‘บ้านพิษณุโลก’ บ้านพักนายกฯ ที่ไม่มีนายกฯ อยู่ เคยใช้งบปรับปรุงสูงสุด 38 ล้านบาท
รู้จัก “บ้านพิษณุโลก” บ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทย อายุ 101 ปี เนื้อที่ 50 ไร่ สร้างขึ้นในรัชสมัย “รัชกาลที่ 6” พบ “ชวน หลีกภัย” นายกฯ คนสุดท้ายที่ปักหมุดพำนัก แม้ไร้ผู้พักอาศัยแต่ใช้งบประมาณปรับปรุงทุกปี สูงสุด “38 ล้านบาท”
Key Points:
- “บ้านพิษณุโลก” คือ บ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่กลับพบว่า แทบไม่เคยมีนายกฯ คนใดพักอาศัย มีเพียง 2 คนเท่านั้น ได้แก่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และนายชวน หลีกภัย
- ก่อนจะมาเป็น “บ้านพิษณุโลก” เดิมชื่อว่า “บ้านบรรทมสินธุ์” ก่อสร้างขึ้นในรัชสมัย “รัชกาลที่ 6” เพื่อเป็นบ้านพักพระราชทานให้แก่ “พระยาอนิรุทธเทวา” มหาเสวกในพระองค์
- พบว่า “บ้านพิษณุโลก” มีการใช้งบประมาณโดยมีหน่วยจัดซื้อคือ “สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี” ดูแลการปรับปรุงซ่อมแซมเกือบทุกปี งบประมาณสูงสุดในปี 2562 สูงกว่า 38 ล้านบาท
เมื่อครั้ง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ได้ใช้ “บ้านพักสวัสดิการกองทัพบก ร.1 รอ” เป็นบ้านพักตลอดวาระ โดยใช้เป็นที่พำนักต่อเนื่องมาตั้งแต่ครั้งยังดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพบก (ผบ.ทบ.) แต่รู้หรือไม่ว่า แท้จริงแล้วตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมี “บ้านพักประจำตำแหน่ง” ที่มีอายุนับร้อยปีอย่าง “บ้านพิษณุโลก”
ทว่าไม่ใช่แค่ “พล.อ.ประยุทธ์” เท่านั้น ที่ไม่ใช้โควตาพักอาศัยบ้านพักประจำตำแหน่ง แต่ยังพบว่า นายกรัฐมนตรีคนสุดท้ายที่ใช้บ้านพิษณุโลกเป็นที่พำนักมีเพียง 2 คน คือ “พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์” และ “ชวน หลีกภัย” หลังจากนั้นก็ไม่มีผู้นำประเทศคนใดใช้บ้านพักประจำตำแหน่งแห่งนี้อีกเลยจนถึงปัจจุบัน
- สร้างโดยชาวอิตาลี เดิมเป็นบ้านพระราชทานแก่เสนาบดีวัง
“บ้านพิษณุโลก” ออกแบบและก่อสร้างโดยช่างชาวอิตาลีตามสถาปัตยกรรมแบบ “วิลลา” มีลักษณะโดดเด่นแบบคฤหาสน์ในชนบทอังกฤษ มีกระจกรอบตัวบ้านทำให้สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้โดยรอบ ทั้งยังมีลักษณะเด่นที่การ “ออกมุข” เป็นครึ่งวงกลมในทุกๆ ด้าน หากมองผิวเผินแล้วอาจชวนให้นึกถึง “พระที่นั่งอนันตสมาคม” โดยตามประวัติศาสตร์แล้วพบว่า ใช้ช่างออกแบบคนเดียวกัน
ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ชื่อ “บ้านพิษณุโลก” เดิมทีบ้านพักแห่งนี้มีชื่อว่า “บ้านบรรทมสินธุ์” ก่อสร้างในรัชสมัยของ “รัชกาลที่ 6” เป็นบ้านพักพระราชทานโดยสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โปรดเกล้าฯ ให้ปลูกสร้างเพื่อพระราชทานให้แก่ “พระยาอนิรุทธเทวา” มหาเสวกเอกในพระองค์ กระทั่ง “บ้านบรรทมสินธุ์” ถูกเปลี่ยนมือเมื่อครั้งมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองบวกกับสถานการณ์สงครามมหาเอเชียบูรพา
ขณะนั้น “พระยาอนิรุทธเทวา” ผู้เป็นเจ้าของบ้านพร้อมครอบครัวตัดสินใจอพยพย้ายไปต่างจังหวัด ขณะเดียวกัน “จอมพล ป. พิบูลสงคราม” ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในตอนนั้นต้องการเรือนรับรองเพื่อใช้ในราชการสงคราม จึงขอเช่าซื้อบ้านในราคา 500,000 บาท ให้กับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในเวลาต่อมารัฐบาลจึงได้ทำการเปลี่ยนชื่อจาก “บ้านบรรทมสินธุ์” เป็น “บ้านพิษณุโลก” ตามชื่อถนนแทน
- “เปรม ติณสูลานนท์” นายกฯ คนแรก “ชวน หลีกภัย” นายกฯ คนสุดท้าย
ปี พ.ศ.2522 “บ้านพิษณุโลก” ถูกปรับปรุงปัดฝุ่นครั้งใหญ่หลังถูกทิ้งร้างไม่มีผู้ใช้งาน โดย “เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์” นายกรัฐมนตรีคนที่ 15 สั่งให้มีการบูรณะใหม่ ใช้งบประมาณผ่านสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หวังเป็นที่พำนัก-บ้านพักประจำตำแหน่ง แต่หลังจากซ่อมแซมได้ไม่นาน นายกฯ เกรียงศักดิ์ก็มีอันต้องลาออก “พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์” ขึ้นดำรงตำแหน่งและเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ได้เข้าพักในฐานะบ้านพักประจำตำแหน่ง
หลังจากนั้น “นายกฯ ชวน” คือ ผู้เข้าพักต่อ โดยในสมัยแรกยังใช้บ้านพิษณุโลกเป็นเพียงสถานที่ประชุมเท่านั้น แต่ในสมัยที่สองที่ได้เข้าดำรงตำแหน่ง “ชวน หลีกภัย” เข้าพักอาศัยในบ้านพิษณุโลกอยู่พักใหญ่ โดยมีสื่อมวลชนสามารถเก็บภาพนายกฯ ชวนออกกำลังกายยามเช้ารอบๆ บ้านพิษณุโลกได้ แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนใดเข้าพักอาศัย ณ บ้านพิษณุโลกอีกเลย ใช้เป็นเพียงเรือนรับรองแขกหรือที่รับรองการประชุมเท่านั้น
สาเหตุที่ทำให้นายกรัฐมนตรีส่วนใหญ่ไม่เข้าใช้บ้านพักประจำตำแหน่ง อาจมาจากเหตุผลที่ “บ้านพิษณุโลก” ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกรับรอง มีเพียงตัวบ้านเปล่าๆ ให้เท่านั้น จึงไม่สะดวกกับการใช้ชีวิตประจำวันนัก หากแต่ยังมีอีกเหตุผลที่เล่าลือกันว่า อาจเกิดจากตำนานอาถรรพ์ซึ่งเป็นเพียง “เรื่องเล่า” ต่อๆ กันมาอีกทีหนึ่ง
- แม้ไม่มีใครพัก แต่ใช้งบปรับปรุงทุกปี
เมื่อแง้มดูตัวเลขจากฐานข้อมูลการใช้จ่ายภาครัฐ พบว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 ถึง 2565 มีการใช้งบประมาณแผ่นดินในการปรับปรุง-จัดซื้อจัดจ้างเกือบทุกปี โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ปี 2558 วงเงินงบประมาณ 32,547,795 บาท
- ปี 2559 วงเงินงบประมาณ 262,000 บาท
- ปี 2561 วงเงินงบประมาณ 155,685 บาท
- ปี 2562 วงเงินงบประมาณ 38,006,000 บาท
- ปี 2563 วงเงินงบประมาณ 5,878,680 บาท
- ปี 2564 วงเงินงบประมาณ 1,600,000 บาท
- ปี 2565 วงเงินงบประมาณ 6,446,000 บาท
สำหรับหน่วยจัดซื้อเป็นงบประมาณภายใต้ “สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี” โดยส่วนใหญ่แล้วงบประมาณถูกใช้ไปกับการปรับปรุงบ้านโดยรวม ทำสวน ติดตั้งกล้องวงจรปิด ปรับปรุงโรงเพาะชำ ทำซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ซ่อมแซมระบบไฟฟ้ารอบบ้าน กล่าวคือ ปรับปรุงไปตามความเสื่อมโทรมของบ้านอายุ 101 ปีนั่นเอง
อ้างอิง: Bangkokbiznews, Gov Spending, Matichon Weekly, The Cloud, Silpa-Mag, Thairath