"สมชาย" บี้ กกต. ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ขาดคุณสมบัติ "พิธา"

"สมชาย" บี้ กกต. ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ขาดคุณสมบัติ "พิธา"

"สมชาย" โพสต์ปริศนาธรรม หุ้นITV บี้"กกต." ยื่นศาลรธน.ตีความคุณสมบัติ "พิธา" ยกมาตรฐานคำร้อง "ธนาธร" พร้อมขอให้ตรวจคำวินิจฉัยอนุญาโตตุลาการ ฟื้น ITV

นายสมชาย แสวงการ ส.ว.โพสต์เฟซบุ๊กเพื่อเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สรุปคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยชี้ขาดคุณสมบัติของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯจากพรรคก้าวไกล กรณีถือครองหุ้นITV โดยมีรายละเอียด คือ 

 

"ปริศนาธรรมการเมืองเรื่องหุ้นไอทีวี"

"กกต.ควรเร่งสรุปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยเป็นที่สุดและตรวจสอบคำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการที่ทำให้ไอทีวีฟื้นคืนชีพ ด้วยเหตุผลดังนี้"

1.รัฐธรรมนูญ2560 มาตรา82 วรรคท้ายระบุว่า “กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง เห็นว่าสมาชิกภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภามีเหตุสิ้นสุดลงตามวรรคหนึ่ง ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย”

 

ดังนั้น เมื่อกกต.รับรองสมาชิกภาพส.ส.แล้ว  มีเหตุผู้ร้องเรียนและกกต.ตั้งคณะกรรมการไต่สวน ควรเร่งพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่า นายพิธา  มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา98(3) ห้ามถือหุ้นสื่อ อันเป็นการขาดสมาชิกภาพส.ส ตามมาตรา101(6) และมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา98หรือไม่  

นายสมชาย ระบุอีกว่า ขอให้ยึดหลักเดียวกับการยื่นคดีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คือขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยและสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ระหว่างรอคำวินิจฉัยด้วย ส่วนแคนดิเดตผู้สมัครนายกรัฐมนตรี จะต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา98 หรือไม่  กกต.ควรร้องไปศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในคราวเดียวกัน จะเป็นประโยชน์การยื่นฟ้องเสียในคราวเดียวกัน

 2.กกต.ควรตรวจสอบคำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเรื่องที่ไอทีวีฟ้องสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีที่มีคำวินิจฉัยชี้ขาด วันที่ 14ม.ค.2559 ที่ไอทีวีเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหาย และให้บริษัทกลับเข้าดำเนินการสถานีโทรทัศน์ ระบบยูเอชเอฟ  โดยใช้คลื่นความถี่และทรัพย์สินอุปกรณ์เครือข่ายเดิมต่อไป จนครบกำหนดระยะเวลาสัญญาอนุญาต

 

"อนุญาโตตุลาการมีคำวินิจฉัยว่า การบอกเลิกสัญญาอนุญาตของสำนักงานปลัดฯไม่ชอบด้วยกฎหมาย  คำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเรื่องนี้ และคำพิพากษาศาลปกครอง มีความสำคัญต้องพิจารณาว่า ไอทีวีชนะคดีจากสำนักปลัดฯแล้ว และการขอให้เข้าดำเนินการในสถานีโทรทัศน์ ยูเอชเอฟเดิมนั้น ทำให้ไอทีวีที่มีวัตถุประสงค์สื่อชัดเจน และยังไม่ได้จดทะเบียนเลิกกิจการได้รับชัยชนะในคำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการให้ไอทีวีกลับเข้าดำเนินการในสถานีโทรทัศน์ยูเอชเอฟ เดิมได้ จึงมีประเด็นข้อพิจารณาว่า ไอทีวีน่าจะยังเป็นผู้การประกอบกิจการ หรือเตรียมประกอบกิจการสื่อมวลชนที่ยังไม่ได้ยกเลิกใช่หรือไม่" นายสมชาย ระบุ