ผู้ตรวจฯถกด่วน! ปมชง 'พิธา' ชิงนายกฯรอบ 2 อ้างเสนอญัตติซ้ำขัด รธน.หรือไม่

ผู้ตรวจฯถกด่วน! ปมชง 'พิธา' ชิงนายกฯรอบ 2 อ้างเสนอญัตติซ้ำขัด รธน.หรือไม่

ผู้ตรวจการแผ่นดินถกด่วน! เตรียมแถลงบ่ายวันนี้ ปมเสนอชื่อ 'พิธา' ชิงนายกฯรอบ 2 เป็นการเสนอญัตติซ้ำขัด รธน.หรือไม่ ลุ้นส่งศาล รธน.ตีความ

เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2566 มีรายงานข่าวจาก สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แจ้งว่า คณะกรรมการตรวจการแผ่นดิน ได้นัดประชุมด่วนช่วงเช้าวันนี้ เพื่อหารือวาระที่สำคัญ โดยคาดว่าน่าจะเป็นคำร้องของ 2 นักวิชาการที่ขอให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยการลงมติของที่ประชุมรัฐสภาว่าการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีรอบที่ 2 เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2566 ถือเป็นการเสนอญัตติซ้ำหรือไม่ และเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

กรณีนี้เกิดขึ้นหลังจาก นายพรชัย เทพปัญญา นักวิชาการอิสระ และนายบุญส่ง ชเลธร อาจารย์คณะนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 เข้าชื่อเพื่อขอให้เสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยว่าการที่ที่ประชุมรัฐสภา ในวันที่ 19 ก.ค.มีมติว่าการเสนอชื่อนายพิธา เพื่อให้สมาชิกรัฐสภาลงมติเป็นนายกรัฐมนตรี ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ข้อที่ 41 เป็นการเสนอญัตติซ้ำนั้นเป็นการกระทำที่ละเมิดต่อสิทธิและเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองไว้หรือไม่ และหากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องก็ขอให้มีคำสั่งไปยังที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาให้ยุติการเลือกนายกรัฐมนตรีออกไปก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

คำร้องของนักวิชาการทั้ง 2 ระบุว่า การลงมติของที่ประชุมรัฐสภาว่าไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธาซ้ำได้ เนื่องจากเป็นการเสนอญัตติซ้ำ โดยอ้างข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 41 มองว่ารัฐธรรมนูญกำหนดการเลือกนายกรัฐมนตรีไว้เป็นการเฉพาะตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 159 ประกอบมาตรา 272 และตราบใดที่กระบวนการเลือกเลือกนายกฯยังไม่เสร็จสิ้น ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีย่อมสามารถถูกเสนอชื่อได้เรื่อยๆ ดังนั้น มติที่ประชุมรัฐสภาจึงเท่ากับรัฐธรรมนูญถูกละเมิดโดยข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ 41 หรือไม่ จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

โดยเวลาประมาณ 14.30 น. ผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีการแถลงผลการประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การโหวตเลือกนายกฯ ครั้งที่ 3 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้นัดลงมติในวันที่ 27 ก.ค.นี้