"กมธ.การเมือง" ชี้ รัฐบาลแห่งชาติ รอเวลาเกิด หลัง เลือกนายกฯในบช.ไม่ได้

"กมธ.การเมือง" ชี้ รัฐบาลแห่งชาติ รอเวลาเกิด หลัง เลือกนายกฯในบช.ไม่ได้

"ประธานกมธ.การเมือง" วุฒิสภา มอง "จเด็จ" หวังดี ชงตั้งรัฐบาลแห่งชาติ -ไร้เจตนาแอบแฝง ประเมินช่องทางเกิดได้ตาม ม.272วรรคสอง แต่รอจังหวะเลือกนายกฯในบัญชีพรรค ไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายว่า คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. เป็นประธานกมธ. ได้นัดประชุมเพื่อหารือถึงข้อเสนอทางการเมือง   ต่อประเด็น การตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ตามที่นายจเด็จ อินสว่าง ส.ว. ฐานะรองประธานกมธ.ฯ เสนอ ให้ทุกพรรคที่รับเลือกตั้ง ตั้งรัฐบาลทำงานร่วมกัน

 

 

ทั้งนี้เวลา 12.30 น. นายเสรี  แถลงการประชุมว่า ที่ประชุมได้รับฟังความเห็นของนายจเด็จต่อข้อเสนอดังกล่าวและมองว่าเป็นการมองการณ์ไกลและไม่ใช่เจตนาร้าย แต่เป็นความหวังดี เพื่อแก้ปัญหาวิกฤต การเลือกนายกฯ ที่อาจมีข้อขัดแย้ง ประเด็นคุณสมบัติการเป็นผู้สมัคร ส.ส. การถือหุ้นสื่อมวลชน รวมถึงนโยบาย ที่มีประเด็นความมั่นคง ต่างประเทศที่ให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซง ปัญหาเศรษฐกิจ การบริหารการคลัง รวมถึงการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112  การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ที่มีผลกระทบหมวด1, หมวด 2  ที่กระทบต่อความมั่นคงและสถาบันเบื้องสูง ซี่งอาจกลายเป็นปัญหาบ้านเมืองได้

“ข้อเสนอดังกล่าวเป็นไปได้ยาก เพราะเป็นเรื่องนอกรัฐธรรมนูญและ 18 ปีที่ผ่านมา เกิดข้อเสนอรัฐบาลแห่งชาติ 8 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ อย่างไรก็ดีการสร้างความปรองดอง กมธ.มองว่าจะเกิดขึ้นได้ ต้องได้รับความเห็นพ้องจากทุกฝ่าย โดยมีแนวทาง ที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ คือ มาตรา 272 วรรคสองว่า ด้วยการเห็นพ้องของที่ประชุมรัฐสภา 2 ใน 3 หรือ 500 เสียง ที่ร่วมเว้นบทบัญญัติใช้แคนดิเดตนายกฯ ในบัญชีของพรรคการเมือง หรือ เปิดช่องให้นายกฯ คนนอก ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นไปได้ยาก เว้นแต่ พรรคใหญ่ ทั้ง พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าาวไกล เห็นชอบร่วมกัน จะง่ายที่เกิดนายกคนนอก ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 วรรคสอง  โดยผมมองว่ากระบวนการที่ได้รับความร่วมมือร่วมใจนั้นไม่ต่างจากรัฐบาลแห่งชาติ” นายเสรี กล่าว

นายเสรี กล่าวด้วยว่า กรรมาธิการฯ เห็นว่าโอกาสที่จะเสนออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถเลือกนายกฯ ได้ตามมาตรา 272 วรรคหนึ่ง แต่การจะแก้ปัญหาต้องได้รับความร่วมมือจากทุกพรรค ทุกฝ่าย ตามมาตรา 272 วรรคสองดังนั้นเป็นทางที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตและคนมองข้ามไป แต่นายจเด็จมองเห็นอนาคตต้องการให้เกิดความปรองดอง สามัคคคี ไม่มีอะไรแอบแฝงใดๆ ทั้งสิ้น.