“เลขาฯ รทสช.” ชู ผลงาน “ประยุทธ์” จ่อสำเร็จเพียบ หวั่น บางพรรค กู้ แจกถ้วนหน้า

“เลขาฯ รทสช.” ชู ผลงาน “ประยุทธ์” จ่อสำเร็จเพียบ หวั่น บางพรรค กู้ แจกถ้วนหน้า

“เอกนัฏ” ยัน “ประยุทธ์” กันเอง ไม่ได้เข้าถึงยาก เป็นคนธรรมดาทั่วไป เปิดใจจะเห็นความตั้งใจจริง ชี้ ผลงานหลายกำลังจะสำเร็จ ชู “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐพลัส” ตรงกลุ่มเปราะบาง ข้องใจ บางพรรค แจกหว่าน ใช้งบมหาศาล กว่า 5 แสนล้าน ไม่มั่นใจทำได้จริง หากไม่กู้ หวั่น พวกพ้องเข้ามาหากิน

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า กรณีที่หลายคนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือการเดินหน้าสู่การเป็นนักการเมืองอย่างเต็มตัว คอยวิจารณ์กระแนะกระแหนว่าคนที่เป็นทหารมาตลอดชีวิต ไม่สามารถเข้าถึงประชาชนได้ แต่ทุกวันนี้การกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถตอบคำถามทุกอย่างได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่คนเข้าถึงยาก พอเปิดตัวทุกคนก็ได้เห็นบุคลิกที่เป็นกันเอง แต่ก่อนหน้านี้เพียงแต่มุ่งมั่นตั้งใจทำงานให้ประชาชนในฐานะฝ่ายบริหาร จนบุคลิกด้านนี้ไม่ได้เปิดออกมาให้ประชาชนได้เห็น

“เลขาฯ รทสช.” ชู ผลงาน “ประยุทธ์” จ่อสำเร็จเพียบ หวั่น บางพรรค กู้ แจกถ้วนหน้า

“ใครได้ติดตามการลงพื้นที่ช่วงนี้ของพล.อ.ประยุทธ์ จะยิ่งเห็นความเป็นกันเอง เป็นคนธรรมดาเหมือนคนทั่วไป เชื่อว่าหากใครยังตั้งคำถาม ขอแค่เปิดใจก็จะมองเห็นความตั้งใจจริงของพล.อ.ประยุทธ์ ในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน” นายเอกนัฏ กล่าว

นายเอกนัฏ กล่าวว่า ผลงานของรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ผ่านมาหลายอย่างกำลังจะสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงินให้ประเทศไทยกลายเป็นสังคมไร้เงินสด การสร้างรถไฟฟ้าทั่ว กทม. คมนาคมขนส่งทั่วประเทศ และความตั้งใจสานงานต่อที่ทำมาแล้วเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน คำถามที่หลายคนออกมาวิจารณ์ว่าทำมาแล้ว 8 ปีอีก 2 ปีจะทำให้สำเร็จได้อย่างไร อยากให้ลองนึกภาพการสร้างบ้านที่วางรากฐานไว้แล้วตอนนี้เหลือเพียงการฉาบปูน และตกแต่ง นี่คือสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งใจเพื่อการทำงานที่ผ่านมาให้สำเร็จ 

นายเอกนัฎ กล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายของ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ฝ่ายตรงข้ามมักจะวิจารณ์คือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐพลัส หรือบัตรลุงตู่พลัส โครงการนี้รัฐบาลดำเนินการมาแล้วเป็นระยะเวลานาน ตรงไปยังกลุ่มเปราะบางเพื่อทำให้เขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ การเพิ่มวงเงินสิทธิประโยชน์ที่เป็นไปตามการสำรวจความต้องการของประชาชนกลุ่มนี้ ก็จะยิ่งทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น แตกต่างจากนโยบายของบางพรรค ที่ประกาศจะให้เงินทุกคน โดยใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในคราวเดียว นโยบายเช่นนี้ไม่มีใครมั่นใจว่าจะทำได้จริง แม้ย้ำแล้วย้ำอีกว่าสามารถดำเนินการได้ แต่หากดูตัวเลขงบประมาณในปี 2567 ซึ่งกำหนดกรอบไว้แล้ว ก็จะเหลืออยู่เพียง2 แสนล้านบาท ไม่เพียงพอต่อการดำเนินนโยบายที่ต้องใช้เม็ดเงินถึงมากกว่า 5 แสนล้านบาทอย่างแน่นอน

“ไม่ต้องให้นักเศรษฐศาสตร์ที่ไหนมาวิเคราะห์ แค่คนทั่วไปก็มองออกว่า โครงการที่ใช้เงินถึงมากกว่า 5 แสนล้านบาท ถ้าไม่กู้เงินไม่สามาถเกิดขึ้นได้จริง ก็อยากให้ประชาชนพิจารณาตัดสินใจเลือกพรรคที่นำเสนอนนโยบายที่จับต้องได้จริง และไม่กระทบวินัยการเงินการคลังมากกว่าพรรคการเมืองที่ขายฝัน ที่สำคัญยังเป็นฝันที่อาจเข้ามาหาประโยชน์จากโครงการเหมือนในอดีตที่ผ่านมา เพราะไม่ว่าจะดำเนินโครงการอะไร คนกลุ่มนี้ก็มีช่องทางหาประโชนน์ให้พวกพ้องได้ทุกครั้ง” นายเอกนัฏ กล่าว