"พิธา"​มั่นใจ เสียงส.ว. มากพอ หนุนนั่งนายกฯ

"พิธา"​มั่นใจ เสียงส.ว. มากพอ หนุนนั่งนายกฯ

"พิธา" มั่นใจเสียง "ส.ว." มากพอหนุนนั่งนายกฯ ซัด “ส.ว.” อย่าขืนมติ "ปชช.-สภาล่าง" ใช้ข้ออ้าง “ม.112” ขวางนั่งนายกฯ ย้ำไม่กังวล ศาลรธน.จ่อพิจารณา ยืนยันแก้กม.ไม่เท่ากับล้มล้างการปกครอง

เมื่อเวลา 09.30 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล นำ 149 ส.ส.พรรคก้าวไกล เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาฯ โดยใช้การเดินทางมาเป็นคณะ ด้วยรถโดยสารไม่ประจำทาง ทั้งนี้พบว่ามีแฟนคลับ “ด้อมส้ม” มาให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง และระหว่างที่นายพิธานำคณะส.ส.มายังสถานที่รับรายงานตัวพบว่าได้รับเสียงกรี๊ดให้กำลังใจจาก นักศึกษาที่มาช่วยงานสำนักงานเลขาธิการสภาฯและข้าราชการจำนวนหนึ่ง

\"พิธา\"​มั่นใจ เสียงส.ว. มากพอ หนุนนั่งนายกฯ

 

ทั้งนี้นายพิธา ให้สัมภาษณ์ว่าเหตุที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล มารายงานตัววันนี้ (27 มิถุนายน ) เพราะมีความสำคัญกับประวัติศาสตร์ชาติไทย  และก่อนหน้านั้นตนติดโควิด-19

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ ที่ล่าสุดยังมีข่าวว่า ส.ว. จะไม่โหวตสนับสนุนให้เป็นนายกฯ  นายพิธา กล่าวว่า ไม่กังวล และเท่าที่คุยหลายคนมีหลักและดุลยพินิจในการโหวตเลือกตามบรรทัดฐานที่ส.ว.ที่ทำไว้ปี 2562  ว่า หากสภาล่าง ฝ่ายใดรวมกันได้ 251 เสียง ก็ไม่ต้องการฝืนมติของสภาล่าง เพราะเป็นมติที่มาจากประชาชน  ดังนั้นจึงเชื่อว่า ภาพรวม  250 ส.ว. จะเป็นไปตามหลักการและขอให้ส.ว. ยึดหลักการดังกล่าวให้มั่นมากกว่ามองเรื่องตัวบุคคลว่าจะโหวตให้ตนหรือไม่

 

“การเจรจามีความคืบหน้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้พรรคมีความตั้งใจทลายกำแพงของ2สภา แน่นอนว่า ที่มีคนออกมาพูดว่าคนที่เคยสนับสนุนนั้นถอยแล้ว ผมมองว่าเป็นเพราะส.ว.ทุกคนไม่มีโอกาสได้พูดกับสื่อมวลชน  มีส.ว.ไม่กี่คน ไม่ว่าจะฝั่งเห็นด้วยโหวตตนเป็นนายกฯ หรือ ฝั่งที่อยู่ตรงข้าม ดังนั้นต้องรอเวลา อย่างไรก็ดีจากการโทรศัพท์พูดคุยส.ว. ส่วนใหญ่เป็นเรื่องหลักการ ตามการโหวตนายกฯ ปี2562 เมื่อสภาฯล่างรวมเสียงได้มาก ไม่ควรมีใครมาขืน” นายพิธา กล่าว

\"พิธา\"​มั่นใจ เสียงส.ว. มากพอ หนุนนั่งนายกฯ

เมื่อถามย้ำถึงจำนวนเสียง ส.ว.ที่จะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ นายพิธา กล่าวว่า “เพียงพอที่จะทำให้ผมเป็นนายกฯ”

เมื่อถามถึงกรณีที่ส.ว.ยังคาใจกับการแก้ไขมาตรา 112 พรรคก้าวไกลจะถอดสลักดังกล่าวเพื่อบรรลุเป้าหมายของการได้ตำแหน่งนายกฯหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า การแก้ไขมาตราดังกล่าวเป็นสิ่งที่พรรคได้พูดก่อนการเลือกตั้งที่ชัดเจนว่าจะเป็นการทางออกให้กับสังคมไทย เพราะช่วงที่ผ่านมามีการใช้มาตราดังกล่าวเป็นเครื่องมือทางการเมืองรังแกคนเห็นต่าง จึงไม่เป็นผลดีกับสถาบันใดเลย อย่างไรก็ดี ตนเชื่อว่าประเด็นดังกล่าวจะไม่เป็นเหตุให้เส้นทางการจัดตั้งรัฐบาลสะดุด

 

 

“มีข้อมูลมีหลายฝ่ายที่ยังเข้าใจผิดเกี่ยว เพราะการแก้ไข คือ การแก้ไข ไม่ใช่การยกเลิก เท่าที่ได้คุยกับวุฒิสภา ทำให้เขาเข้าใจมากขึ้น ว่าการรักษาปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับประเทศไทยที่กำลังเปลี่ยนผ่าน” นายพิธา กล่าว

 

 

ถามย้ำว่า หากเรื่องการแก้ไข มาตรา 112 ทำให้ไปไม่ถึงนายกฯ วางแผนไว้อย่างไร นายพิธา กล่าวว่า หากมีเป็นเรื่องน่ากังวลใจ เพราะถือเป็นการนำเสียงของประชาชน ปะทะกับสถาบันโดยตรงไม่เหมาะสมและอันตราย ดังนั้น อย่านำเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างอีกเลย ทั้งนี้มีหลายเรื่องที่เห็นตรงกันจำนวนมาก ที่ต้องบริหารจัดการ

 

 

เมื่อถามถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีประเด็นพิจารณาคำร้องเกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล กังวลหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่กังวลใจเพราะเป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญกับอัยการสูงสุด  การแก้ไขกฎหมายฉบับหนึ่งไม่เท่ากับการล้มล้างการปกครอง ตามที่กล่าวหาและคิดว่าข้อกล่าวหานี้เกินจริงไปมาก ทั้งนี้ยืนยันว่ามีความตั้งใจที่จะรักษาระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อย่างหนักแน่น

 

“ผมเชื่อว่าไม่เป็นไปอย่างที่เป็นข่าวที่ว่าจะนำเรื่องมาตรา 112 เป็นข้ออ้างที่จะไม่ทำมติของสภาฯ ล่าง จึงไม่เป็นประเด็นอะไร”นายพิธา กล่าว

 

 

เมื่อถามถึงข้อสรุปของตำแหน่งประธานสภาฯ​ที่พรรคก้าวไกลยืนยันมาตลอด นายพิธา กล่าวว่า ขอให้รอในวันที่ 28 มิถุนายน ที่จะประชุมร่วมกับพรรคเพื่อไทย และจะแถลงเรื่องดังกล่าว.