‘พิธา’ แซวอาจารย์ มธ.จะให้คนชนะเลือกตั้ง แต่ถูกสภาฯตีตก บรรยาย ปชต.จริงหรือ

‘พิธา’ ร่วมงานปฐมนิเทศนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ เต้นแจวเรือไปสภาฯ แซวอาจารย์ ใจคอจะให้แคนดิเดตนายกฯ ที่ชนะการเลือกตั้ง 14 พ.ค. 66 รวมเสียงข้างมากได้ แต่ถูกรัฐสภาปัดตก มาบรรยายประชาธิปไตยไทยจริงหรือ
เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2566 ที่หอประชุมใหญ่ อาคารกิตติยาคาร ม.ธรรมศาสตร์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมกิจกรรมปฐมนิเทศ และเป็นวิทยากรนักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ประจำปีการศึกษา 2566 เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆกับนักศึกษาในฐานะศิษย์เก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
โดยก่อนการขึ้นบรรยายพิเศษให้กับนักศึกษาใหม่ นายพิธา ได้ร่วมเต้นเพลง ‘แจวเรือ’ ในช่วงกิจกรรมสันธนาการ อย่างสนุกสนาน หัวเราะมีความสุขร่วมกับกิจกรรมของนักศึกษา โดยกองสันทนาการแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ใช้คำว่า "แจวเรือจะไปสภา ขอเชิญพิธาลุกขึ้นมาแจว"
(ภาพกิจกรรมแจวเรือจาก กองสันทนาการแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)
จากนั้นนายพิธา ขึ้นเวทีกล่าวทักทายว่า “ไหนขอเสียงลูกแม่โดมหน่อย” พร้อมขอบคุณทุกคนที่เชิญมาในวันนี้ สำหรับตนแล้ว รู้สึกว่าบรรยากาศแบบนี้ไม่ได้นานเท่าไหร่ ที่เคยนั่งง่วงอยู่ข้างหลัง ห้ามถามว่านานเท่าไหร่แล้ว ห้ามถามว่ารหัสอะไรด้วย บอกได้อย่างเดียวว่า "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ BBA7" เวลาไปหาเสียงคนก็เข้ามาถาม มาบอกตลอดว่าเป็นรุ่นน้องของพี่ BBA30-40กว่า ก็ต้องขอบคุณมากที่บอกว่าตนเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว
นายพิธา กล่าวอีกว่า วันนี้มาด้วยความรู้สึกยินดีและอิจฉาไปในตัว ยินดีที่ได้กลับมาสู่บรรยากาศ และพลังงานแบบเหลืองแดง ชาวลูกแม่โดมแบบธรรมศาสตร์ ขณะเดียวกันก็รู้สึกอิจฉาที่ไม่มีโอกาสที่จะได้มาอยู่ในลักษณะแบบนี้ทุกวันต่อไปในอีกสี่ปีที่จะถึง “4 ปีของผมกับ 4 ปีของคุณไม่เท่ากันเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังเพราะอะไร”
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวอีกว่า ด้วยความคิดถึง และด้วยความทะนุถนอม ที่ตนเคยมีสมัยเป็นนักเรียน ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าผู้บริหารหรืออาจารย์จะรู้สึกรักและทะนุถนอมตนเหมือนอย่างที่ตนรักธรรมศาสตร์หรือไม่ เพราะหัวข้อที่ได้มาพูดในวันนี้คือเรื่องประชาธิปไตยเสรีภาพและความยุติธรรม
“ใจคออาจารย์ จะให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. รวบรวมเสียงได้ 312เสียง แต่รัฐสภาปัดตกไป ทำให้เข้าบ้านใหม่ที่ชื่อทำเนียบรัฐบาลไม่ได้ มาพูดเรื่องนี้จริง ๆ เหรอครับอาจารย์ ถ้าเป็นภาษาผม และอาจารย์จะเรียกว่า บัดเหมาะเคราะห์ดี ที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แทนที่วันนี้จะอภิปรายอยู่ในสภา กลับได้มีโอกาสมาเจอกับเพื่อนใหม่ที่ธรรมศาสตร์แห่งนี้ แต่ถ้าเป็นภาษาของเพื่อนใหม่จะใช้คำว่าจังหวะนรก จังหวะโบ๊ะบ๊ะ ที่เลือกหัวข้อให้ผมมาพูดประชาธิปไตย เสรีภาพ และความยุติธรรม” นายพิธา กล่าว