"สุชาติ" ซัด "ธนาธร" เอาดีเข้าตัว ชั่วให้คนอื่น ไล่ อย่ามาเป็นนักการเมือง

"สุชาติ" ซัด "ธนาธร" เอาดีเข้าตัว ชั่วให้คนอื่น ไล่ อย่ามาเป็นนักการเมือง

"สุชาติ" ซัด "ธนาธร" ด้อยค่านักการเมือง ไล่อย่ามาเป็น รับไม่ได้ เอาดีเข้าตัว ชั่วให้คนอื่น แจง 250 ส.ว. อยู่ใน รธน. โหวตนายกฯ ในสภา เกินกึ่งหนึ่งอยู่แล้ว ยัน ไม่มีส่งคนไปขู่ เผย ไหว้ สนธยา เหตุเป็นพี่คนหนึ่ง

นายสุชาติ ชมกลิ่น แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยถึงเหตุการณ์ตอบโต้กับนายธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล บนเวทีดีเบตนโยบายภาคตะวันออก ซึ่งจัดโดยเครือเนชั่น ภายใต้โครงการ “Road to The Future : เลือกตั้ง 66 อนาคตประเทศไทย” ที่ศาลากลางเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ช่วงค่ำวันที่  8 เมษายน ที่ผ่านมาว่าการดีเบตเป็นเรื่องการแสดงวิสัยทัศน์ของแต่ละพรรคการเมือง 5 นาทีแรก เป็นการแสดงผลงานที่ผ่านมา ตนพูดถึงภาคแรงงาน ภาคอุตสาหกรรม การส่งออกยานยนต์ มีการพิจารณาโบนัส และโบนัสก็เป็นไปตามคาดการณ์ เศรษฐกิจโต บางบริษัท 8.5 เท่า บางบริษัท7.5 เท่าพร้อมเงินบวกต่อเดือนขึ้นเงินเดือนด้วย อัตราการว่างงาน โดยรีพอร์ทไอเอ็มเอฟ ระบุว่าอัตราการว่างงานของประเทศไทยต่ำที่สุดคือ1 % และเรื่องนี้นายธนาธรมาพูดตอนหลัง คิดว่าคงมีคนไปพิมพ์ข้อมูลให้เขาทางมือถือนายธนาธรเลยขอพูด โดยท้วงติงว่าโบนัสเป็นแบบนี้มาเป็น 10 ปี อัตราการว่างงานก็ต่ำแบบนี้ จริงๆแล้วไม่ใช่ผลงานรัฐบาล

หลังจากนายธนาธร ตนจึงพูดกลับไปว่าจริงๆแล้ว สิ่งที่คุณพูดมาเป็นการการันตีผลงานรัฐบาลทันที เพราะนายธนาธรบอกว่าอยู่ในภาคยานยนต์มา 20 ปี แปลว่าอะไร ทั่วโลกช่วงเกิดโควิดเขาเจ๊งกันหมด โบนัสไม่มีจ่าย บริษัทล้ม ลูกจ้างโดนเลิกจ้าง แต่ประเทศไทยจ่ายโบนัสได้เท่าเดิมหรือมากกว่าเดิม อัตราการว่างงานก็ต่ำที่สุดในโลก นี่ก็แปลว่าการันตีผลงานของรัฐบาลทันทีทำงานตรงเป้าหมาย  ทำให้รักษาการจ้างงาน ส่งออกเติบโต ทำให้ภาคยานยนต์มีโบนัสนี่เป็นการการันตีผลงาน ทำให้รู้สึกตกใจว่านายธนาธรเข้าใจคำถามหรือเปล่า

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า นายธนาธรบอกว่าให้เลือกพรรคเขาเพราะเป็นประชาธิปไตย ต้องเอานักการเมืองที่ฝักใฝ่เผด็จการออกไป นักการเมืองที่ทำให้ประเทศไม่เจริญคือพวกฝักใฝ่เผด็จการ ตนนั่งฟังแล้วมีความรู้สึกว่าเป็นการด้อยค่าสถาบันการเมือง การที่ตนพูดสวนไปไม่ใช่เรื่องส่วนตัวตน พูดเพื่อรักษาความเชื่อมั่นน้องๆรุ่นใหม่ๆที่อยากจะมาทำการเมือง มารับใช้ชาติบ้านเมือง ถ้าถูกด้อยค่าใครจะอยากมาทำงานการเมือง ใครอยากจะมาเป็นนักการเมืองตนจึงพูดออกไปว่า ถ้าคุณด้อยค่านักการเมือง คุณก็อย่าเป็นนักการเมือง ผมก็ต้องรักษาสถาบันการเมืองให้ดี จึงเรียกร้องส.ส.หรือผู้นำท้องถิ่นท้องที่ ในฐานะที่เป็นนักการเมืองต้องช่วยกันปกป้องสถาบันการเมืองของเรา ไม่ใช่ให้ใครคนใดคนหนึ่ง มาด้อยค่า ตนรับไม่ได้ที่จะให้ใครมาพูดด้อยค่า เอาความดีให้ตัว เอาชั่วให้คนอื่นแบบนี้
 

ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาโควิดของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายสุชาติ ชี้แจงว่าองค์การอนามัยโลกได้มาเข้าพบตนที่กระทรวงแรงงาน และได้รับคำชื่นชมรัฐบาลไทยที่ช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานในโรงงาน มีการเปิดจุดตรวจให้พนักงาน ช่วงส่งออกสินค้าให้ต่างประเทศมีพนักงานติดโควิด จึงได้ทำโครงการ 'แฟคตอรี่ แซนด์บ็อกซ์' ทำธุรกิจส่งออกพุ่ง สร้างผลกำไรปี2564 ช่วงโควิดคนตกงานเยอะมาก แต่ประเทศไทยมีเงินจ่ายโบนัส เพราะรัฐบาลให้เงินช่วยเหลือ SMEให้อยู่รอดประคองจนกระทั่งเปิดประเทศ

นอกจากนี้ นายสุชาติ ยังชี้แจงประเด็นที่นายธนาธรพูดถึง ส.ว.250 คนมีสิทธิโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีว่า เรื่องนี้เป็นการบัญญัติในรัฐธรรมนูญ หลังเลือกตั้งรัฐบาลได้รัฐธรรมนูญที่อยู่ในบัญญัติข้อนี้ วันนี้ใครจะเป็นผู้เล่นรับกติกาได้ ก็เป็นผู้เล่น ไม่ได้ก็เป็นผู้ดู เมื่อจะเป็นผู้เล่นก็ต้องยอมรับกติกานี้ และเรื่องนี้คงคิดแทนส.ว.ไม่ได้ ตนเป็นเพียง 1 สิทธิเท่านั้น เหตุการณ์วันดังกล่าวโหวตด้วยเสียง ส.ส.รวม 253 หรือ 254 เสียง เกินกึ่งหนึ่งอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ควรใช้วาทกรรมพูดดำเป็นขาวและขาวเป็นดำ นักการเมืองลักษณะนี้ไม่ควรมีอยู่ในสังคมการเมืองแล้ว

ส่วนที่มีกระแสในโซเซียลมีการกล่าวหาว่านายสุชาติ ส่งคนไปข่มขู่นายธนาธร นายสุชาติยืนยันว่า ไม่มีและตนเองอยู่บนเวที และไม่เห็นมีเหตุการณ์ดังกล่าวช่วงที่นายธนาธรไปด้อยค่านักการเมือง กองเชียร์หลายพรรคการเมืองมีพรรคอื่นอยู่หน้าเวทีด้วย แต่เชื่อว่าสิ่งที่ถ่ายทอดสดประชาชนเห็นแล้วว่าเรื่องจะไม่เกิดขึ้น ถ้านายธนาธรไปด้อยค่านักการเมือง ทุกคนเป็นเพื่อนทางการเมืองด้วยกันหมด ทุกคนทักทายกัน ยกเว้นเขาที่ไม่คุยกับใครบนเวทีเลย 

สุชาติ ซัด ธนาธร

นายสุชาติ กล่าวถึงภาพช่วงไปทักทายยกมือไหว้นายสนธยาว่า ตนกับนายสนธยา ไม่ได้มีอะไรกันเลย ต่างคนต่างอยู่คนละพรรค และอุดมการณ์พรรคคนละแนวทาง และนายสนธยาเหมือนพี่คนหนึ่ง เพราะตนเป็นเด็กกว่านายสนธยาอายุมากกว่า โยงใยเหมือนพี่น้องกันมากกว่า เรื่องนี้ไม่มีประเด็นอะไร 

ส่วนเป้าหมายส.ส.ชลบุรี นายสุชาติ กล่าวว่า มั่นใจในตัวผู้สมัครทั้ง 10 เขต ผู้สมัครแต่ละคนเหมาะสมกับพื้นที่ลงสมัคร มีความใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่ และมั่นใจว่านโยบายที่นำเสนอไปเมื่อพรรครวมไทยสร้างชาติเข้าไปเป็นรัฐบาลสามารถทำต่อได้ทันที และมั่นใจว่าผู้สมัครของพรรค  6-7 เขต จะได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชน 70-80% ส่วนพื้นที่ส.ส.เก่าอาจมีการแข่งขันกันดุเดือด