'อนุทิน' ติดตามใกล้ชิด! สั่ง มท.ปราบผู้มีอิทธิพลต่อเนื่อง ไม่สุกเอาเผากิน

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2566 ที่กรมการปกครอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่กรมการปกครอง โดยมีกองอาสารักษาดินแดน ภาษาดินแดงตั้งแถวรอต้อนรับ

โดยนายอนุทินได้สักการะศาลกรมหมื่นไชยาศรีสุริโยภาสและพระอาจารย์ เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนจะเยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการจัดเก็บข้อมูลและตรวจสอบข้อมูลหัวกระสุนปืนและปลอกกระสุนปืน พร้อมชมการสาธิตวิถีกระสุนปืน ซึ่งมีจังหวะหนึ่งที่นายอนุทินได้ทดลองจับปืนกลยี่ห้อสมิธ แอนด์ เวสสัน รุ่นเอ็ม แอนด์ พี 15-22 ด้วย

หลังจากนั้น นายอนุทินได้เยี่ยมชมและให้กําลังใจชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการ (DOPA S.W.A.T) รวมถึงเยี่ยมชมการจัดทำบัตรประชาชนและนิทรรศการไทยไอดี ก่อนจะเยี่ยมชมกระบวนการอนุมัติ อนุญาต ในความรับผิดชอบของกรมการปกครอง ที่อาคารสำนักการสอบสวนและนิติการ ก่อนจะเข้าร่วมประชุมและมอบนโยบายกับกรมการปกครอง

ต่อมานายอนุทินเปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้มามอบนโยบายให้กับกรมการปกครองและรับฟังการบรรยายสรุปผลงาน และการตอบสนองนโยบายตั้งแต่ตนรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยเน้นเรื่องการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข และการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน และการพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมถึงการจัดระเบียบสังคม การปราบปรามผู้มีอิทธิพล ซึ่งเป็นเรื่องที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ให้เห็นว่าเราไม่ได้ทําแบบสุกเอาเผากิน หรือตอบสนองกระแสในแต่ละช่วงเวลา ทั้งนี้ ระหว่างการตรวจเยี่ยม ตนได้ชื่นชมหน่วยงานสังกัดกรมการปกครอง

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า กรมการปกครองได้ตอบสนองนโยบายสิบข้อหลัก ซึ่งเป็นข้อสั่งการจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยเน้นการจัดระเบียบสังคม การปราบผู้มีอิทธิพล การควบคุมอาวุธปืน การช่วยเหลือประชาชนในภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะการสำรวจความต้องการของครอบครัวแรงงานไทยในอิสราเอล ว่าต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมอะไรหรือไม่ พร้อมสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไปลงพื้นที่เพื่อโน้มน้าวให้ครอบครัวแรงงานไทยเกลี้ยกล่อมแรงงานให้เดินทางกลับ โดยรัฐบาลจะอำนวยความสะดวกเต็มที่ หาวิธีการเยียวยาช่วยเหลือและโอกาสการสร้างรายได้

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพล นายอนุทิน กล่าวว่า กรมการปกครองได้ติดตามอย่างใกล้ชิดว่ากลุ่มผู้มีอิทธิพลมีความเคลื่อนไหวที่เป็นภัยต่อสังคมหรือไม่ ซึ่งเราทำมาตลอด แต่ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ โดยการขึ้นบัญชีรายชื่อรายงานพฤติการณ์ผู้มีอิทธิพลก็จะใช้กฎหมายเข้าไปดำเนินคดี เพราะเรามีทั้งหน่วยติดตาม ตรวจสอบ และเฝ้าระวัง พร้อมกับประสานภาคส่วนอื่นๆ เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ช่วยกันปราบปรามยาเสพติด การฟอกเงิน เพื่อให้เกิดความสงบสุขในสังคม

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการควบคุมอาวุธปืน นายอนุทิน กล่าวว่า ในที่ประชุมวันนี้มีผู้นำแบลงก์กันและบีบีกันมาขึ้นทะเบียนด้วย โดยแจ้งว่าไม่มีวัตถุประสงค์นำมาดัดแปลงเพื่อให้มีอานุภาพแรงขึ้น แต่ใช้ในรูปแบบการกีฬา และขอให้มีการออกระเบียบการเก็บอาวุธปืนในสนามยิงปืนเพื่อให้เกิดความปลอดภัยอีกระดับ ส่วนการระบุเจ้าของอาวุธปืน เจ้าหน้ารัฐจะบันทึกตำหนิหัวกระสุน โดยกรมการปกครองอยู่ระหว่างการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ก่อนจะเสนอมาที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ชงเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อบรรจุเป็นวาระเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ในส่วนรายละเอียด จะให้อธิบดีกรมการปกครองเป็นผู้ชี้แจง