"ก้าวไกล" ประกาศเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ซัด ตั้งรัฐบาล ต่อลมหายใจรัฐประหาร

"ก้าวไกล" ประกาศเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ซัด ตั้งรัฐบาล ต่อลมหายใจรัฐประหาร

"ก้าวไกล" ประกาศ เป็นฝ่ายค้านเชิงรุก หวังผลเลือกตั้งหน้า ซัด ตั้งรัฐบาล ต่อลมหายใจรัฐประหาร รับมีโอกาสยกตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ปชป. รักษาเก้าอี้หมออ๋อง

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงข่าวภายหลังโหวตเลือกนายกฯ ว่า พรรคก้าวไกลต้องแจ้งว่า นายอานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย สส.สมุทรสงคราม พรรคก้าวไกล  ที่หมดสติกลางห้องประชุม  พ้นขีดอันตรายแล้วกำลังตรวจเช็กร่างกาย และทางพรรคได้ติดต่อทางภรรยา และครอบครัวแล้ว พรรคก้าวไกลขอขอบคุณ ทางเจ้าหน้าที่ และผู้แทนราษฎรจากพรรคอื่น ที่เป็นแพทย์ และช่วยกันดูแล 

นายชัยธวัช อ่านแถลงการณ์พรรคก้าวไกล ระบุว่า วันนี้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าการเลือกนายกรัฐมนตรี และการจัดตั้งรัฐบาล หลังจากนี้มิได้เป็นไปตามเจตจำนงของประชาชนส่วนใหญ่ ที่ได้แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลขอย้ำว่า การจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้มิใช่การสลายขั้ว สลายความขัดแย้ง โดยเอาวาระของประชาชน และประเทศเป็นตัวตั้ง แต่นี่เป็นการสยบยอม และต่อลมหายใจ ให้กับระบบการเมือง ที่คณะรัฐประหาร ปี 2557 พยายามที่จะสถาปนาขึ้น เป็นการทำลายความหวัง ความศรัทธา และอำนาจ ของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย แน่นอน ต่อจากนี้ไปพรรคก้าวไกลจะทำงานในฐานะพรรคฝ่ายค้าน โดยจะเป็นฝ่ายการเชิงรุก ทุกเสียงของประชาชนที่มอบให้ ต้องมีความหมาย สส.ของพรรคก้าวไกลทุกคน จะทำงานสุดความสามารถ ทั้งการตรวจสอบฝ่ายบริหาร การผลักดันกฎหมายที่ก้าวหน้า รวมถึงวาระของประชาชนตามกลไกต่างๆ ของสภา รวมทั้งการทำงานกับประชาชนนอกสภาเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมร่วมกันอย่างไม่ท้อถอย

 

แม้ในวันนี้ จะมีความพยายามทำให้อำนาจของประชาชนไม่มีความหมาย แต่พรรคก้าวไกลยังยืนอยู่ข้างประชาชนอย่างมั่นคง ด้วยความเชื่อมั่นว่า พลังของประชาชนจะสามารถสร้างอนาคตแบบใหม่ ให้แก่สังคมไทยได้ในที่สุด วันหนึ่งเราจะมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง มีระบบเศรษฐกิจก้าวหน้าเท่าทันโลก และเป็นธรรม มีสังคมที่เคารพความแตกต่างหลากหลาย สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ของประชาชนยึดถือความมั่นคงของประชาชนเป็นความมั่นคงของชาติ ด้วยความเคารพประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศ
เมื่อถามว่า ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านทางพรรคจะตัดสินใจอย่างใด นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้จะพิจารณากันภายในพรรคซึ่งยังมีเวลาอยู่ตามรัฐธรรมนูญมีการกำหนดระยะเวลา ว่าการแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้าน จะเกิดขึ้นเมื่อใด 

เมื่อถามว่าเงื่อนไขการหยุดปฏิบัติหน้าที่ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะเกิดปัญหาหรือไม่ต่อการเป็นผู้นำฝ่ายค้าน นายชัยธวัช กล่าวว่า แน่นอนแต่สิ่งสำคัญคือ เราเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด ในเมื่อคณะกรรมการไต่สวนสืบสวนของ กกต. มีความเห็นไปยัง กกต.ใหญ่ให้ถอนฟ้อง

ด้วยเหตุผลที่ชัดเจนว่า คณะกรรมการสืบสวนไต่สวนของ กกต.ในอีกคดีหนึ่งที่จะยื่นไปยังศาลอาญาเห็นว่า ไอทีวีไม่ได้เป็นบริษัทสื่อแล้ว ดังนั้นในอีกคดีที่อยู่ในขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญ เราหวังว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาไต่สวนเรื่องนี้โดยเร็ว หลังจากที่ พรรคก้าวไกลยื่น เอกสารชี้แจงไปแล้วโดยเร็วที่สุด เพื่อคืนความยุติธรรม ความเป็นธรรมให้กับนายพิธา

เมื่อถามว่า มีแผนยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเร็วที่สุดเมื่อไหร่ นายชัยธวัช กล่าวว่า การทำงานในฐานะภาคฝ่ายค้าน คงทำแบบสร้างสรรค์ ยึดหลักการ และเหตุผลเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านที่คัดค้านไม่เห็นด้วย หรือจ้องจะล้มรัฐบาลทุกวัน คิดว่ารัฐบาลชุดนี้สิ่งที่จะล้มได้คือ ศรัทธาของพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ แม้ว่าเราจะเป็นฝ่ายค้าน แต่จะเดินหน้าทำงาน เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะบริหารประเทศให้ดีที่สุดในการเลือกตั้งครั้งหน้านั่นคือ เป้าหมายของเรา

เมื่อถามว่าจะผลักดันแก้ไขกฎหมาย มาตรา 112 อยู่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า กฎหมายที่เราได้หาเสียงกับประชาชนเราจะดำเนินการผลักดันทั้งหมดตอนนี้ทยอยเสนอร่างกฎหมายไปแล้ว และจะดำเนินการให้ครบ

เมื่อถามว่า ในส่วนพรรคฝ่ายค้านได้มีการพูดคุยกับพรรคอื่นหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า โดยหลักการทุกพรรคที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล อยู่ในสภาพบังคับ ต้องเข้าใจว่าพรรคฝ่ายค้านไม่ได้มีการจับมือกัน เพราะทุกพรรคที่ไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ต้องเป็นฝ่ายค้านหมด โดยภาระหน้าที่อยู่แล้ว

ส่วนจะคุย ปชป.แบ่งงานหรือไม่นั้น มองว่าไม่จำเป็น แต่มีวาระที่ต้องทำงานร่วมกัน เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ การตรวจสอบฝ่ายบริหารในวาระต่างๆ และหลังจากที่มีการแต่งตั้งวิปทั้งไปค้าน ฝ่ายรัฐบาลก็จะมีการพูดคุยกันถือเป็นกลไกปกติในสภา

ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ต้องลาออกหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังมีเวลา ต้องดูตามกรอบรัฐธรรมนูญ ส่วนจะโดนกดดันหรือไม่ คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับฝ่ายบริหารเป็นการตัดสินใจของพรรคก้าวไกลอย่างเดียว คงไม่มีเหตุผลอะไรที่ฝ่ายนิติบัญญัติจะมากดดันเรื่องนี้

เมื่อถามว่ามีโอกาส เอาตำแหน่งรองประธานสภาไว้ แล้วยกตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านให้พรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับพรรรคก้าวไกลตัดสินใจ หากไม่ยึดติด กับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ตนเข้าใจว่าโดยกลไกต้องถือว่าพรรคประชาธิปัตย์น่าจะเป็นพรรคฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการตามรัฐธรรมนูญที่มี สส.มากที่สุด

เมื่อถามถึงกรณีข้อมูล นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติของ นายเศรษฐา ทวีสิน จะตรวจสอบหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องดูข้อเท็จจริง ถ้ามีประเด็นที่สมควร ว่านายกรัฐมนตรีต้องถูกตรวจสอบ ก็ทำอย่างตรงไปตรงมาอยู่แล้ว แต่ขอดูเนื้อหาให้ชัดเจน

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์