ปธ.กกต.เตือนเลี่ยงหาเสียงใกล้สถานที่เลือกตั้งล่วงหน้า เสี่ยงขัดกฎหมาย

ปธ.กกต.เตือนเลี่ยงหาเสียงใกล้สถานที่เลือกตั้งล่วงหน้า เสี่ยงขัดกฎหมาย

กกต. ประชุมออนไลน์ พิจารณาสิทธิของคนไทยจากซูดาน ได้เลือกตั้ง 14 พ.ค. “อิทธิพร” ออกโรงเตือนพรรคการเมือง เลี่ยงหาเสียงใกล้สถานที่เลือกตั้งล่วงหน้า 7 พ.ค. เสี่ยงขัดกฎหมาย

เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2566 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า กกต. จะประชุมทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ในวันนี้ เพื่อพิจารณาลงมติว่า ชาวไทยที่อพยพกลับจากประเทศซูดาน เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา แล้วลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรไว้แล้ว จะสามารถใช้สิทธิเลือกตั้งตามกฎหมายในวันที่ 14 พ.ค. นี้ ได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 24 เม.ย.-5 พ.ค. 2566 โดยเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา บัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจากกรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก และกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ถูกส่งมาถึงประเทศไทยแล้ว 

นายอิทธิพร กล่าวว่า ส่วนของแอลเอ สหรัฐอมเริกา จะมาถึงในวันนี้ (29 เม.ย.) โดยวันสุดท้ายที่บัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจะถูกส่งมาถึงไทย คือวันที่ 9 พ.ค. นี้ หรือในบางประเทศส่งเพิ่มเติมไม่เกินวันที่ 12 พ.ค. เพื่อให้ส่งกลับทันไปยังจุดต่างๆ 400 เขตทั่วประเทศ ทั้งนี้มีการปรับแผนความเข้มงวดการติดตั้งถุงเมล์บัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร หลังมีบทเรียนการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่บัตรเลือกตั้งถูกส่งมาไม่ทัน โดยมีระบบติดตามการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร (โอวีเอ็มเอส) ซึ่งจะแจ้งสถานะและพิกัดของถุงเมล์บัตรเลือกตั้งนอกราชทุกขั้นตอน นอกจากนี้ จุดไหนที่มีความเสี่ยง อาทิ จุดที่ต้องมีการเปลี่ยนผ่านเครื่องบิน กระทรวงการต่างประเทศได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้ถือถุงเมล์ นำมาส่งที่ประเทศไทยเอง โดยมีกรณีเช่นนี้จำนวน 13 ประเทศ

“อย่างที่บัตรเลือกตั้งออกมาจากนครมิวนิก ประเทศเยอรมนี จะมีข้อมูลว่าออกมากี่โมง เป็นไปตามกำหนดการหรือไม่ รวมถึงขั้นตอนการเดินทางจนถึงปลายทางทีกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย และระบุผู้ติดตามถุงเมล์จากกระทรวงการต่างประเทศ ว่ามีใครบ้าง มีรายชื่อผู้รับ และนำมาส่งที่ไปรษณีย์ไทยใช่ไหม เราจะมีการติดตามตลอด และ กกต. มีคนนั่งที่ศูนย์ติดตามด้วย” นายอิทธิพร กล่าว

นายอิทธิพร กล่าวด้วยว่า กกต. ขอเน้นย้ำถึงความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และในห้วงเวลาอีกประมาณ 15 วัน ก่อนถึงวันเลือกตั้ง 14 พ.ค. หรืออีก 7 วันก่อนเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 7 พ.ค. กกต. มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งที่ยังเป็นไปตามแผนการดำเนินการ สำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 7 พ.ค. นี้ จะต้องไปใช้เสร็จในวันดังกล่าวเท่านั้น ไม่สามารถไปใช้สิทธิได้ในวันที่ 14 พ.ค. หากไม่ได้ไปใช้สิทธิในวันที่ 7 พ.ค. จะต้องแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ตามช่องทางตามกฎหมาย หรือแอปพลิเคชัน “สมาร์ตโหวต” ช่วง 7 วันก่อนเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 8-13 พ.ค. หรือ 7 วันหลังก่อนการเลือกตั้ง 15-21 พ.ค. ส่วนการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 7 พ.ค. ได้จัดสถานที่ไว้ทั้งหมด 447 แห่ง ใน 77 จังหวัด และในวันเลือกตั้งล่วงหน้านั้น พรรคการเมืองสามารถหาเสียงได้ตามปกติ แต่ห้ามไปหาเสียงในบริเวณใกล้สถานที่เลือกตั้ง หรือหลีกเลี่ยงหาเสียงในบริเวณหน่วยเลือกตั้ง เนื่องจากอาจจะเข้าข่ายขัดต่อกฎหมาย