"ประชาธิปัตย์" จัด "15ขุนพล" ซักฟอกนโยบาย "จุรินทร์" ยันพร้อมร่วมงานก้าวไกล

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเตรียมตัวอภิปรายนโยบายรัฐบาลซึ่งจะมีการแถลงนโยบายวันที่11ก.ย.นี้ว่า ในส่วนของพรรคจะพูดทั้ง3ด้านทั้งการเมือง เศรษฐกิจและสังคม

ตอนนี้มีส.ส.แจ้งความจำนงจำนวน15คน โดยพรรคได้เวลาอภิปราย2ชั่วโมง15นาที ในการอภิปรายตนจะอภิปรายเป็นคนแรก เข้าใจว่าถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตนน่าจะอภิปรายเป็นคนที่2ถัดจากพรรคก้าวไกล

นอกจากตนยังมีนายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตประธานสภารวมถึงส.ส.ที่เหลือที่เตรียมการไว้

ยืนยันว่าจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการทำหน้าที่ตรวจสอบนโยบายรัฐบาลแต่จะมีการอภิปราบแบบสร้างสรรค์และตรงไปตรงมาตามเนื้อผ้าของนโยบาย รวมถึงพร้อมให้คำเสนอแนะและคำคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา

ขณะเดียวกันจะมีการตั้งคำถามแทนประชาชนถึงบางนโยบายที่ยังไม่มีความชัดเจนบ้าง เนื่องจากเรื่องยังยังไม่คลุมเคลือและไม่ตรงปกอย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์

เมื่อถามว่าจะเน้นอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอให้รอการอภิปรายจริง 

ถามย้ำว่า ที่บอกว่าไม่ตรงปกมีเรื่องอะไรบ้าง รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า หลายเรื่องบางเรื่องหาเสียงแต่กลับไม่มีในการแถลงนโยบาย ยืนยันว่าการอภิปรายจะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ตรงไปตรงมา และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนผู้ลงคะแนนเสียง ยอมรับว่าเราได้เวลาอภิปรายที่ค่อนข้างจำกัดแต่จะใช้เวลาให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

ถามว่า การอภิปรายจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่นั้น เพราะที่ผ่านมามีส.ส.โหวตสนับสนุนนายกรัฐมนตรี รักษาการหัวหน้าพรรคกล่าวว่า เรื่องนี้ก็ไม่ได้แปลว่าเป็นการสนับสนุนรัฐบาล การลงมติครั้งนั้นก็เป็นเรื่องการลงมติครั้งนั้น และเป็นเรื่องในพรรคที่ได้มีการพูดคุยกันแล้ว แต่การทำหน้าที่ถัดจากนี้ไปประชาธิปัตย์ ก็ทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ซึ่งตนก็ประกาศไปชัดเจน และเราจะทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ 

“รัฐบาลบอกว่าเป็นรัฐบาลประชาชน ฝ่ายค้านก็เป็นฝ่ายค้านประชาชน เพราะมาจากการเลือกตั้งของประชาชนเช่นเดียวกัน ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ ประชาธิปัตย์ก็พร้อมทำหน้าที่ ไม่มีอะไรน่ากังวล ทุกคนก็จะทำหน้าที่ร่วมกัน ในทิศทางเดียวกัน” นายจุรินทร์ กล่าว 

ส่วนที่ถามว่า จะสามารถทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลได้หรือไม่นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาหรอก พรรคการเมืองที่ไม่ไปเป็นรัฐบาลก็ต้องมาร่วมทำงานกันในฐานะฝ่ายค้าน อันนี้เป็นภาคบังคับของระบบรัฐสภา ซึ่งเป็นเรื่องปกติ และการทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลนั้น ตนก็เคยเรียนไปแล้ว และขอย้ำวันนี้อีกครั้งว่า อะไรที่ต่างกัน ประชาธิปัตย์ก็จะยังคงจุดยืนในเรื่องความแตกต่างนั้น ซึ่งถือว่าเป็นจุดยืนที่เราต้องรักษา เช่น ไม่แตะมาตรา 112 ที่เป็นเรื่องที่ประชาธิปัตย์ต้องยึด แล้วได้ประกาศไปตั้งแต่ต้น แต่อะไรเป็นเรื่องที่ต้องทำหน้าที่ร่วมกัน เช่นการตรวจสอบรัฐบาลด้วยกัน เรื่องนี้ก็ไม่มีปัญหา เพราะถือเป็นหน้าที่ของคนที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็ต้องตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชน สำหรับประชาธิปัตย์แล้ว เชื่อว่าก้าวไกลเขาก็คงตระหนัก เข้าใจเรื่องนี้อยู่แล้ว 

นอกจากนี้มีคำถามว่า จะมีการแบ่งปันข้อมูลกันหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น และการอภิปรายนโยบายก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการการเมืองไทย แต่เป็นเรื่องที่ทุกพรรคก็น่าจะรู้หน้าที่ดีอยู่แล้ว