“นายกฯ” ลั่น มีมาตรการแก้ PM2.5 ภาคเหนือ ยกระดับวาระแห่งชาติ

“นายกฯ” ลั่น มีมาตรการแก้ PM2.5 ภาคเหนือ ยกระดับวาระแห่งชาติ

นายกรัฐมนตรี ยกปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 เป็น วาระแห่งชาติ ยืนยัน รัฐบาลเตรียมแผนรับมือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน เป็นพื้นที่ห่วงภาคเหนือพื้นที่สีแดง รับผลกระทบหนักในอาเซียน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาหมอกควันและฝุ่นพิษโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ที่เป็นจุดแดงหนาและได้รับผลกระทบเยอะ ในภูมิภาคอาเซียน ยืนยันว่ารัฐบาลมีมาตรการในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว 

สาเหตุส่วนหนึ่งยอมรับว่ามาจากการเกิดการเผาป่า และการเผาพื้นที่เกษตรจากเกษตรกรรายย่อยที่ไม่มีเครื่องจักรในการปรับพื้นที่ โดยที่ผ่านมาได้ให้กำหนดเวลาในการเผาเพื่อลดผลกระทบ 

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอร้องว่าอย่าเผาพร้อมกันเพราะฝุ่นมันจะเยอะ ส่วนเรื่องของยานพาหนะ หรือรถยนต์ ซึ่งตอนนี้กำลังเข้าสู่การปรับเปลี่ยนการใช้พาหนะไฟฟ้า ไฮบริด ผสมผสานเพื่อลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งต้องยอมรับว่า ต้องเกิดความร่วมมือจากภาคประชาชนด้วยโดยในปี 2030 การใช้พาหนะดังกล่าวจะต้องมีรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศร้อยละ 30 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังระบุอีกว่า สาเหตุการเกิดจุดความร้อนเกิดจาก

​1  การเผาวัชพืช เผาพื้นที่เกษตร  ซึ่งในแต่ละจังหวัดกระทรวงมหาดไทย รวมถึงผู้ว่าแต่ละจังหวัดได้กำชับแล้วแต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ ส่วนตัวไม่อยากโทษใครแต่ถ้าแก้ได้ก็ต้องแก้ที่ตัวเอง

2. คือควรอยู่ฝุ่นละอองที่เกิดจากการเผาไหม้ของน้ำมันเชื้อเพลิงหรือรถที่ติดบนท้องถนนเนื่องจากรถได้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกินค่ามาตรฐาน โดยให้แต่ละพื้นที่รวมไปถึงกรุงเทพมหานครได้สำรวจถึงความเหมาะสมในการหยุดเดินรถด้วย

3. การสำรวจพื้นที่เกิดไฟป่าซึ่งต้องยอมรับว่าเกิดจากการเผาป่ ที่เกิดขึ้นจากฝีมือชาวบ้านส่วนใหญ่ที่เข้าไปหาของป่า หาเห็ด สัตว์ป่า ซึ่งอาจเกิดจากความตั้งใจเผาหรือการลืมไฟแช็คทิ้งบุหรี่ในป่า จึงเกิดปัญหาโดยส่วนตัวมองว่าเป็นไปได้ยากมากที่ต้นไม้จะสีกันจนเกิดเชื้อเพลิง

นอกจากนี้ยังได้หารือถึงการเผาป่าจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อแก้ปัญหาร่วมกันไม่ให้ประชาชนชาวไทยได้รับผลกระทบ ซึ่งรัฐบาลไทยได้ส่งหนังสือไปขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านแล้วหลายประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศก็เกิดปัญหาคล้ายกันคือประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ให้ความร่วมมือต้องอาศัยการเข้าไปทำความเข้าใจ 

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ารัฐบาลไทยได้มีการเตรียมความพร้อมโดยเฉพาะเรื่องของการดับไฟป่าโดยเฉพาะปัจจุบันอาศัยการทำฝนหลวงเข้ามาช่วยแต่ก็ต้องยอมรับว่าแต่ละพื้นที่สภาพอากาศต่างกันไม่ใช่ว่าจะขึ้นทำฝนหลวงแล้วฝนจะตกไปในพื้นที่เลย และตกก็ตกไม่ทั่วถึง 

โดยยอมว่าปัญหาและผลกระทบจากหมอกควันฝุ่นพิษหรือ PM 2.5 ในขณะนี้เป็นวาระของชาติที่ผ่านมาพยายามแก้ไขปัญหาทั้งต้นทางกลางทางและปลายทาง ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคนเพื่อส่วนรวม เพราะทุกคนก็ได้รับผลกระทบและเดือดร้อน