ศึกเมืองคอนเดิมพัน “เดชเดโช” ตระกูลเก่า -รทสช. จ้องถอนแค้น

ศึกเมืองคอนเดิมพัน “เดชเดโช” ตระกูลเก่า -รทสช. จ้องถอนแค้น

ความน่าจะเป็นในสนามเลือกตั้ง “เมืองคอน” ต้องรอติดตามว่า “ชัยชนะ” จะพาลูกทีมบ้านใหญ่ “เดชเดโช” เข้าวินได้มากน้อยเพียงใด เช่นเดียวกับตระกูลเก่า “เมืองคอน” ที่หนุนหลังผู้สมัคร ส.ส. พรรครวมไทยสร้างชาติ จะถอนแค้นตระกูลเดชเดโชได้หรือไม่

ศึกชิง “เมืองคอน” เที่ยวนี้ ดุเดือดเลือดพล่าน จากเดิมที่พรรคประชาธิปัตย์ บริหารคน บริหารพื้นที่ ด้วยการมัดรวมให้ตระกูลใหญ่อยู่ร่วมกันได้ โดยแบ่งโซน แบ่งพื้นที่ ให้แยกกันรับผิดชอบ จังหวัดนครศรีธรรมราชจึงไม่มีบ้านใหญ่

แต่การเลือกตั้งปี 2562 โดนกระแส “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โถมเข้าใส่ จนเสียเก้าอี้ ส.ส. ให้พรรคพลังประชารัฐไป 3 ที่นั่ง จาก 8 ที่นั่ง แถม “บิ๊กเนมบางคน” ยังพ่ายแพ้แบบเหลือเชื่อ

มาคราวนี้ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มอบหมาย “เสี่ยแทน” ชัยชนะ เดชเดโช คัดเลือกผู้สมัคร และดูแลพื้นที่เมืองคอน วางเป้าหมายโกย ส.ส.เข้าสภา หวังต่อยอดสู่เก้าอี้รัฐมนตรี 

ทว่า ฟากฝั่ง “บิ๊กตู่” หมายมั่นจะยึดเมืองคอนไม่ต่างกัน ด้วยกระแสตัวบุคคลที่มีคะแนนนิยมเหนือกว่าคู่แข่ง แถมตัว “ผู้สมัคร ส.ส.” ดีกรี ดีกว่าการเลือกตั้งปี 2562 จึงมั่นใจเกิน 100 

ด้าน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แม้จะไม่มีกระแสในพื้นที่ แต่หวังอาศัยเครือข่าย ส.ส. เก่า เพื่อรักษาเก้าอี้ นี้ไว้ให้ได้

เขต 1 “รงค์ บุญสวยขวัญ” จากพลังประชารัฐ แชมป์เก่า ลงป้องกันแชมป์ โดยคะแนนส่วนตัวของ “รงค์” อยู่ในเกณฑ์ดี แต่กระแส “ลุงป้อม-พลังประชารัฐ” ไม่ค่อยช่วยเกื้อหนุนสักเท่าไร ทำให้ “รงค์” ต้องออกแรงหนักหลายเท่าตัว

ส่วนคู่แข่งโฟกัสไปที่ “ราชิต สุดพุ่ม” อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีทีมงานในพื้นที่เข้มแข็ง กำลังเร่งสร้างคะแนนส่วนตัว บวกกับฐานคะแนนพรรค ทำให้ “ราชิต” มีแต้มเบียดกับ “รงค์” อย่างสูสี

ฝั่งพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่ง “พูน แก้วภราดัย” ลูกชาย “วิทยา แก้วภราดัย” ลงชิง แต่เขต 1 ไม่ใช่พื้นที่ของตระกูลแก้วภราดัย ทำให้ “พูน” มีคะแนนตามมาห่างๆ ซึ่งแต้มส่วนตัวยากที่จะเอาชนะคู่แข่ง จึงต้องลุ้นกระแส “ลุงตู่” ช่วยพลิกเกม
 

เขต 2 “สายัณห์ ยุติธรรม” เจ้าของพื้นที่เดิม แม้จะมีการแบ่งเขตใหม่ ย้ายค่ายจากจากพรรคพลังประชารัฐไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ อีกทั้งพื้นที่ฐานคะแนนหลักของ “สายัณห์” ถูกแยกไปอยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 3 ทำให้ “ทรงศักดิ์  มุสิกอง” นายก อบต.ปากนคร จากประชาธิปัตย์พอมีหวังที่จะเบียดเข้ามาได้

แต่ยี่ห้อ “สายัณห์” การทำพื้นที่ค่อนข้างเหนียวแน่น จัดวางเครือข่ายค่อนข้างปึ้ก แถมมีกระแส “ลุงตู่” คอยเกื้อหนุน แต่ก็ประมาท “ทรงศักดิ์” ไม่ได้เช่นกัน เพราะเครือข่ายของ “เสี่ยแทน” เอง ก็คอยบริหารจัดการงานหลังบ้านให้

เขต 3 “สัณหพจน์ สุขศรีเมือง” จากพรรคพลังประชารัฐ หวังป้องกันแชมป์ให้ได้ พอมีกระแสตอบรับจากมวลชนในพื้นที่ แต่ก็ต้องเจอศึกหนัก เพราะไม่มีกระแส “ลุงตู่” เป็นแรงส่ง  

ที่สำคัญบ้านใหญ่ “เดชเดโช” เอาจริง เมื่อ “เสี่ยแทน” ส่งน้องชายสุดเลิฟ “พิทักษ์เดช เดชเดโช” ลงมาท้าชิงเก้าอี้ ส.ส. เขต 3 ดังนั้น ทุกสรรพกำลังจึงถูกนำมาทุ่มในพื้นที่นี้

ขณะเดียวกันพรรครวมไทยสร้างชาติส่ง “นนทิวรรธน์ นนทภักดิ์” อดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปากพนัง มีเครือข่ายมูลนิธินครอาสาคอยสนับสนุน เนื่องจากเดินสายทำพื้นที่ร่วมกับจิตอาสาเมืองคอนมายาวนาน
 

เขต 4 ศึกชำระหนี้แค้นโดยตรง เมื่อ “อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” จากค่ายพลังประชารัฐ เคยเอาชนะ “พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์” น้องชายของ “เทพไท เสนพงศ์” จากการเลือกตั้งซ่อมช่วงต้นปี 2564

โดยขณะนั้น “พงศ์สินธุ์” สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แต่คราวนี้ย้ายมาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วน “อาญาสิทธิ์” ย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย ขณะเดียวกัน บ้านใหญ่เดชเดโช ส่ง “ยุทธการ รัตนมาศ” เด็กในคาถาของ “เสี่ยแทน” มาชิงเก้าอี้ ส.ส.

เขตนี้วัดกันตัวต่อตัวระหว่าง “อาญาสิทธิ์” กับ “พงศ์สินธุ์” ซึ่งถือเป็นเดิมพันใหญ่ของตระกูลเสนพงศ์ ที่ต้องการกอบกู้ศักดิ์ศรีจากที่เคยแพ้ในสนามเลือกตั้งซ่อม

เขต 5 เดิมพันครั้งสำคัญของ “เสี่ยแทน” ชัยชนะ เดชเดโช จากประชาธิปัตย์ เครือข่ายฐานเสียงค่อนข้างแน่นอน แม้พรรครวมไทยสร้างชาติจะส่ง “สนั่น พิบูลย์” อดีตสจ. มาลงแข่ง แต่อาจจะเข้ามาประกบไม่ให้ “เสี่ยแทน” ทิ้งพื้นที่ไปช่วยผู้สมัครเขตอื่นได้อย่างสบายใจนัก 

เขต 6 “ดร.โก้” ฉัตรชัย ธนาวุฒิ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ แข่งกับผู้อาวุโสแชมป์เก่า “ประกอบ รัตนพันธ์” อดีตส.ส.หลายสมัย จากพรรคประชาธิปัตย์ แม้กระแส “ลุงตู่” มาแรง แต่ “ประกอบ” ยังมีฐานเสียงที่เหนียวแน่น คะแนนจัดตั้งค่อนข้างหายห่วง จึงไม่หวั่นกระแสที่จะช่วย “ฉัตรชัย” ได้

แต่ “ประกอบ” ไม่ประมาท เพราะกระแส “ลุงตู่” อาจจะทำให้เกมพลิกได้เช่นกัน จึงวางเครือข่ายให้เหนียวแน่นเอาไว้ก่อน หากชะล่าใจอาจเสียท่าให้ “ฉัตรชัย” ได้
 
เขต 7 “ชินวรณ์ บุณยเกียรติ” จากประชาธิปัตย์ แชมป์เก่า แต่มาคราวนี้พื้นที่เดิมของ “ชินวรณ์” ถูกผ่าไปเป็นเขตเลือกตั้งที่ 8 ส่งผลให้คู่แข่งมีความหวังที่จะมาช่วงชิงเก้าอี้ ส.ส.

โดยพรรครวมไทยสร้างชาติส่ง “ธีรพงษ์ เพิ่มไกรนรา” ลงมาสู้ ขณะที่พรรคภูมิใจไทยส่ง “เชษฐา ขาวขำ” ที่ได้รับการสนับสนุนจาก “อารี ไกรนรา” ช่วยเรียกแต้ม เขตนี้ต้องสู้กันหนัก แม้จะมีการแบ่งเขตใหม่ แต่ “ชินวรณ์” ก็มีเดิมพันสูงเช่นกัน

เขต 8 เป็นพื้นที่ฐานเสียงเดิมของตระกูลบุณยเกียรติ โดย “ชินวรณ์” ยอมหลบไม่ลงสมัครในเขตนี้ เพราะต้องการสนับสนุนลูกสาว “ปุณณ์สิริ บุณยเกียรติ” ลงสมัครในนามประชาธิปัตย์  โดยชนกับ “มุกดาวรรณ เลื่องสีนิล” จากค่ายภูมิใจไทย ที่มี “อารี” คอยสนับสนุนเช่นกัน โดยมี “สุนทร รักษ์รงค์” จากพลังประชารัฐ ผู้กว้างขวางในวงการชาวสวนยาง เป็นตัวสอดแทรกที่น่าสนใจ 

เขต 9 เป็นเขตใหม่ทั้งหมด โดย “อวยพรศรี เชาวลิต” จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้บารมีของสามี “นายกเอ ท่าศาลา” อภินันท์ เชาวลิต เจ้าของฉายาเมียข้าใครอย่าแตะ ทำให้ “อวยพรศรี” ถือความได้เปรียบมากกว่าผู้สมัครจากพรรคอื่น 

คู่แข่งสำคัญโฟกัสไปที่ “อำนวย ยุติธรรม” น้องชาย “สายัณห์” จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ลงสมัครท้าชิง ด้วยแรงหนุนจาก “สายัณห์” และทีมงานตระกูลยุติธรรม ผนวกกับกระแส “ลุงตู่” ส่งให้ “อำนวย” มีลุ้นเข้าวิน แม้จะชนกับ “อวยพรศรี” ก็ตาม

เขต 10 เจ้าของพื้นที่เดิมคือ “พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล” ย้ายค่ายจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยตัดสินใจทางการเมืองครั้งสำคัญมาร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ คะแนนนิยมในตัวของ “ส.ส.ปุ้ย” ยังเหนือกว่าคู่แข่งจากพรรคอื่น 

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ส่ง “ศิลป์ชัย สุนทรมัฏฐ์” หวังหวังล้มยักษ์อย่าง “พิมพ์ภัทรา” ส่วนพรรคภูมิใจไทย “พ.ต.ประเสริฐ สายทองแท้” อดีต ผบ.ค่ายฝึกการรบพิเศษสิชล  คนพื้นที่มาในค่ายภูมิใจไทย แอบลุ้นอยู่ห่างๆ

ทั้งหมดคือโอกาส ความน่าจะเป็นในสนามเลือกตั้ง “เมืองคอน” ต้องรอติดตามว่า “ชัยชนะ” จะพาลูกทีมบ้านใหญ่ “เดชเดโช” เข้าวินได้มากน้อยเพียงใด เช่นเดียวกับตระกูลเก่า “เมืองคอน” ที่หนุนหลังผู้สมัคร ส.ส. พรรครวมไทยสร้างชาติ จะถอนแค้นตระกูลเดชเดโชได้หรือไม่ น่าจับตามองอย่างยิ่ง