"ชวน" ขยี้ซ้ำ! "เดชอิศม์" ใช้หนี้บุญคุณเพื่อไทย ลั่น "ปชป.เหลือกี่คนผมก็อยู่"

"ชวน" ขยี้ซ้ำ!  "เดชอิศม์" ใช้หนี้บุญคุณเพื่อไทย ลั่น "ปชป.เหลือกี่คนผมก็อยู่"

“ชวน” ขยี้ซ้ำ! "ก๊วนเฉลิมชัย"ยันที่ประชุมสั่งงดออกเสียงโหวตนายกฯ อัด “เดชอิศม์” ชดใช้บุญคุณพรรคพรรคเพื่อไทย "มุ้งเก่า" พร้อมลั่น ในวันที่ "ปชป." ถึงจุดสุดวิกฤต "จะเหลือกี่คนผมก็อยู่"

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนขอเรียนว่าการประชุมส.ส.ของพรรคเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ตนต้องนั่งรถมาจากจังหวัดตรังตอน 04.00 น.เพื่อให้ทันการประชุมเวลา 14.30 น.เพราะตนไม่อยากให้ขัดต่อมติพรรค เนื่องจากนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา รักษาการรองหัวหน้าพรรคฯดูแลภาคใต้ พูดไว้ก่อนแล้วว่าถ้าใครขัดมติพรรคให้ลาออก

ตนไม่อยากลาออก และในที่ประชุมบรรยากาศก็ดี พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาล่าเร่ ส.ส.สงขลา เป็นคนแรกที่แจ้งต่อที่ประชุมว่าประชาธิปัตย์ไม่ได้ร่วมรัฐบาล

ดังนั้นต้องลงมติไม่รับ ประเด็นจึงมาพูดกันว่าวิธีลงมติไม่รับจะใช้วิธีงดออกเสียงหรือใช้วิธีอย่างไร ไม่ได้พูดเรื่องอื่น มีบางคนพูดเหมือนกันว่าอยากเป็นรัฐบาล แต่ก็ไม่เป็นประเด็น แต่ประเด็นหลักคือใช้วิธีงดออกเสียงหรืออย่างไร ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรคฯเป็นคนบอกที่ประชุมว่าในระบอบประชาธิปไตยเมื่อมีรัฐบาลก็ต้องมีฝ่ายค้าน ดังนั้นเมื่อเราไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ต้องเป็นฝ่ายค้าน

\"ชวน\" ขยี้ซ้ำ!  \"เดชอิศม์\" ใช้หนี้บุญคุณเพื่อไทย ลั่น \"ปชป.เหลือกี่คนผมก็อยู่\"

 

“สำหรับผมส่วนตัว ขออนุญาตที่ประชุมว่าขอลงมติไม่รับ คนอื่นไม่เกี่ยว ผมให้เหตุผลว่าเพราะผมสู้กับนักการเมืองเหล่านี้ตั้งแต่ไทยรักไทย เพื่อไทย มาในเรื่องที่มีการเลือกปฏิบัติต่อภาคใต้ และจังหวัดที่ไม่เลือก เขาพัฒนาเฉพาะจังหวัดที่เลือกพรรคไทยรักไทย จังหวัดอื่นไว้ทีหลัง ซึ่งมีผลกระทบมาก รวมถึงปัญหาชายแดนภาคใต้ ซึ่งผมบอกว่าเราสู้เรื่องนี้และบอกกับประชาชนว่าอย่าเลือกพรรคนี้เพราะเขาแกล้งเรา เขาเลือกปฏิบัติกับเรา ซึ่งชาวภาคใต้ส่วนหนึ่งเขาปฏิบัติตามที่ผมแนะนำคือไม่เลือก ดังนั้นในส่วนตัวผมคิดว่าเราทำขนาดนี้แล้วและประชาชนได้กรุณาปฏิบัติตามที่เราแนะนำ ถ้าเราจะทำอะไรก็ตามอันเป็นลักษณะที่ไปสนับสนุนพรรคนี้เท่ากับเราทรยศคนภาคใต้

ผมจึงบอกว่าสำหรับผมขออนุญาตไม่รับเพราะไม่ต้องการทรยศคนภาคใต้ และได้คะแนนเข้ามาเป็นสส.ตลอดชีวิต 50 กว่าปี เขาเลือกมาโดยไม่ต้องใช้เงินซื้อเสียงสักบาท เป็นบุญคุณที่ใช้ไม่หมดในชีวิต”นายชวน กล่าว


 นายชวน กล่าวต่อว่า เมื่อตนบอกว่าขอลงมติไม่เห็นด้วย ซึ่งที่ประชุมไม่ได้ขัดข้อง นายจุรินทร์ จึงได้เสนอว่าไม่ลงมติได้หรือไม่ หมายถึงไม่ต้องลงมติงดออกเสียง หรือลงมติด้วยวิธีอื่น แต่ที่ประชุมก็บอกให้ลงมติ ในที่สุดก็บอกว่าสำหรับคนอื่นก็ให้ลงมติงดออกเสียงนี่คือที่มา นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้ใครไปบิดเบือน

\"ชวน\" ขยี้ซ้ำ!  \"เดชอิศม์\" ใช้หนี้บุญคุณเพื่อไทย ลั่น \"ปชป.เหลือกี่คนผมก็อยู่\"

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่มีข้อกล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไปเป็นพรรคอะไหล่ให้กับพรรคร่วมรัฐบาล เกียรติและศักดิ์ศรีของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ตรงไหน นายชวน กล่าวว่า  นายจุรินทร์ชี้แจงดีว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นพรรคอะไหล่ แต่พฤติกรรมคนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งต้องยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลและฝ่ายค้านมาแล้ว และในระบบนี้เราทำหน้าที่อะไรก็ต้องทำให้สมบูรณ์ ตนภูมิใจว่าในระหว่างที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านการตรวจสอบการทุจริตของรัฐบาลทำได้ผล แม้คนจะออกไปจากพรรคประชาธิปัตย์แล้ว

อย่างนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม เขาสามารถตรวจสอบการทุจริตโครงการจำนำข้าว การโกงกิน โคตรโกง โกรงทั้งโคตรได้ผล ไม่ใช่ว่าไม่มีความหมาย ถ้าเรามองว่าหาผลประโยชน์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่แนวทางของพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ประชาชนหวังพึ่ง แม้ช่วงหลังคะแนนได้น้อยมาก ครั้งนี้สส.บัญชีรายชื่อได้เพียง 3 คน เพราะคนให้คะแนนแค่ 9 แสนกว่าคะแนนจาก 10 กว่าล้านหรือหลายล้านในอดีต แต่คะแนน 9 แสนกว่าคะแนนคือคะแนนบริสุทธิ์ยุติธรรมที่ได้มาจริง ๆ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องตอบแทนประชาชน 

พรรคจะเหลือเท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่ไม่เป็นไร มีกี่คน ตนก็อยู่ เว้นแต่ตนถูกขับ ตนเป็นส.ส.มา 17 สมัย มาในระบบยุคก่อน คือไม่ได้ใช้เงิน ไม่ซื้อเสียง ไม่โกงเลือกตั้ง นี่คือหัวใจของประชาธิปไตยที่แท้จริง ตนก็อยากเห็นการเมืองรูปแบบนี้ แต่ช่วงหลังต้องยอมรับว่าเราแพ้ อาจจะใช้คำว่าแพ้มากที่สุดครั้งหนึ่ง

นายชวน ยังกล่าวว่า อย่างที่ไม่เคยได้อย่างนี้แค่ 25 เสียง อย่างดีก็ 30 เสียง ซึ่งตนบอกหัวหน้าพรรคฯว่าไม่โทษใคร เพราะพวกเราเป็นคนเลือกหัวหน้าพรรคฯ เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดนี้เอง แต่ต้องมาทบทวนว่าจะฟื้นพรรคฯได้อย่างไร นี่คือความหวังดีของคนในพรรคฯที่ว่าไม่ควรจะไปร่วมรัฐบาล ควรจะหันมาทบทวนความพ่ายแพ้และฟื้นพรรคมาใหม่ให้แข็งแกร่งขึ้น เหมือนกับที่มีปัญหาในอดีต จนกระทั่งมีคนออกไปตั้งพรรคใหม่ แต่ในที่สุดประชาธิปัตย์ก็กลับมาได้ 

\"ชวน\" ขยี้ซ้ำ!  \"เดชอิศม์\" ใช้หนี้บุญคุณเพื่อไทย ลั่น \"ปชป.เหลือกี่คนผมก็อยู่\"

“เราก็หวังว่าคนรุ่นใหม่จะหันมาทำงานเพราะเที่ยวนี้ระบบพรรคเราแพ้หมด เราต้องยอมรับความเป็นจริงและหันมาสร้างพรรคกันใหม่ ทุกฝ่ายมีความหมาย ทุกคนในพรรคมีคุณค่า ใช้ความหมายนั้นให้เป็นประโยชน์ ใครที่มีกำลังก็ช่วยไป ผมเรียนว่าพวกเราทุกคนพึ่งพาได้ แต่ตัวผมพึ่งเงินผมไม่ได้เท่านั้นเอง แต่เวลาเลือกตั้งหลายคนบอกว่าให้นายชวนเป็นคนสุดท้ายในการปราศรัยวันสุดท้าย รับรองไม่แพ้ ผมก็ไปให้ทุกแห่ง

ผมบอกว่าอย่างนี้ถือว่าพึ่งได้ เพียงแต่ไม่ได้พึ่งเงิน เป็นการพึ่งแรงงาน และวิธีปราศรัยหาเสียง ผมให้เกียติทุกคน เพราะมีค่ากับพรรค ซึ่งเป็นสิ่งที่อยากให้กรรมการบริหารพรรคได้ร่วมกันแก้ปัญหาต่อไป ซึ่งผมไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค แต่อยากให้พรรครักษาผลกระทบ เกียรติภูมิชื่อเสียงพรรค การบอกว่าเป็นพรรคอะไหล่ คิดดูก็แล้วกัน คนในพรรคที่เป็นกำลังสำคัญทั่วประเทศจะรู้สึกอย่างไร”นายชวน กล่าว 

เมื่อถามว่ามีข้อเสนอให้ขับกลุ่มส.ส.ที่โหวตให้นายเศรษฐา แต่เป็นส.ส.จำนวนมากเราจะทำ อย่างไร นายชวน กล่าวว่า คงเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค ที่จะตรวจสอบต่อไป ตนไม่เคยพูดเรื่องนี้ เพราะไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค และเท่าที่ฟังนายจุรินทร์พูดก็หมายความว่าจะตั้งกรรมการสอบและให้ชี้แจงเรื่องนี้ ก็ต้องดูกันต่อไปว่าจะชี้แจงว่าอย่างไร  

เมื่อถามว่าต้องยอมรับว่ารอยร้าวระหว่างสองกลุ่มมีจริงๆ นายชวน กล่าวว่า ที่จริงพวกตนไม่มีขั้ว เพราะตนก็เลือกกรรมการบริหารพรรคชุดนี้มาเหมือนกัน และแนวของเราต้องการให้พรรคการเมืองเป็นไปโดยสุจริตอย่างที่เราดำรงมา 77 ปี ที่พรรคอยู่มาได้ 77 ปีไม่ได้อยู่มาได้เพราะโกงเก่ง แต่คนเขาศรัทธาเรา เพราะมีความซื่อตรง สุจริต ทำงานด้วยความสามารถ ทำงานโดยไม่โคตรโกง ไม่โกงทั้งโคตร ยึดหลักความถูกต้องชอบธรรมก็อยู่มาได้ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดแข็งก็อยากให้รักษาต่อไป 

\"ชวน\" ขยี้ซ้ำ!  \"เดชอิศม์\" ใช้หนี้บุญคุณเพื่อไทย ลั่น \"ปชป.เหลือกี่คนผมก็อยู่\"

เมื่อถามว่าจะฝากอะไรถึงสส.ที่ต้องการไปร่วมรัฐบาล นายชวน กล่าวว่า ความอยากเป็นรัฐบาลไม่ได้ผิดอะไร เพียงแต่กระบวนการไปร่วมรัฐบาลต้องผ่านกรรมการบริหารพรรคและสส. ขอเรียนว่าเที่ยวที่แล้วตนไม่ได้มีส่วนในการลงมติร่วมรัฐบาลของพรรค และไม่มีส่วนไปขอตำแหน่งประธานสภาฯ

อย่างไรก็ตาม ถ้าใครอยากร่วมรัฐบาล ก็ต้องดำเนินการไปตามระเบียบกฎเกณฑ์ไม่ผิดอะไร และมติของพรรคต้องลงความเห็นว่าควรหรือไม่ควร ใครที่เห็นว่าไม่ควรก็มาถกเถียงในที่ประชุม อย่างตนก็ไม่เห็นด้วย จึงได้หาเหตุผลมาชี้แจงในที่ประชุม แต่บังเอิญเรื่องนี้ไม่ผ่านเข้ามาในที่ประชุม ตนถามหัวหน้าพรรคตลอดเวลาว่าส่งใครไปเจรจาขอร่วมรัฐบาลหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มี

 “ในวันประชุมก็มีการพูดว่าทำไมตอนโหวตพรรคก้าวไกลถึงงดออกเสียง ผมเป็นคนหนึ่งที่บอกว่าตอนพรรคก้าวไกล ไม่ได้มีการประกาศว่าไม่เอาพรรคประชาธิปัตย์

แต่ตอนนี้นายเศรษฐา ประกาศด้วยตัวเองว่าไม่มีพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเหตุผลที่ตามมาว่าเขาเองก็ไม่ได้อยากได้เรา เรามีเสียงเท่านี้25เสียง ต้องมาตั้งหลักเพื่อฟื้น และผมได้บอกนายจุรินทร์ ว่านี่คือโอกาสที่จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง แต่ไม่ใช่ผู้นำฝ่ายค้าน เพราะผู้นำฝ่ายค้านเป็นของพรรคก้าวไกล” นายชวน กล่าว

เมื่อถามว่าจะลงมาแก้ปัญหาในพรรคเองหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ไม่ มันเลยไปแล้ว เพราะสมัยช่วงปลายของนายจุรินทร์ มีปัญหา สมาชิกอยากเปลี่ยนหัวหน้าพรรค และเคยมีคนมาขอให้ตนลงมาช่วยสัก1ปีได้หรือไม่ เพื่อแก้ปัญหา ตนได้บอกกลับไปว่าตนไม่กลับมาแล้ว แต่ช่วยเต็มเท่าที่สามารถช่วยได้ ขอร้องพวกเราว่าอย่าไปไล่หัวหน้าพรรคเลย ครบ4ปีก็เปลี่ยน เมื่อครบวาระนายจุรินทร์แล้ว ก็ว่ากันไปใครจะเป็นต่อ ตนก็เคยบอกนายกรณ์ จาติกวนิช ว่าอย่าไปเลย เพราะมีศักยภาพคนหนึ่ง หรือจะเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ว่ากันไป เพราะเราอยากได้คนที่มีประสบการณ์ทางการเมืองในระดับหนึ่ง และมีความรู้ความสามารถ เพราะอย่างไรพรรคนี้ จากที่ประชาชนมอง ยังพอเชื่อถือได้ว่ามีคนดีอยู่ไม่น้อย ตนอยู่ในช่วงปลายแล้วก็ออกมาทำอะไรบ้าง เพื่อชดใช้บุญคุณพรรค ตนเป็นนายกฯได้ไม่ใช่เพราะมีเงิน แต่เพราะบารมีของพรรค เราไม่อยากให้พรรคเสื่อมถอย