2 สูตร ‘เพื่อไทย’ แกนนำตั้งรัฐบาล ทิ้ง‘ก.ก.’- ดีล‘ปชป.-ชทพ.’เติมเสียง

2 สูตร ‘เพื่อไทย’ แกนนำตั้งรัฐบาล ทิ้ง‘ก.ก.’- ดีล‘ปชป.-ชทพ.’เติมเสียง

สูตรของ “เพื่อไทย” ยังหวังหนีบ “ก้าวไกล” ให้อยู่ร่วมขั้วจัดตั้งรัฐบาล ยึดขั้ว 312 เสียงเอาไว้ เติมเสียงจาก ปชป. 25 เสียง ชทพ. 10 เสียง รวม 35 เสียง ก่อนจะเปิดดีล ส.ว. อีกอย่างน้อย 30 เสียง ว่ากันว่า “คีย์แมนเพื่อไทย” เปิดดีลเอาไว้แล้ว

สถานการณ์ทางการเมืองของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำในการรวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลในฝัน ผลักดัน “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ขึ้นสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรี กำลังเดินเข้าสู่ทางตัน

เนื่องจากเงื่อนล็อกทางการเมือง ที่ต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งในที่ประชุมร่วมรัฐสภา 750 เสียง ต้องได้ 376 เสียงขั้น โดย 8 พรรคมีอยู่ 312 เสียง ขาดอยู่ 64 เสียง ซึ่งมุ่งหวังจาก 250 ส.ว. จะช่วยออกเสียงโหวตให้

“พิธา” พยายามสื่อสาร เพื่อทอดไมตรี ไปยัง ส.ว. ส่งสัญญาณขอร่วมงานด้วยในช่วงเวลา 1 ปีที่เหลืออยู่ แม้อุดมคติทางการเมืองจะไม่ตรงกัน แต่สามารถช่วยกันขับเคลื่อนประเทศไทยให้เดินหน้าต่อไปได้ แต่ดูเหมือนท่าทีของ 250 ส.ว.พี่พร้อมให้โอกาส “พิธา-ก้าวไกล” อาจไม่เกิน 10 เสียง ส่วนใหญ่ยังอยู่ในที่ตั้ง รอ “สัญญาณพิเศษ” จาก “คนพิเศษ” ซึ่งไม่ได้ชื่อ “พิธา” อย่างแน่นอน

ในที่ประชุมหัวหน้า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เมื่อวันที่ 11 ก.ค. “เลขาฯต๋อม” ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ถูกรุมซักจาก 7 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โฟกัสหลักอยู่ที่พรรคเพื่อไทยที่เกณฑ์ขุนพลมาร่วมประชุมพร้อมหน้า มีเพียงคำถามเดียวคือ ได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว. แล้วกี่เสียง

“ผมถามเลขาฯ ต๋อมหลายครั้ง ก็บอกว่ามีเสียงจาก ส.ว. จำนวนหนึ่งแล้ว ซึ่งคาดว่าเพียงพอที่จะโหวตให้เรา แต่ผมถามว่ากี่คน เลขาฯต๋อมเขาไม่ยอมบอกตัวเลข เมื่อไม่บอกมา เราก็ให้เกียรติเขา ซึ่งก็ต้องรอดูวันโหวต” แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย ระบุ

แม้ “ขุนพลก้าวไกล” จะยืนยันต่อสาธารณะว่า เสียงจาก ส.ว. มีมาพอที่จะส่ง “พิธา” นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี แต่ในทางปฏิบัติยากเหลือเกินที่เสียงจาก ส.ว. จะโหวตให้ “พิธา” ถึงฝั่งฝัน
 

เพราะชั่วโมงนี้ “พิธา-ก้าวไกล” ถูก “เพื่อไทย” ปล่อยเกาะ ให้เดินหาเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. เพียงลำพัง จากเดิมที่เคยส่ง “บิ๊กเนม” ช่วงหาเสียง ส.ว. แต่เวลานี้ “บิ๊กเนมเพื่อไทย” ออกอาการเกียร์ว่าง

การโหวตเลือกผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 ก.ค. คงไม่มีพรรคการเมืองใดส่งชื่อมาโหวตแข่งกับ “พิธา” เพราะต้องรักษามารยาททางการเมือง ขอรอจังหวะอยู่ในที่ตั้ง แต่หากเข็น “พิธา” ไม่ถึงฝั่ง “เพื่อไทย” ในฐานะพรรคอันดับสอง ย่อมมีความชอบธรรมในการเป็นแกนนำรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล

สูตรของ “เพื่อไทย” ยังหวังหนีบ “ก้าวไกล” ให้อยู่ร่วมขั้วจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งหาก “ก้าวไกล” ยอมอยู่ร่วมขั้วด้วย จำนวนเสียงจะคงอยู่ที่ 312 เสียง ทำให้มีโอกาสที่จะส่งชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หรือ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน สองแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เข้ามาโหวตในที่ประชุมร่วมรัฐสภา

สูตรไฟเขียวให้ “ก้าวไกล” อยู่ร่วมรัฐบาลด้วย โจทย์จะไม่ต่างจากเดิมคือต้องการ 64 เสียง โดยมีกระแสข่าวว่า “เพื่อไทย” จะเปิดดีลดึงพรรคประชาธิปัตย์ 25 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง รวม 35 เสียง ก่อนจะเปิดดีล ส.ว. อีกอย่างน้อย 30 เสียง ซึ่งจะทำให้ “แพทองธาร-เศรษฐา” มีเสียงโหวตถึง 376 เสียง

ว่ากันว่า 30 เสียงจาก ส.ว. “คีย์แมนเพื่อไทย” เปิดดีลเอาไว้แล้ว หากจะต้องการให้โหวตในช่วงเวลาใดสามารถส่งสัญญาณบอกกันได้ อีกทั้งหากเช็คเสียง ส.ว. จากการโหวต “พิธา” ในรอบแรก ก็จะสามารถรู้ได้ว่ายังขาดเสียง ส.ว. อยู่เท่าไร ซึ่งสามารถหาเสียงเพิ่มเติมได้
 

อย่างไรก็ตาม ตัวแปรจะอยู่ที่ “ประชาธิปัตย์-ชาติไทยพัฒนา” จะเอาด้วยกับเพื่อไทยหรือไม่ หากยังผนึกกับขั้ว 188 เสียงอย่างเหนียวแน่น โอกาสเพื่อไทยก็เหลือน้อยลงเช่นกัน เพราะหากต้องหา 64 เสียงจาก ส.ว. โจทย์เพื่อไทยจะยากทวีคูณ

ขณะเดียวกันยังมีสูตร “เพื่อไทย” + ขั้ว 188 เสียง โดยจะรวมกันได้ 329 เสียง ทว่าในขั้ว 188 เสียง เพื่อไทยคงไม่เปิดโต๊ะดีลกับทุกพรรค โดยจะคัดมาเพียงบางพรรค เพื่อให้เสียง ส.ส. ในสภาอยู่ที่ 280-300 เสียง เพื่อให้มีเสถียรภาพทางการเมือง และลดแรงต่อรองทางการเมืองลงไปด้วย

สูตร “เพื่อไทย + ขั้ว 188 เสียง"จะต้องการเสียง ส.ว. เพียง 49 เสียง จะทำให้ได้คะแนนเสียงรวมเกิน 376 เสียง ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก เนื่องจากเงื่อนไขของ ส.ว. ถูกปลดล็อกออกแล้ว เมื่อไม่มี “ก้าวไกล” อยู่ในสมการจัดตั้งรัฐบาล

ต้องจับตาว่า “ทักษิณ-เพื่อไทย” จะเลือกเกมการเมืองอย่างไร เพราะหากหักหลัง “ก้าวไกล” จะมีตราบาปติดตัว ส่งผลเสียในอนาคต แต่หากหวังผลระยะสั้นการจับขั้ว 188 เสียง สามารถผลักดัน “แพทองธาร-เศรษฐา” ให้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีได้ไม่ยาก

การถอยฉากของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ประกาศวางมือทางการเมือง อาจเปิดประตูให้ “ทักษิณ-เพื่อไทย” ดีลพรรคขั้วรัฐบาลเดิมได้อย่างสบายใจ