'ศิริกัญญา' ขออภัย ปัดด้อยค่าแจกเงินดิจิทัล แค่เรียกร้องรัฐบาลพูดความจริง

'ศิริกัญญา' ขออภัย ปัดด้อยค่าแจกเงินดิจิทัล แค่เรียกร้องรัฐบาลพูดความจริง

‘ศิริกัญญา’ ขออภัย! เปล่าด้อยค่านโยบายแจก 'เงินดิจิทัลวอลเล็ต' แค่เรียกร้องให้รัฐบาลพูดความจริงกับประชาชน เชื่อบอร์ดเงินดิจิทัลชุดใหญ่ ซุ่มคิดกระบวนท่าใหม่ ชี้มีหลายแนวทางยกระดับคุณภาพชีวิต แนะเปลี่ยนวิธีการใหม่แต่ผลลัพธ์เดิม อย่าคิดแค่แจกเงินอย่างเดียว 

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2566 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ระบุว่า ไม่อยากดิสเครดิตเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทในสภา ว่า ตนคิดว่ายังไม่มีถ้อยคำไหนที่จะเป็นการดิสเครดิตในสภาเลย เรายังไม่ได้มีการพูดเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตในสภาด้วยซ้ำ แต่ตนแค่เรียกร้องให้ทางรัฐบาลได้มีข้อมูลข้อเท็จจริงมาพูดกับประชาชนมากกว่า ถ้าจะถือว่าเป็นการด้อยค่าดิสเครดิตอะไรก็ต้องขออภัย แต่ว่าไม่ได้มีเจตนา อยากให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ชัดเจนมากกว่า

เมื่อถามว่าถ้าทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จจะขัดต่อพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองหรือขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่ถึงขั้นนั้น กกต.ก็น่าจะออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปแล้วว่าถึงจะไม่ได้ทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ แต่ว่ามันก็ไม่ได้ถึงขั้น มีความผิดอะไรเลยด้วยซ้ำไป ถึงแม้จะไม่ได้ทำตามที่ยื่นเรื่องเอกสารเรื่องแหล่งที่มาของเงินกับ กกต.ก็ไม่ได้มีบทกำหนดโทษอะไร ถ้าจะมีการผิดรัฐธรรมนูญก็น่าจะเป็นในเรื่องของการเดินหน้าต่อมากกว่า แต่อาจจะไม่ใช่ความผิดตามรัฐธรรมนูญเรื่องของการออก พ.ร.ก.เงินกู้ ที่จะเร่งด่วน หรือไม่เร่งด่วน ที่อาจแต่ขัดรัฐธรรมนูญซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ตลอดเวลา หรือถ้ายังจะเดินหน้าโดยใช้ธนาคารของรัฐก็อาจจะติดในเรื่องของตัวกฎหมายอื่นๆ หรือการที่จะแบ่งจ่ายหลายๆ งวด โดยที่จ่ายเงินไปแล้ว ๆ ค่อย ทยอยจ่ายงบประมาณเป็น 4 ปี อันนั้นก็อาจจะไปติด พ.ร.บ.เงินตรา ซึ่งอาจจะเป็นแค่ข้อจำกัดของข้อกฎหมายมากกว่า

เมื่อถามว่าแนวทาง 3 ข้อที่คณะอนุกรรมการเตรียมเสนอกับบอร์ดเงินดิจิทัลชุดใหญ่ ซึ่งเกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นในสังคม ประเมินว่าบอร์ดชุดใหญ่จะพิจารณาอย่างไร น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า คิดว่าถ้าทางบอร์ดชุดใหญ่ได้รับฟังข้อคิดเห็นข้อคัดค้านอะไรต่างๆ ก็อาจจะมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์อื่นๆ ที่อาจไม่ได้ดูในหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการชงแล้วด้วยซ้ำไป  เพราะอาจจะมีการปรับเปลี่ยนขึ้นมาอีก คิดว่าให้มันเกิดความชัดเจน และคิดว่าทางรัฐบาลกำลังปวดหัวกับการที่จะเสาะหาแหล่งเงินมาใช้กับโครงการนี้อยู่ เพราะว่าถ้าจะใช้เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามปกติมันไม่พอแน่ๆ อยู่แล้ว ตอนนี้ก็คงไปคิดกระบวนท่าใหม่ๆ คิดทริกใหม่ๆ ที่จะนำมาใช้กับโครงการนี้ 

เมื่อถามว่าการใช้งบ 5 แสนล้านมันเป็นไปได้ยาก หากปรับลงเหลือมา 1 แสนบาทที่พอจะทำได้แต่ปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบอื่นพอจะมีแนวทางหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า จริงๆ แล้วมันก็มีอีกหลายแนวทาง และหากดูตามงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด และไม่สามารถที่จะเพิ่มเติมงบประมาณได้ในระยะสั้นแล้ว มันก็คงต้องหาอะไรที่มันส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้ดีกว่า เช่น เป็นการลงทุน ไม่จำเป็นต้องเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ เป็นเมกะโปรเจ็กต์ อย่างที่รัฐบาลมีอยู่ แต่ว่าจะเป็นโครงการขนาดเล็ก ขนาดย่อยลงมา ที่ชุมชนหรือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถที่จะดำเนินการได้เลย เพียงแค่รัฐบาลอัดฉีดงบประมาณลงมา เพื่อที่จะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนได้ ปรับปรุงระบบสาธารณูปโภค ที่ประชาชนใช้อยู่แล้ว ในขณะเดียวกันก็เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนเกิดการจ้างงานได้เช่นกัน แต่ใช้งบประมาณน้อยกว่า  ถ้าเรามองในมุมของการช่วยกระจายรายได้ด้วย การที่เป็นโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่เน้นการเพิ่มจีดีพีอย่างเดียว มันจะไม่ได้ตอบโจทย์ในเรื่องของการกระจายรายได้หรือลดความเหลื่อมล้ำสักเท่าไร 

เมื่อถามว่าในอนาคตหากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในเรื่องนี้ จะขอเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลได้หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า คิดว่าสุดท้ายมันก็คงเป็นการลงมติโดยครม.อยู่แล้ว สำหรับโครงการนี้ เดี๋ยวเราก็คงจะเห็นท่าทีจากทางพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ แต่ตนก็ยังคิดว่าไหนๆ ก็ร่วมหอลงโรงกันแล้ว ก็น่าจะเห็นไปในแนวทางเดียวกัน ไม่ใช่จะเป็นปัญหาอุปสรรคจากทางพรรคร่วมรัฐบาลที่จะไม่ให้โครงการนี้เกิดขึ้น ส่วนในสมัยประชุมหน้าพรรคก้าวไกลจะมีการนำเรื่องนี้มาเปิดอภิปรายหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า โครงการยังไม่ได้เริ่มเลย โอกาสที่จะเอาไปใช้ในการอภิปรายทั่วไปหรืออภิปรายไม่ไว้วางใจ มันก็คงจะต้องดูในรายละเอียดเพิ่มเติมเมื่อโครงการมันได้เริ่มต้นแล้ว แล้วเราค่อยมาดูกันอีกทีว่ามันเกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือไม่ ตอนนี้โครงการยังไม่ได้เกิด เราก็แต่ติดตามรายละเอียดอย่างใกล้ชิดว่าจะออกมาในทิศทางไหน

“อยากฝากไปถึงรัฐบาลว่าควรจะยึดที่ตัวผลหรือว่าเป้าหมายเป็นสำคัญมากกว่าวิธีการ หรือว่าแนวทางการดำเนินการ ถ้าไปคิดว่าจะต้องแจกเงินๆ แต่อย่างเดียวนั้น บางทีมันอาจจะทำให้สูญเสียเป้าหมายใหญ่ที่ทางเพื่อไทยได้เคยสัญญากับประชาชนไว้ว่าจะทำให้เศรษฐกิจโตให้ได้ 5 เปอร์เซ็นต์ เฉลี่ยตลอด 4 ปี แต่ถ้าเราปรับเปลี่ยนวิธีการ แล้วเกิดผลลัพธ์แบบเดียวกัน คิดว่าประชาชนน่าจะรับฟังได้” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว