'ปดิพัทธ์' แนะ 'เลขาสภา' รอบคอบ ก่อนเคาะรับสร้างรัฐสภาใหม่ 100%

'ปดิพัทธ์' แนะ 'เลขาสภา' รอบคอบ ก่อนเคาะรับสร้างรัฐสภาใหม่ 100%

ปดิพัทธ์ โยน "เลขาสภาฯ"​ เคาะ ตรวจรับรัฐสภา100% หรือไม่ บอกเป็นไปตามระเบียบ จ่อเสนอ วันนอร์ ตั้ง กก.ยุติข้อพิพาท มี สส.-สว. ร่วมวงเคลียร์ 6ปมสร้างผิดแบบ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง แถลงผลกการติดตามการตรวจรับก่อนส่งมอบงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ 100% หลังจากหารือกับคณะกรรมการตรวจและรับมอบงาน การจ้างออกแบบอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ แล้ว ทั้งนี้ยอมรับมีความเห็นแย้งในกรณีดังกล่าว ซึ่งตามระเบียบการจ้าง บุคคลที่สามารถชี้ขาดได้ คือ นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาฯ ทั้งนี้ต้องรอว่านางพรพิศจะพิจารณาเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จหรือไม่ ในช่วงที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30ก.ย. นี้ หรือ จะรอให้ เลขาธิการสภาฯ คนใหม่ที่จะเข้ารับหน้าที่อย่างเป็นทางการ

นายปดิพัทธ์ กล่าวด้วยว่าส่วนกรณีที่บริษัทผู้รับจ้างฟ้องร้องต่อสำนักงานเลขาธิการสสภาฯ เพราะความผิดพลาดของสำนักงานนั้น   เป็นหน้าที่ของสภาฯที่ต้องต่อสู่ในทางคดี รวมถึงกรณีค่าเรียกค่าปรับและเว้นการเรียกค่าปรับ ในกรณีทำงานล่าช้านั้น พบว่ามี 2 ช่วงระยะเวลา คือ กรณีสถานการณ์โควิด-19 กรรมการฯ พิจารณาให้งดเว้นค่าปรับ 851 วัน และกรณีมติคณะรัฐมนตรี ปี59 ที่ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้ผลกระทบเรื่องขึ้นค่าแรง อีก 150 วัน ซี่งมีค่าปรับวันละ 12 ล้านบาทนั้น ต้องตรวจสอบว่า ทำโดยรอบคอบ ชอบธรรมหรือไม่ สภาฯ เสียประโยชน์โดยไม่จำเป็นหรือไม่ เพราะสภาฯ เสียงหายมูลค่าหมื่นล้านบาท  ทั้งนี้พบว่าประเด็นที่นางพรพิศลงนามเว้นเรียกค่าปรับไปแล้วนั้น ต้องหารือฝ่ายกฎหมายอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะหน่วยงานที่เสนอให้เว้นค่าปรับ เป็นส่วนของหน่วยงานภายนอก

 

“ผลที่เกิดขึ้นในกรณีการก่อสร้างไม่ตรงตามแบบนั้น  ที่พบว่ามี 6 จุดนั้น คิดว่าเป็นมากว่าเรื่องผู้รับจ้าง ผมเตรียมเสนอประธานสภาฯ ให้พิจารณาตั้งคณะกรรมการเพื่อหาข้อยุติในความผิดพลาด ไม่ว่าจะตรวจรับงานหรือไม่ โดยกรรมการที่ตั้งมานั้น จะประกอบด้วยสส. และสว. เพื่อให้เป็นกรรมการยุติข้อพิพาท และให้สภาฯ เปิดใช้งานได้คุ้มค่าภาษีของประชาชน ส่วน 6 จุดที่ต้องปรับให้ตรงตามแบบจะมีรายละเอียดอย่างไร ต้องรอรายงานของคณะกรรมการตรวจการจ้างฯ อีกครั้ง ซึ่งในกรณีดังกล่าวหากแก้ไม่ได้ต้องแก้ไขสัญญา ซึ่งขึ้นอยู่กับเลขาธิการสภาฯ คนใหม่” นายปดิพัทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่ากรณีที่พบว่าการตัดสินใจตรวจรับงาน 100% ที่มีความเห็นแย้ง ซึ่งพบว่านางพรพิศเป็นกรรมการฝั่งเสียงข้างมาก มองว่าการมอบหมายให้ตัดสินใจจะเป็นการยืนยันมติตนเองหรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มอบหมาย แต่เป็นไปตามระเบียบการจ้าง คนที่มีอำนาจสูงสุดคือ เลขาธิการสภาฯ ส่วนความเห็นต่างหรือเห็นแย้งนั้น ต้องดูเหตุผลประกอบ รวมถึงชั่งน้ำหนักเสียงข้างมากให้ดี ซึ่งตนเชื่อว่าเลขาธิการสสภาฯ จะตัดสินใจอย่างรอบคอบที่สุด แต่หากส่งต่อให้เลขาธิการคนใหม่ ตนจะติดตามว่าจะตัดสินใจอย่างไร.