“พิจารณ์ ก้าวไกล” ซัด กกต.แบ่งเขตเลือกตั้ง 66 กทม.ไม่มีความพอดี ทำ ปชช.สับสน

“พิจารณ์ ก้าวไกล” ซัด กกต.แบ่งเขตเลือกตั้ง 66 กทม.ไม่มีความพอดี ทำ ปชช.สับสน

“พิจารณ์ ก้าวไกล” ออกโรงซัด กกต.วางรูปแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 66 กทม.ไม่มีความพอดี ค่าความเบี่ยงเบนสูง หวั่นทำประชาชนสับสนตัวผู้สมัคร จี้รีบดำเนินการ เหตุไม่รู้ยุบสภาฯกับแบ่งเขตอันไหนมาก่อน

เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2566 นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ในการเลือกตั้ง 2566 พรรคก้าวไกลมีข้อเสนอแนะอย่างไรบ้าง ว่า ความเห็นส่วนตัว เห็นว่าการแบ่งเขตพื้นที่ กทม. ที่มี 4 รูปแบบ สามารถแยกออกมาได้ 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ รูปแบบที่ 1 และรูปแบบที่ 2 ที่เป็นการแบ่งเขตที่คำนึงถึงหลักเกณฑ์ค่าความเบี่ยงเบนจากค่าเฉลี่ยของผู้มีสิทธิเลือกตั้งว่า บวกลบไม่เกิน 10% 

นายพิจารณ์ กล่าวอีกว่า แต่เมื่อคิดจาก 33 เขต พบว่า ในรูปแบบที่ 1 และรูปแบบที่ 2 ไม่มีเขตใดเลยที่ค่าความเบี่ยงเบนเกิน 10% แตกต่างกับอีกส่วนคือ รูปแบบที่ 3 และรูปแบบที่ 4 ที่จะไม่ได้คำนึงถึงค่าความเบี่ยงเบนมากเท่าใด แต่คำนึงถึงเขตเลือกตั้งเดิมและเขตปกครองใน กทม. มากกว่า จึงมีค่าความเบี่ยงเบนสูงมาก โดยเขตที่มีค่าเบี่ยงเบนสูงสุด อยู่ที่ประมาณ 27% ดังนั้น การแบ่งเขตของ กกต. จึงไม่มีความพอดี และจะทำให้ประชาชนสับสนในตัวผู้สมัคร แต่สำหรับพรรค ก.ก. ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ไม่มีปัญหา เพราะพร้อมจะแข่งขันในทุกกติกา

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลมีความกังวลกับกติกาเลือกตั้งของ กกต. หรือไม่ นายพิจารณ์ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องระวังคือ การไม่รู้ว่า การยุบสภาฯ กับการแบ่งเขต อะไรจะเกิดก่อนกัน ทำให้เกิดความยุ่งยากในการรณรงค์หาเสียง เพราะเกรงว่าจะผิดกฎหมายเลือกตั้ง ทั้งนี้ เมื่อประกาศพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เลือกตั้ง ผู้สมัคร ส.ส.แต่ละคน ต้องระมัดระวังในการหาเสียง ถ้าเขตเลือกตั้งไม่ชัดเจน ก็จะทำงานยาก ไม่ว่า กกต. จะแบ่งเขตอย่างไร ก็รีบแบ่ง เพราะเราพร้อมที่จะเข้าสู่การแข่งขันแล้ว