“สามารถ” หนุน“จัดโซนนิ่ง” ขยายเวลาเปิด-ปิดสถานบันเทิง สร้างเม็ดเงินประเทศ

นาย สามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  กล่าวถึง  สถานการณ์ค่าเงินบาทของไทยในขณะนี้ว่า  เริ่มอ่อนค่าลงเรื่อยๆกำลังไปแตะอยู่ที่ 38 บาท ต่อดอลลาร์แล้ว   แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต  หากไม่เร่งแก้ไขอาจจะนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งเหมือนในอดีตก็เป็นได้  

ดังนั้นโจทย์ที่รัฐบาลนายเศรษฐา  ทวีสิน  ต้องเร่งแก้ปัญหาเร่งด่วนเวลานี้  นั่นคือการสร้างรายได้ให้กับประเทศ โดยเฉพาะรายได้จากภาคการท่องเที่ยว  

ส่วนหนึ่งที่รัฐบาลสามารถดำเนินการได้ทันที นั่นคือ การส่งเสริมเรื่องการขยายเวลาเปิดให้บริการของสถานบันเทิงซึ่งต้องใช้ระบบโซนนิ่งเข้ามาจัดการ เพื่อขจัดปัญหาอิทธิพลส่วยและปัญหาความขัดแย้งของพื้นที่รอบข้างสามารถนำร่องพื้นที่กทม. และขยายต่อ จ.กระบี่  และ จ.ภูเก็ต  ได้ทันที  

พร้อมกับนำระบบการจัดเก็บภาษีตามเวลาการปิด-เปิดของสถานบันเทิงนั้นๆ  ยิ่งเปิดบริการดึก ยิ่งต้องจ่ายภาษีเข้ารัฐมากขึ้นเหมือนในต่างประเทศ    เชื่อว่าแนวคิดนี้ จะสามารถจูงใจทั้งนักลงทุน  และนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

“ แจกเงินไม่ใช่การตอบโจทย์ แต่การสร้างรายได้คือการตอบโจทย์   เอกชนรายหนึ่งจ่ายส่วยเดือนละ 6 แสน สุดท้ายตำรวจลงถูกสั่งปิด 5 ปี  หมดตัว  ลงทุน 30-40 ล้าน เรื่องนี้รอไม่ได้  ท่านนายกฯเศรษฐา  ต้องโซนนิ่งเลย ที่ไหนเปิดได้ถึงตี5 ที่ไหนเปิดได้ 24 ชม. ท่านต้องทำ    

วันนี้วิวัฒนาการของโลกมันไปเร็วแล้ว เรายังจะใช้วิธีการแบบเดิมหรือครับ เรามีกล้องวงจรปิดเรามีรถแท็กซี่ที่ให้บริการ วิ่งตลอด 24 ชม. รถไฟฟ้าก็สามารถขยายให้วิ่ง 24 ชม.  เรายังทำได้เลยครับ ความปลอดภัยก็มากขึ้นเงินบาทจะได้แข็งค่า อย่าเพิ่งคิดจะแจกเงินคิดเรื่องการสร้างรายได้เรื่องนี้ทำได้ทันทีครับ”

นายสามารถ  ยังกล่าวชื่นชมแนวคิดของ  ส.ส.สฤษฏ์พงษ์  เกี่ยวข้อง  ส.ส.กระบี่  พรรคภูมิใจไทย   ที่พยายามผลักดันให้ จ.กระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยว  มีพื้นที่โซนนิ่งตลอด 24 ชั่วโมง    

เพราะนอกจากจะสร้างรายได้และขับเคลื่อนวงล้อธุรกิจในประเทศแล้ว  การเติมแรงงานคนเข้าไปในระบบทุกภาคส่วน จะสามารถทำให้เกิดการจ้างงานมากยิ่งขึ้น  ไม่ว่าจะเป็นอาชีพงานให้บริการ   การ์ดตามสถานบันเทิง  อาชีพพ่อครัว  หรือระบบการคมนาคมขนส่ง   ล้วนต่อยอดสร้างรายได้แทบทั้งสิ้น