป็นการละเมิดกฎกติการะหว่างประเทศในหลายประเด็นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในมิติทางทหาร มิติด้านมนุษยธรรม และมิติด้านข้อมูลข่าวสาร อันส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคง ความปลอดภัยของประชาชนผู้บริสุทธิ์ และเสถียรภาพของภูมิภาคโดยรวม
กองทัพบก ขอเรียกร้องให้สังคมโลก รวมถึงองค์การ และกลไกระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันพิจารณา ตรวจสอบ และประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเข้าข่ายละเมิดกฎหมาย และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดเจน ในหลายประเด็นสำคัญ ดังนี้
1.) ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้โบราณสถานเป็นที่ตั้ง และพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการคุ้มครองทรัพย์สินทางวัฒนธรรมในยามความขัดแย้ง ทำให้โบราณสถานดังกล่าวสูญเสียสถานะการคุ้มครองตามกฎหมายระหว่างประเทศ และเสี่ยงต่อความเสียหายต่อมรดกทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ
2.) มีการใช้พื้นที่ชุมชนของพลเรือนเป็นฐานยิงอาวุธสนับสนุนเพื่อโจมตีฝ่ายไทย ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจนำประชาชนมาอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตราย อันเป็นการละเมิดหลักการคุ้มครองพลเรือนตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และอาจมีเจตนานำภาพเหตุการณ์ไปบิดเบือนเพื่อกล่าวอ้างต่อประชาคมระหว่างประเทศ
3.) ฝ่ายกัมพูชายังคงมีพฤติกรรมลักลอบใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทั้งที่เป็นภาคีสมาชิกของอนุสัญญาออตตาวา อันเป็นการละเมิดพันธกรณีระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง อีกทั้งยังปรากฏความพยายามสร้างภาพลักษณ์ที่บิดเบือนต่อองค์กรผู้สนับสนุนระหว่างประเทศ เพื่อมุ่งหวังให้ได้รับเงินทุนสนับสนุน ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของอนุสัญญา และบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของประชาคมโลก
4.) ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนของไทยในพื้นที่ตอนใน ส่งผลให้เกิดความสับสนอลหม่าน และความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างร้ายแรง จนจำเป็นต้องมีการอพยพประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสู้รบเป็นจำนวนมากกว่า 200,000 คน ซึ่งถือเป็นผลกระทบด้านมนุษยธรรมที่ไม่อาจยอมรับได้
5.) ฝ่ายกัมพูชาได้เผยแพร่ข้อมูลเท็จ กล่าวหาประเทศไทยว่าเป็นผู้รุกราน เป็นฝ่ายเริ่มใช้กำลังก่อน รวมถึงการกล่าวหาว่าใช้อาวุธเคมี ซึ่งล้วนเป็นข้อกล่าวหาที่ปราศจากหลักฐาน และข้อเท็จจริง มีเป้าหมายเพื่อบิดเบือนสถานการณ์ และมุ่งทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ
ทบ. ขอย้ำอย่างชัดเจนว่า ประเทศไทยเป็นประเทศรักสงบ ไม่เคยมีเจตนารุกรานประเทศใด และมิได้เป็นฝ่ายเริ่มต้นความรุนแรง การปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายไทยดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ หลักมนุษยธรรม และกฎการใช้กำลังอย่างเคร่งครัด โดยอาศัยสิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเองจากการกระทำที่เป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตย ความปลอดภัยของประชาชน และบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศไทย
กองทัพบก ขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ใช้ดุลยพินิจบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง และร่วมกันยืนหยัดบนหลักนิติธรรม ความจริง และความรับผิดชอบ เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพของภูมิภาคอย่างยั่งยืน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







