ทหาร เบรค ประชามติ แยกดินแดนปาตานี ทำไม่ได้

ทหาร เบรค ประชามติ แยกดินแดนปาตานี ทำไม่ได้

กอ.รมน.ภาค 4 . ออกแถลงการณ์ แจงกรณี"ขบวนนักศึกษาแห่งชาติ" จัดปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “การกำหนดอนาคตตนเอง” ร่วมกับว่าที่ส.ส.พรรคก้าวไกลและนักการเมืองบางส่วน ชี้ ประชามติ "แยกดินแดนปาตานี" ทำไม่ได้

9 มิถุนายน 2566  ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังมีงานเปิดตัว "ขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ"  ที่ม.อ.ปัตตานี  พร้อมกับมีกิจกรรมการทำ ประชามติ "แยกดินแดนปัตตานี"  ล่าสุด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หรือ "กอ.รมน.ภาค 4 สน."  ได้ออกแถลงการณ์ต่อการจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวดังกล่าว 


แถลงการณ์มีเนื้อหาดังนี้  ตามที่ได้มีการจัดงานเปิดตัว ขบวนนักศึกษาแห่งชาติ (Pelajar Kebangsaan) เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2566  ณ  ห้องประชุมศรีวังสา คณะรัฐศาสตร์ มอ.ปัตตานี โดยภายในงานได้มีการกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "การกำหนดอนาคตตนเอง (Self Determination) กับสันติภาพปาตานี" 

รวมทั้งได้มีการจัดพิมพ์บัตรเพื่อร่วมแสดงความเห็นผ่านสื่อโซเชียลในประเด็น "ให้ประชาชนปาตานีสามารถออกเสียงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชได้อย่างถูกกฎหมาย" ซึ่งได้สร้างความวิตกกังวลและตื่นตระหนกของประชาชนในสังคมอย่างกว้างขวาง

จากกรณีดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้เข้าทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อมูลเชิงลึกอย่างรอบด้านแล้วพบว่า ขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ (pelajar Bangsa) เป็นองค์กรเคลื่อนไหวทางการเมืองจัดตั้งขึ้นจากการรวมตัวของนิสิตนักศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้เคลื่อนไหวเรียกร้องในเรื่องสิทธิในการกำหนดใจตนเอง (right to self determination) ทั้งในและนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาอย่างต่อเนื่อง และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อองค์กรเป็นขบวนการนักศึกษาแห่งชาติเมื่อ 31 พฤษภาคม 2566


โดยมี "นายอิรฟาน  อุมา" เป็นประธานขบวนการนักศึกษาแห่งชาติคนปัจจุบัน สำหรับการจัดกิจกรรมเมื่อ 7 มิถุนายน 2566 พบว่าเป็นการเปิดตัวขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ โดยมีนักการเมือง, สมาชิกพรรคการเมือง, นักวิชาการรวมทั้งเครือข่ายนักศึกษาเข้าร่วมและสนับสนุนกิจกรรมจำนวนหนึ่ง

โดยจากการตรวจสอบรายละเอียดของกิจกรรมพบว่ามีหลายประเด็นที่ล่อแหลมหมิ่นเหม่และอาจเข้าข่ายต่อการละเมิดหลักกฏหมาย โดยขอยืนยันว่าภาครัฐได้ส่งเสริมและสนับสนุนสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกและแสดงความคิดเห็นทางการเมืองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของปวงชนชาวไทยทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา

โดยไม่เลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ แต่การแสดงออกดังกล่าวจะต้องไม่ไปละเมิดต่อหลักกฏหมายและบูรณภาพแห่งดินแดนที่ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่ได้ระบุไว้ว่า

"ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้" ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าการลงประชามติเพื่อแยกตัวเป็นเอกราช ไม่สามารถกระทำได้

เพราะเป็นการละเมิดกฏหมายและบูรณภาพแห่งดินแดนและเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งรัฐ โดยปัจจุบันเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ที่ได้กำหนดไว้ตามความเหมาะสมต่อไป 

ขอรับรองว่าเป็นข่าวสารทางราชการ

พลตรี ปราโมทย์  พรหมอินทร์

รองแม่ทัพภาคที่ 4 / โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4