"2 ลุง" ปิดประตูตี"งูเห่า" “ธรรมนัส-สุชาติ”เสือลำบาก

"2 ลุง" ปิดประตูตี"งูเห่า" “ธรรมนัส-สุชาติ”เสือลำบาก

เมื่อ “2 ลุง” ประกาศกับลูกพรรคพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และจะไม่ให้ใครหักหลัง ดังนั้นทั้ง “ธรรมนัส-สุชาติ”ที่พยายามสร้างอาณาจักรของตัวเอง จากเสือซ่อนเล็บ ทำท่าจะกลายเป็นเสือลำบาก และอาจไม่มีที่ยืนในพรรค “2 ลุง”

ภายหลังปฏิบัติการบอกเลิก แยกกันเดินระหว่าง พรรคเพื่อไทย กับ พรรคก้าวไกล ทำให้เพื่อไทยต้องหาพันธมิตรใหม่ เพื่อจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล

โดยโฟกัสมาที่พรรคในขั้วรัฐบาลเดิม ซึ่งมีเสียงอยู่ 188 เสียง เป้าแรกที่โดนล็อก คือ พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง เป้าสอง พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง เป้าสาม พรรคประชาธิปัตย์ 19-22 เสียง (จาก 25 เสียง) พร้อมกับผนึกพรรคเล็ก

ความคืบหน้า ล่าสุดเพื่อไทย สามารถรวมเสียงพันธมิตรใหม่ได้ 263 เสียง ต้องหาอีก 111 เสียง เพื่อฝ่าด่าน 374 เสียง ส่ง “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน นั่งเก้าอี้นายกฯ

ทว่า ปฏิบัติการทิ้ง “2 ลุง” ลอยแพ พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ โดยหวังฉก “งูเห่า” จากรัง “ป่ารอยต่อฯ-ซอยอารีย์” กลับไม่ประสบความสำเร็จ

ทว่า กลับโดนปฏิบัติการย้อนศรจาก “ลุง” ที่ว่ากันว่า ยกหูกำชับ สว. ส่วนใหญ่ ไม่ให้โหวต “เศรษฐา” เพราะพรรคเพื่อไทย หักดีลด้วยการไม่เชิญไม่ชวน “พรรคลุง” เข้าร่วมรัฐบาล

 แถมยังมีเหตุการณ์ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ที่คาดการณ์ว่าจะมีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการโหวตชื่อ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล รอบสอง ขัดข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภา ข้อที่ 41 หรือไม่ ได้เลื่อนการพิจารณาออกไปอีกราวครึ่งเดือน

เหตุตั้งใจ เหตุบังเอิญ จึงทำให้พรรคเพื่อไทยต้องถอยร่นทางการเมือง และมีเหตุผลให้ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เลื่อนการประชุมร่วมรัฐสภา วาระโหวตนายกฯ ออกไปจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

เวลาที่ยือเยื้อออกไป ส่งผลกระทบต่อ “งูเห่า” ที่คิดจะมารวมเสียงกับขั้วใหม่ 263 เสียง 

โดยมีกระแสข่าวมาระยะหนึ่งว่า “ธรรมนัส พรหมเผ่า” เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เตรียมหอบ 25 สส. พลังประชารัฐ มาช่วยโหวตให้ “เศรษฐา” แต่ความเคลื่อนไหวนี้ ไม่พ้นสายตา “ลุงป้อม” จึงทำให้บรรยากาศในมูลนิธิป่ารอยต่อฯ เมื่อเย็นวันที่ 2 ส.ค.อึมครึม ก่อนจะมีเสียงคำราม สั่งห้าม “งูเห่า” เลื้อยเข้าพรรคอื่น

“หากเราจะร่วมรัฐบาล เราต้องไปกันทั้งพรรค จะไม่มีใครออกไปทั้งนั้น” แหล่งข่าวอ้างคำพูด พล.อ.ประวิตร

เมื่อปฏิบัติการของผู้กองมนัส ไม่สำเร็จ สส.หลายราย จึงรีเช็คข่าวทันควัน ทว่า “ลูกทีมธรรมนัส” พยายามอธิบายกลับ และยืนยันว่า “ใครจะทิ้งลุงป้อมได้ลงคอ”

แม้ธรรมนัสจะยอมถอย และลูกทีมจะมีข้ออ้างเพื่อเอาตัวรอดไปได้ แต่อาการไม่พอใจของ “ลุงป้อม” อาจเก็บเรื่องนี้ไว้รอคิดบัญชีทีเดียว

เช่นเดียวกับกระแสข่าว สุชาติ ชมกลิ่น ที่เคลมตัวเลข 10 สส.ในสังกัด เปิดดีลซบพรรคภูมิใจไทย พร้อมทั้งเสนอตัวช่วย โหวตให้ “เศรษฐา”

มีกระแสข่าวจากพรรคค่ายสีแดงว่า “เสี่ยเฮ้ง” เคยส่งรายชื่อลูกทีม ให้ “บิ๊กเพื่อไทย” 8 ชื่อ และเคยส่งตัวเลข สส. ให้ “บิ๊กภูมิใจไทย” แต่เมื่อรีเช็คกันหลายครั้ง ปรากฏว่าตัวเลขเกินจริง

สส.ลูกทีมสุชาติ มีเพียง 3-5 เสียงเท่านั้น ได้แก่ “สุชาติ”เอง  ชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ สส.บัญชีรายชื่อ จิรวุฒิ สิงห์โตทอง สส.ชลบุรี

ส่วนอีก 2 เสียง จ.อ.อภิชาติ แก้วโกศล สส.เพชรบุรี  ธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ สส.เพชรบุรี ที่แม้ “สุชาติ” จะเป็นคนชักชวนมา แต่ระยะหลังเริ่มตีตัวออกห่าง

ด้าน 2 สส.ราชบุรี กุลวลี นพอมรบดี และอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เดินแยกทางจาก “สุชาติ” เรียบร้อยแล้ว

เมื่อ “2 ลุง” ประกาศกับลูกพรรคพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และจะไม่ให้ใครหักหลัง ดังนั้นทั้ง “ธรรมนัส-สุชาติ”ที่พยายามสร้างอาณาจักรของตัวเอง จากเสือซ่อนเล็บ ทำท่าจะกลายเป็นเสือลำบาก และอาจไม่มีที่ยืนในพรรค “2 ลุง”