‘ก้าวไกล’ เกมสุดท้ายโหวตนายกฯ เตือน ‘เพื่อไทย’ ระวังฟื้นอำนาจศัตรู

‘ก้าวไกล’ เกมสุดท้ายโหวตนายกฯ เตือน ‘เพื่อไทย’ ระวังฟื้นอำนาจศัตรู

"...ต้องไม่ลืมว่า ที่พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนถล่มทลายในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพราะเกิดปรากฎการณ์ "เบื่อลุง" นั่นเอง ไม่ว่าจะไปทางไหน ก็เข้าสูตร "กลืนไม่เข้า คายไม่ออก" จะใช้ลูกไม้เดิม ๆ ปลุก "ด้อมส้มธิปไตย" ก็คงไม่อาจทานกระแส "ปากท้องดี" ได้ไหว..."

สถานการณ์การเมืองกำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง

ท่ามกลางความขัดแย้งที่กำลังระอุระหว่าง "แฟนคลับเพื่อไทย" และ "ด้อมส้ม" ในประเด็นที่พรรคเพื่อไทยประกาศหย่าพรรคก้าวไกล ฉีก MOU 8 พรรคร่วมเดิม ไปเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลด้วยตัวเอง รวมเสียงไปแล้วอย่างน้อย 9 พรรค 238 เสียง

ส่งผลให้ "ก้าวไกล" และอีก 2 พรรคคือ พรรคไทยสร้างไทย และพรรคเป็นธรรม รวม 158 เสียงถูกผลักไปเป็น "ฝ่ายค้าน" แทบจะแน่นอนแล้ว

จึงไม่แปลกที่ "เพื่อไทย"จะเดินเกมเรียกคะแนนสงสาร นำโดย "อุ๊งอิ๊ง" แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกฯ "เดอะอ้วน" ภูมิธรรม เวชยชัย คนใกล้ชิด "นายใหญ่" พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เดินเท้าจากอาคารโอไอเอ ทาวเวอร์ ของพรรคเพื่อไทย ไปตึกไทยซัมมิท ที่ประชุม สส.ก้าวไกล เพื่อขอขมา และขอเสียงสีส้ม ช่วยยกมือโหวตให้นายกฯจากเพื่อไทย

อย่างไรก็ดีบางแหล่งข้อมูล อ้างว่า ที่อุ๊งอิ๊ง และภูมิธรรม ไปคุยกับแกนนำสีส้ม เพื่อแค่แจ้งว่า จะนำพรรค '2 ลุง' เข้าร่วมรัฐบาล เพื่อฝ่าทางตันทางการเมืองเท่านั้น?

ท่าทีของก้าวไกลยังคงนิ่ง โดยที่ประชุม สส. ประจำสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังมีมติว่าจะโหวตนายกฯเพื่อไทยหรือไม่ โดย "ชัยธวัช ตุลาธน" เลขาธิการพรรค เห็นว่า ขณะนี้ควรทำงานในสภาฯไปก่อน และคอยดูสถานการณ์การเมืองจนกว่าจะถึงวันโหวตนายกฯ

เพราะใจลึก ๆ แล้ว ก้าวไกลยังคงมีหวังในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่นัดจะรับหรือไม่รับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีมติที่ประชุมร่วมรัฐสภาเสียงข้างมาก ค้านไม่ให้เสนอชื่อ"พิธา ลิ้มเจริญรัตน์"เป็นนายกฯ เมื่อ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเป็นการเสนอญัตติซ้ำ

หากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง และวินิจฉัย "เป็นคุณ"กับก้าวไกลขึ้นมา หน้ากระดานการเมืองคงรีเซ็ตกันใหม่อีกครั้ง

ต้องรอจับตาการประชุม สส.ในวันที่ 15 ส.ค. โดย "ชัยธวัช" ระบุว่า จะนำความเห็นของประชาชนที่ให้ สส.เปิดโพลถามในโซเชียล นำเสนอกับที่ประชุม ก่อนเคาะว่าควรโหวตแคนดิเดตนายกฯให้ "เพื่อไทย" หรือไม่

ทั้งนี้ มีแนวโน้มสูงที่ศาลรัฐธรรมนูญ อาจไม่รับวินิจฉัยคำร้องดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า การลงมติในที่ประชุมร่วมรัฐสภา เป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งฝ่ายตุลาการไม่อาจก้าวล่วง ตามหลักการ 3 เสาอำนาจในรัฐธรรมนูญ แตกต่างจากกรณีเสียบบัตรแทนกัน ที่เป็นการกระทำผิดทางอาญา และมี ป.ป.ช.ไต่สวน

ทำให้ก้าวไกลต้องเตรียมแผนสำรองไว้คือ ให้บรรดา สส.ก้าวไกล โดยเฉพาะ สส.แบบแบ่งเขตทำโพล โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดีย ทำทีสอบถามความเห็นจากประชาชนว่า พรรคควรยกมือโหวตนายกฯให้พรรคอื่น ที่ไม่ได้เชิญพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลหรือไม่ แน่นอนว่าคอมเมนต์"ด้อมส้ม"เอกฉันท์ว่า ไม่ควรยกมือโหวต

เป็นไปตามสเต็ป "ด้อมส้มธิปไตย" ที่ก้าวไกลทำมาตลอด เวลา"เพลี่ยงพล้ำ"จะใช้มวลชนคอยกดดันการทำหน้าที่ของฝ่ายตรงข้าม

ในขณะที่ฉากหน้า ก้าวไกลพร้อมอ้าแขน "คืนดี" กับ "แฟนเก่า" อย่างเพื่อไทย กลับมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลกันใหม่กับ 8 พรรคเดิม 312 เสียง โดยยอมยื้อโหวตนายกฯลากไปอีก 10 เดือนเพื่อให้ สว.หมดอำนาจ ซึ่งก้าวไกลรอได้

“พรรคก้าวไกลอาจจะไม่ได้เป็นพรรคฝ่ายค้านก็ได้ ใครจะรู้... ตอนนี้ก็ต้องตามมารยาททางการเมือง ให้พรรคเพื่อไทยจัดไปก่อน สักวันหนึ่งหากเปลี่ยนใจ อยากให้คนรุ่นใหม่ ได้ลองทำงาน ลองดูซิว่าจะเป็นอย่างไร ผมก็พร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่” หัวหน้าส้ม “พิธา” ทิ้งปมไว้เป็นประเด็น เมื่อไม่มีอะไรจะเสีย

อย่างไรก็ตาม ก้าวต่อไปของ‘ก้าวไกล’ คือการซาวด์เสียงจากประชาชนว่า ควรโหวตนายกฯจากพรรคอื่นหรือไม่ โดยมีแนวโน้มสูงว่าอาจไม่โหวตให้ เพราะไม่ได้เข้าร่วมรัฐบาล แถมยังรู้ทันว่าอาจตกเป็นเหยื่อในเกม ‘2 ลุง’ ก็เป็นไปได้

 สัญญาณจากระดับแถวหน้าของก้าวไกล ยืนยันว่า ในการประชุมพรรคอังคารหน้า จะมีการหยิบยกเรื่องละครรักข้ามพรรค มาขอเสียงโหวตนายกฯ เพื่อไทย ซึ่งจะมีสส.เสนอต่อที่ประชุมว่า ต้องมีเงื่อนไขว่า รัฐบาลเพื่อไทย "ต้องไม่มี 2 ลุง ทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง ไม่มีกลุ่มก๊วนที่แยกมาเป็นสส.งูเห่า" รวมทั้งต้องสนับสนุนการแก้ไขกฎหมายฉบับต่างๆ ที่ก้าวไกลเสนอ

แม้จะรู้ดีว่าข้อเสนอใดๆ คงไม่เป็นผล เมื่อเพื่อไทยปักธงต้องเป็นรัฐบาลให้ได้เท่านั้น 

ทำให้ รองเลขาฯ ก้าวไกล "ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์“ ออกมาเตือนว่า ”ทั้งที่รู้ว่าศัตรูตัวจริงคือใคร เราต่อสู้ฝั่งสืบทอดอำนาจ

จนวันนี้ศัตรูเราอ่อนแรง แต่เพื่อไทยไปรับมาเลี้ยงดู ให้เขาแข็งแรง แล้วกลับมาทิ่มแทง ก็จะกลายเป็น 4-5 ป. เกิดขึ้นอีก" 

สถานการณ์เวลานี้ ที่ดูเหมือนเพื่อไทยจะเลือกพรรค 2 ลุงแล้ว และทำเอา "ศาสดาทางความคิด" ของก้าวไกล ต้องอกหักเป็นครั้งที่ 2 ที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่จำเป็นต้องรีบรักษาแผลใจเอาไว้ เดินเกมปักธงความคิด เยาวชน-คนรุ่นใหม่ เพื่อต่อยอดในการเลือกตั้งครั้งถัดไป ซึ่งคาดว่าน่าจะไม่ถึง 4 ปี และคราวนี้ ก้าวไกลอาจได้คะแนนเสียงมากกว่าปี 2566

แต่หากจับพลัดจับผลู เพื่อไทยบริหารราชการแผ่นดินได้ดี ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ขจัดปัญหาปากท้องของประชาชนได้สำเร็จ นี่คือสิ่งที่ก้าวไกลกังวลที่สุดว่า ประชาชน รวมถึงบรรดา "ด้อมส้มสายกลาง" จะค่อย ๆ ลืมเลือนพรรคก้าวไกลไป เหลือแต่ "ด้อมส้มพันธุ์แท้" ที่มีจำนวนไม่มากนัก ตรงกับเป้าหมายของ"ฝ่ายอนุรักษ์นิยม"พอดิบพอดี

ต้องไม่ลืมว่า ที่พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนถล่มทลายในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพราะเกิดปรากฎการณ์ "เบื่อลุง" นั่นเอง

เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะไปทางไหน ก็เข้าสูตร "กลืนไม่เข้า คายไม่ออก" จะใช้ลูกไม้เดิม ๆ ปลุก"ด้อมส้มธิปไตย"ก็คงไม่อาจทานกระแส "ปากท้องดี" ได้ไหว

คงต้องรอดูแผนขั้นต่อไปของ "ก้าวไกล" จะแก้เงื่อนที่ผูกไว้แน่นหนานี้ได้อย่างไร