"ประยุทธ์" ลุยภูเก็ต ปัดมาหาเสียง แต่พลั้งปากถาม "จะเลือกใคร"

"ประยุทธ์" ควง "อนุพงษ์-สุชาติ-ธนกร" ตรวจเยี่ยม "อันดามันพร้อม" บอกดีใจได้เห็นความสำเร็จ พลั้งปากถามเลือกใครหละ ก่อนแก้ต่าง ไม่ได้มาหาเสียง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดภูเก็ต ติดตามความคืบหน้าโครงการ "อันดามันพร้อม" พร้อมกล่าวแสดงทรรศนะและมอบนโยบายทิศทางอนาคตอันดามัน ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จ.ภูเก็ต
โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนดดีในที่ได้มา จ.ภูเก็ตอีกครั้ง เพื่อติดตามความคืบหน้าที่ได้ดำเนินการ ตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 เข้ามา ตนขอขอบคุณทุกคนที่ไว้ใจและเชื่อมั่นการตัดสินใจของ นายกฯ และรัฐบาล ที่จำเป็นต้องตัดสินใจบนความเสี่ยง และมีคนดูแคลนว่าทำให้ประชาชนเป็นเหยื่อ
"ผมยืนยันที่ผ่านมา 8 ปีจนถึงวันนี้พยายามทำอะไรหลายอย่าง ผมดีใจที่มีการพูดถึงคำว่ายุทธศาสตร์ชาติของผม ก่อนจะทำอะไรก็ตาม ผมคิดเสมอว่า เป็นคนคิดวิสัยทัศน์ของประเทศไทย มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน สิ่งสำคัญคือการกำหนดวิสัยทัศน์ ที่ต้องมียุทธศาสตร์ มีแผนแม่บทสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา สิ่งนอกเหนือคือรายละเอียดแผนปฏิบัติที่ต้องทำ ที่ผ่านมามีการเซ็น MOU ไม่รู้เท่าไหร่ ตั้งแต่ผมเข้ามา บอกกระทรวงต่างประเทศว่า ไม่ให้ทำเฉพาะ MOU สิ่งที่ต้องทำคือ MOดู ตกลงเจรจาเซ็นแล้วก็ทิ้งไปหลายปี ผมบอกไปเอาขึ้นมาเลย ว่าจะทำอะไร เร่งมาให้ตรงกัน วันนี้เดินหน้าไปหลายเรื่องแล้ว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราทำมาเยอะ เราเดินมาไกลแล้ว และประเทศไทยเดินมาไกลแล้ว ไม่สามารถย้อนกลับไปที่เดิมได้อีก หากบ้านเมืองมีปัญหา เป็นไปไม่ได้ที่จะย้อนไปที่เดิม ทั้งนี้ตนไม่ต้องการอะไรอีก ตนเป็นผู้ใช้รับใช้ท่าน เป็นคนรับใช้ท่าน ตลอด8ปีที่ผ่านมาา ตนพูดจริง
"ผมขอระบายสักหน่อย ได้พูด ค่อยหายใจออกหน่อย หลายคนอยากเป็น แก้ให้ได้ก็แล้วกัน ทำให้ท่านให้ได้ก็แล้วกัน ทำได้ผมก็ยินดีด้วย แต่วันนี้ผมยังทำอยู่ เพราะผมเป็นรัฐบาลรักษาการ แต่ติดปัญหาเรื่องงบประมาณ แต่ต้องดูว่าจะสามารถแก้ไขอย่างไรได้ งบที่เสนอมาก็ต้องเข้าไปที่สภาฯ ใครเป็นรัฐบาลเข้ามาผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมพูดไม่ได้ แต่ผมยืนยันว่าจะเสนอสิ่งเหล่านี้เข้าไปในงบประมาณปี 2567 แต่ไม่รู้ใครจะเป็นรัฐบาลต่อ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อพล.อ.ประยุทธ์ พูดถึงช่วงหนึ่ง ได้กล่าวขึ้นว่า "เลือกใครหละ" ทำให้ได้รับเสียงปรบมือจากประชาชน จากนั้น พล.องประยุทธ์ กล่าวว่า "พอแล้วๆ พรุ่งนี้ถูกพาดหัวข่าว ปากนี่ชอบหาเรื่องอยู่เรื่อย ไม่มีอะไรผมเป็นคนแบบนี้เป็นคนง่ายๆ ใจผมคิดไงก็พูดงั้น ไม่มีอะไร"
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวต่อด้วยว่า ตนมีทีมที่ดี บริหารรัฐบาลที่มาจากการเลือกกตั้ง รัฐบาลผสมอยู่ตนได้ตนได้4 ปี ไม่ใช่รัฐบาลคสช. จนถึงวาระสุดท้าย ทั้งนี้การเมืองทำได้ยาก ตนไม่เคยใช้อำนาจอะไรสักอย่าง ทั้งหมดเป็นการบูรณาการการทำงาน บางครั้งกว่าจะได้มาเจรจากันไม่รู้กี่รอบ ขอให้ตั้งใจติดตาม การทำงานทุกอย่างต้องร่วมมือกัน ไม่มีปัญหาขัดแย้งกัน
"วันนี้มาในนามนายกฯ ไม่ได้มาในนามอื่น คนทุกรุ่นคือคนไทย หากเราไม่รักกันแล้วใครจะรัก หากไม่ร่วมการแก้ไขปัญหาแล้วใครจะทำ ไม่ว่าจะภาครัฐภาคประชาชนหรือธุรกิจเอกชนนี่คือคนไทยของประเทศของเรา ซึ่งต้องผ่านการเห็นชอบของประชาชนนั่นคือประชาธิปไตยของเรา นั่นคือการสร้างความเข้าใจที่ดี หากมีปัญหาก็ต้องหาทางออก หากดันทุรังบ้านเมืองก็ตีกันอยู่อย่างนี้ อย่าให้บ้านเมืองกลับไปเหมือนเดิมเด็ดขาด เราเดินมาไกลมากแล้ว เดินถอยหลังก็ไม่ได้ เราต้องเลือกว่าจะเดินไปสู่ยอดหรือจะถอยหลังกลับไปเหมือนเดิม ฝากพวกเราทุกคนไว้ด้วย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าาว
โดยในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลหน้าต้องทำให้ได้ ใครอยากทำให้เขาทำไป ตนจะอยู่ตรงนี้ และทำตรงนี้ให้ดีที่สุด
"วันนี้ผมไม่ได้มาหาเสียงนะ ผมบอกให้ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนต้องว่า ผมมาหาเสียง กลับกลายเป็นว่า เดี๋ยวนี้ใครก็ว่าหาเสียงหาเสียง แล้วมันจะหาทำไมนักหนา ผลงานก็มีอยู่แล้วนี่ไงเล่า ใช่หรือเปล่า ทำแล้วหรือเปล่า พอแล้วเดี๋ยวเขาหาว่าพูดมาก ก็ขอให้ทำงานให้สำเร็จทุกประการ พร้อมขอฝากเชื่อมโยงประเทศไทยไปข้างหน้าด้วยกัน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะของนายกฯ ได้ ติดตามการดำเนินโครงการป่าในเมือง และช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชน ที่มาต้อนรับว่า "ผมมาแนะนำนายกรัฐมนตรีในนามตัวแทนของท่าน เปลี่ยนแปลงหรือไม่ก็คนเดิมนี่แหละ"
จากนั้นประชาชนได้ตะโกนขึ้นมาว่า "อยากให้ลุงตู่เป็นรัฐบาลต่อ อะไรจะได้ทำได้สำเร็จ" ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า "นี่เป็นการพูดจากใจถึงใจ ผมพูดได้ไม่มากนักหรอกในการเป็นนายกรัฐมนตรีผมต้องระมัดระวังมากที่สุด แต่วันนี้ผมยืนยันว่าผมมาดูแลทุกข์สุขของประชาชนที่ผมทำไปแล้ว อะไรที่ทำไม่เสร็จก็จะทำให้เสร็จ เท่าที่ยังอยู่จากนั้นก็เป็นเรื่องของท่านก็เป็นเรื่องของกระบวนการประชาธิปไตย".